คอลัมนิสต์

เกมซ่อนเงื่อน ‘พิธา’ จุดพลุ ‘ไอทีวี’ คืนชีพ แผนสกัดสู่นายกฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส่องหุ้นสื่อร้อนๆ พิธา เป็นคนแรกที่จุดพลุแผนคืนชีพไอทีวี เป็นสื่อ เพื่อผลทางการเมือง จึงโอนหุ้นให้ทายาท แต่ยังลุ้นการไต่สวนของ กกต.กรณีถือหุ้นไอทีวี ตามมาตรา 151

อ่านเกมทะลุ พิธา จุดพลุแผนคืนชีพไอทีวีเป็นสื่อ เพื่อผลทางการเมือง จึงโอนหุ้นให้ทายาท แต่งเนื้อแต่งตัวใหม่ ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ


ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ อีกไม่นานปมคลิปประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี คงคลี่คลาย แต่ พิธา ยังต้องลุ้นไปกับการไต่สวนของ กกต. กรณีถือหุ้นสื่อ ในคดีอาญา มาตรา 151  
 

กรณีทีวีช่องหนึ่ง นำคลิปวิดีโอบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.ไอทีวี เมื่อ 26 เม.ย.2566 มาเผยแพร่ และตั้งข้อสังเกตถึงกรณีบันทึกการประชุมที่มีการเผยแพร่เป็นเอกสาร ไม่ตรงกับการประชุมที่มีการถ่ายทอดผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ในประเด็นไอทีวี ยังประกอบกิจการสื่อหรือไม่


ในเอกสารระบุว่า ยังดำเนินการอยู่ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท(ทำสื่อ) แต่ในคลิปกลับบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ดำเนินการใดๆ รอให้คดีความสิ้นสุด 


หลังการเผยแพร่คลิปบันทึกการประชุม ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บ้างว่าเกมพลิก บ้างก็ว่า นี่ไงหลักฐานการพยายามปลุกผีไอทีวี เพื่อพิฆาตพิธา


ถ้าจำกันได้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แถลงเรื่องหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น ให้ทายาทอื่น เพื่อป้องกันปัญหาจากกระบวนการฟื้นคืนชีพความเป็นสื่อให้กับบริษัทไอทีวี
 

พิธา ยังยกกรณีการตั้งคำถามจากผู้ถือหุ้นบางรายที่ว่า ไอทีวีมีการดำเนินการเรื่องสื่อหรือไม่คำถามนี้ เพื่อผลทางการเมืองหรือไม่ และนี่คือพฤติการณ์จะฟื้นคืนชีพไอทีวีกลับมาเป็นสื่อใช่หรือไม่


พลันที่มีการเผยแพร่คลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีดังกล่าว หลายคนสรุปทันที มันเป็นแผนการสมคบคิดกันของคนบางกลุ่ม เพื่อสกัดพิธาเป็นนายกฯ 


ล่าสุด ความขัดแย้งกันระหว่างคลิปการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) กับแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ที่ไอทีวียื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและเอกสารงบไตรมาสแรกปี 2566 ของไอทีวี 


ทางบริษัท อินทัช โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บมจ.ไอทีวี จะตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้น และหากมีประเด็นใดๆ ที่จะต้องให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ทางไอทีวีจะดำเนินการให้เร็วที่สุด 

 

 

ไอทีวีจะกลับมา
ดังที่ทราบกัน พิธา เป็นคนแรกที่ชี้เป้าไอทีวีจะฟื้นคืนชีพเป็นสื่อ แม้ช่องไอทีวีจะจอดำ แต่ บมจ.ไอทีวี ยังคงสถานะเป็นบริษัท เพราะยังมีการฟ้องร้องอยู่กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) จากการที่ สปน.ยกเลิกสัญญาสัมปทานที่ทำกับ บมจ.ไอทีวี


ช่วงต้นเดือน เม.ย.2566 อดีตคนไอทีวี ได้รับทราบข่าวดีว่า ไอทีวีชนะคดีในศาลปกครองกลางแล้ว โดยคดีอยู่ในชั้นศาลปกครองสูงสุด และเดือน มิ.ย.นี้ ศาลจะมีคำวินิจฉัยมา แนวโน้มไอทีวีจะชนะ และได้สิทธิดำเนินกิจการสื่อ


ตอนหลัง พวกเขากลับได้รับข้อมูลว่า มีความพยายามฟื้นคืนไอทีวี เพื่อหวังผลการเมืองของคนบางกลุ่ม จึงมีการรวมตัวกันหาข้อมูล และกลายเป็นรายงานเจาะลึกเบื้องหลังไอทีวี

 

 

นิกม์ และพิธา สมัยหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 ในนามพรรคอนาคตใหม่

 

 

คนต้นเรื่อง
คนต้นเรื่องไอทีวี ยังทำสื่ออยู่ และส่งสัญญาณเตือนถึงพิธา กรณีถือหุ้นไอทีวี คือ นิกม์ แสงศิรินาวิน อดีตผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ เขตหนองจอก พรรคภูมิใจไทย 


นิกม์เคยลงสมัคร สส.กรุงเทพฯ เขตสายไหม พรรคอนาคตใหม่ ในปี 2562 แต่สอบตก จึงลาออกจากพรรคสีส้ม มาลงสมัคร สก.เขตสายไหม ในนามกลุ่มรักษ์กรุงเทพ แต่ก็ไม่ได้รับการเลือกตั้ง


ทั้งนิกม์ และภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่ไอทีวีเมื่อ 26 เม.ย.2566 ซึ่งภาณุวัฒน์ได้ตั้งคำถามว่า หุ้นไอทีวียังมีการดำเนินกิจการธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ 


นิกส์ ยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักกับเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็นการส่วนตัวและไม่ทราบว่า เรืองไกร ได้ข้อมูลเรื่องการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีมาจากใคร แต่ไม่ใช่จากตนเองแน่นอน 


อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า มีความสนใจเรื่องไอทีวีตั้งแต่ปี 2562 และเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง ไม่มีนายทุนหรือบุคคลสำคัญคนไหนหนุนหลัง


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ