คอลัมนิสต์

เกมซ้อนเกม ‘ชลน่าน’ ประมุขสภาล่าง กดดัน ‘พิธา’ เอ็มโอยูไม่หวาน

เกมซ้อนเกม ‘ชลน่าน’ ประมุขสภาล่าง กดดัน ‘พิธา’ เอ็มโอยูไม่หวาน

24 พ.ค. 2566

MOU ไม่หวานชื่น กองเชียร์สีแดงดัน ชลน่าน ชิงประธานสภาฯ พิธา ถอยไม่ได้ พรรคอันดับหนึ่ง ต้องเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ หากไม่ได้ตำแหน่งนี้ ปิยบุตรห่วงดับฝันแก้ ม.112

MOU เป็นพิษ กองเชียร์สีแดงดัน ชลน่าน ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ พิธา ถอยไม่ได้ พรรคอันดับหนึ่ง ต้องเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ  ติ่งเพื่อไทยส่งเสียง หาก ชลน่าน ไม่ได้นั่งประธานสภาล่างก็ให้ถอนตัว ปล่อย พิธา จัดตั้งรัฐบาลไปตามลำพัง ปิยบุตรลั่นคำตำแหน่งนี้ให้ใครไม่ได้

 

หลังจบพิธีกรรมเอ็มโอยู ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินสายเลี้ยงกระแส ยึดครองพื้นที่ข่าว เพราะกว่าจะถึงวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ช่วงต้นเดือน ส.ค.นี้ ยังไม่รู้ว่า จะมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆแทรกซ้อนเข้ามา

ล่าสุด ประเด็นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร กลายเป็นวิวาทะข้ามพรรค ฟากก้าวไกล ประกาศจองตำแหน่งนี้ไว้แล้ว แต่เพื่อไทย ก็ส่งสัญญาณขอส่งคนนั่งตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้ที่ส่งเสียงดังๆว่า พรรคสีส้มต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯ คือ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า จึงทำให้ฝั่งพรรคสีแดงไม่พอใจ ดาหน้าออกมาโต้อาจารย์ป๊อก

 

ว่ากันว่า พรรคเพื่อไทย ได้มีการวางตัว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และอาจจะมี สุชาติ ตันเจริญ เพิ่มเข้ามาอีกคนหนึ่ง เพื่อชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ขณะที่พรรคก้าวไกล ก็มีชื่อ ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค, ธีรัจชัย พันธุมาศ ว่าที่ สส.กทม. และปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่ สส.พิษณุโลก เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ

กลเกมชิงประธานสภาฯ

 

เป็นเรื่องที่ประหลาดมาก จู่ๆ กองเชียร์เพื่อไทย ได้เคลื่อนไหวหนุน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นั่งประธานสภาฯ โดยอ้างว่า พรรคเพื่อไทย สนับสนุนพิธา เป็นนายกฯแล้ว พรรคก้าวไกลก็ควรจะให้พรรคอื่นดำรงตำแหน่งฝ่ายนิติบัญญัติ

 

นพ.ชลน่าน เต็งหนึ่งประธานสภาฯ ของเพื่อไทย

 

 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ อยู่ที่การตกลงและพูดคุยกัน ด้วยความเหมาะสม โดยในแต่ละสมัยก็ไม่เหมือนกัน

 

ส่วน อดิศร เพียงเกษ ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยออกมาเตือนพรรคส้มว่า จะกินรวบทุกตำแหน่ง โดยเข้าใจว่าตัวเองเป็นเสียงข้างมากไม่ได้ เพราะความเป็นจริงมี 152 เสียง ยังไม่เกินครึ่ง ถ้าอยากได้ทุกตำแหน่ง ต้องทำให้ได้แบบพรรคไทยรักไทย 377 เสียง ที่จะชี้เป็นชี้ตายเอาตำแหน่งไหนก็ได้

 

เนื่องจากฝั่งเพื่อไทยมองว่า จำนวน สส.ของ 2 พรรคใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตย ห่างกันไม่ถึง 10 เสียง เมื่อพรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหาร พรรคเพื่อไทยก็มีความชอบธรรมที่จะได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ

 

ดับฝันแก้ ม.112

 

ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า เรื่องของตำแหน่งประธานสภาฯ ควรเป็นของพรรคอันดับหนึ่ง สอดรับกับรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกลที่ยืนยันว่า ตำแหน่งดังกล่าว ทางพรรคก้าวไกลต้องขอเอาไว้เอง

 

ประเด็นร้อนเรื่องประธานสภาฯ นั้น เริ่มมาจาก ปิยบุตร แสงกนกกุล ทนไม่ได้ที่เห็นพิธา เซ็น MOU ที่ไม่ได้บรรจุเรื่องแก้ ม.112 ไว้ จึงโพสต์เฟซบุ๊คเตือนว่า ขั้นตอนต่อไปคือ การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ตำแหน่งนี้พรรคก้าวไกลจะเสียไปไม่ได้เป็นอันขาด

 

อาจารย์ป๊อกอ้างว่า มีข่าวปรากฏออกมาตามสื่อมวลชนว่า พรรคเพื่อไทยขอตำแหน่งประธานสภาฯ “ผมเห็นว่าพรรคก้าวไกล ปล่อยตำแหน่งนี้ให้กับพรรคใดๆไม่ได้”

 

เหตุที่พรรคก้าวไกลต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะนโยบายของพรรคที่ใช้รณรงค์หาเสียงหลายเรื่องต้องผลักดันผ่านสภา ต้องตราเป็นพระราชบัญญัติ จึงจำเป็นต้องมีประธานสภาฯ เพื่อคุมวาระและญัตติ

 

ที่สำคัญ การแก้ไข มาตรา 112 พรรคก้าวไกลต้องใช้กลไกสภาในการผลักดัน หากไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ก็มีอุปสรรคแน่ เพราะมีบทเรียนจากกรณีร่างแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลสมัยที่แล้ว ชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ ใช้ดุลยพินิจไม่บรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ

 

ดังนั้น หากประธานสภาฯ ไม่ใช่คนของพรรคสีส้ม ก็เท่ากับปิดฉากการแก้ไข ม.112 และส่งผลถึงด้อมส้มทั้งหลาย ที่ต้องการเห็นการแก้ไข ม.112 คงจะหันหลังให้กับพรรคก้าวไกล โดยเลือกที่จะเคลื่อนไหวปฏิรูปสถาบันเบื้องสูงตามแนวทางของพวกเขา