คอลัมนิสต์

สงครามส้มแดง ‘อุ๊งอิ๊ง’ นายกฯตัวจริง ชน ‘พิธา’ ตัวต่อตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไพ่ใบสุดท้าย อุ๊งอิ๊ง ชิงรุกขึ้นแท่นนายกฯตัวจริง สกัด พิธา ที่คะแนนนิยมพุ่ง เพื่อไทยติดกับดักพาทักษิณกลับบ้าน ตกเป็นรองก้าวไกลในโค้งสุดท้าย

ศึกขั้วประชาธิปไตย อุ๊งอิ๊ง ชิงรุกทำแต้มยกสุดท้าย พิธา คะแนนนิยมพุ่ง จับตาแดงไม่แลนด์สไลด์ ส้มอาจสไลด์เข้าที่ 1 

 

ก้าวไกลมาพร้อมกระแสเปลี่ยน เพื่อไทยยังติดกับดักพาทักษิณกลับบ้าน จึงตกเป็นรองโค้งสุดท้าย คนแดนไกลจะพลิกเกมอย่างไร น่าติดตาม

 

วันที่ 3 พ.ค.2566 นิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 3 เป็นไปตามความคาดหมาย บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อันดับหนึ่ง 35.44% และอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตรอันดับสอง 29.20% 

 

สำหรับพรรคการเมืองที่ประชาชนจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ พบว่า คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย นำพรรคก้าวไกลไม่มากนัก

ผลโพลหลายสำนักชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ก้าวไกลไล่จี้เพื่อไทย อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จึงถือโอกาสช่วงแถลงข่าวการคลอดบุตรชายคนที่ 2 ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ หรือ น้องธาษิณ เปิดเผยแนวทางการหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย

หลังออกจาก รพ.พระราม 9 อุ๊งอิ๊งก็พร้อมจะไปขึ้นเวทีดีเบต และออกไปหาเสียงช่วยผู้สมัคร สส.ในบางพื้นที่

 

ยกสุดท้าย อุ๊งอิ๊งจะออกไปพบแฟนคลับแบบตัวเป็นๆ เร่งทำแต้มแซงก้าวไกล

ล่าสุด อุ๊งอิ๊ง เตรียมสารคดีเรื่อง The Candidate Paetongtarn เผยแพร่ผ่านทางเฟซ บุ๊กและยูทูบในวันที่ 6 พ.ค.2566 จากทักษิณ ถึงลูกสาว-อุ๊งอิ๊ง คู่ขนานไปกับการเดินทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยตลอด 1 ปี 6 เดือน

ฟันธงได้เลยว่า ไพ่ใบสุดท้ายของทักษิณคือ การชูลูกสาว แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯตัวจริง เลือกให้ชนะขาด เลือกอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ

 

ติดกับดักทักษิณ

 

ช่วงก่อนคลอด อุ๊งอิ๊ง เห็นสัญญาณคะแนนนิยมพรรคสีส้มดีวันดีคืน จึงกระตุ้นผู้สมัคร สส.พรรคสีแดง หันมาใช้โซเชียลหาเสียงมากขึ้น 

 

20 ปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร ปั้นพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองแรกๆ ที่เล่นกับ Political Marketing จนประสบความสำเร็จ และมาวันนี้ ทีมงานพรรคเพื่อไทย ก็เดินตามรอยพรรคไทยรักไทย แต่เหตุที่สู้กับพรรคก้าวไกลไม่ได้ ก็คือเนื้อหาที่จะสื่อสารถึงประชาชน

 

ทักษิณ ชินวัตร เป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง ไม่ปฏิเสธว่า คนอีสานและคนเหนือยังภักดีต่อแบรนด์เก่า-คนแดนไกล แต่อีกด้านหนึ่ง ชัยชนะในการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยยังผูกติดอยู่กับแผนการกลับบ้านของทักษิณ

 

แม้ว่า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร จะบอกว่า เรื่องทักษิณอยากกลับบ้าน ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของคุณตาอยากกลับมาเลี้ยงหลาน แต่ในความเป็นจริง แกนนำพรรคสีแดงก็รู้อยู่แก่ใจ

 

กลยุทธ์ปากต่อปาก

 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปั้นวลีหัวคะแนนธรรมชาติ หรือหัวคะแนนออแกนิก เป็นเครื่องมือหาคะแนนของพรรคสีส้ม แท้จริงแล้ว ก็คือ Viral Marketing หรือการตลาดแบบปากต่อปาก 

 

คนไทยวัย 50-60 ปี น่าจะคุ้นเคยกับกลยุทธ์ที่ว่านี้ เมื่อ พล.ต.จำลอง ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ในนามกลุ่มรวมพลัง โดยระหว่างการหาเสียง พล.ต.จำลอง มีภาพคนสวมเสื้อม่อฮ่อม สมถะ ถือศีล กินมังสวิรัติ ไม่มีเงินหาเสียง ไปเดินที่ไหน คนก็เอาเงินมายัดใส่กระเป๋า จึงก่อให้เกิดกระแสเลือกคนดี ลามลึกลงไปในกลุ่มพลังเงียบ

 

ผู้สมัคร สส.พรรคสีส้มก็ใช้กลยุทธ์แบบนี้ ขี่จักรยาน เดินเคาะประตูบ้าน ยืนปราศรัยตามชุมชน ไปไหนมาไหน มีชาวบ้านให้กำลังใจ 

 

พ.ศ.นี้ กระแสเลือกก้าวไกลในรูปแบบ Viral Marketing กำลังก่อตัวอยู่ในทุกพื้นที่ และอาจกลายเป็นสึนามิทางการเมืองในวันที่ 14 พ.ค.2566

 

จุดแข็งของพรรคก้าวไกลคือ ความใหม่ ไม่มีวาระทับซ้อนทางผลประโยชน์ จึงเล่นวาทกรรมตรงไปตรงมา และโดนใจคนที่อยากเห็นการเมืองใหม่

 

ที่สำคัญ พรรคสีส้มไม่มีภารกิจต้องพาใครกลับบ้าน จึงกล้าเสนอนโยบายเชิงโครง สร้าง และเดินหน้าชนทุนผูกขาดอย่างแข็งขัน

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ