ขออนุญาตใคร ‘ทักษิณ’ ผิดคิว ปลุกขวา ‘ประยุทธ์’

ตัวตึงแดนไกล ทักษิณ ผิดคิวขออนุญาตกลับบ้าน กองหนุนฝ่ายขวา ประยุทธ์ ออกอาการกระดี่ได้น้ำ ปลุกต้านระบอบแม้วโค้งสุดท้าย

 

ก้าวไกลไล่บี้จี้รดต้นคอเพื่อไทย ทักษิณ นิ่งอยู่ไม่ไหว พอหลุดคำจะกลับบ้าน ติ่งส้มก็ขยี้ ติ่งแดงโต้กลับ ฟัดกันนัว ขั้วบ้านใหญ่นั่งบนภู

อันเนื่องจาก ทักษิณ ชินวัตร ได้หลานคนที่ 7 ก็อดไม่ได้จะแสดงความดีใจและโพสต์ทางทวิตเตอร์ “หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็ว ๆ นี้ครับ ขออนุญาตนะครับ”

 

ประโยคที่ว่า “ขออนุญาตนะครับ” ถูกฝ่ายติ่งส้มนำไปขยายความ และโยงเข้าเรื่องดีลลับกับพรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ 

กองเชียร์สีส้ม มองว่า วาทกรรม มีลุงไม่มีเราของพรรคก้าวไกล คือความชัดเจน ทำให้คนฝั่งประชาธิปไตยเทมาเลือกก้าวไกลแทนเพื่อไทย ที่มีแต่ความคลุมเครือ

 

จตุพร พรหมพันธุ์ ได้ทีขยี้ต่อด้วยบทวิเคราะห์รายวัน บอกว่า ทักษิณพูดแบบนี้ปลุกมวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่หลับอยู่ให้ลุกตื่นขึ้น 

 

“คำพูดขออนุญาตกลับบ้านของนายทักษิณ จะลุกลามไปเร็วอย่างไฟลามทุ่ง และคนปากเร็วอย่างนายทักษิณ ที่เก็บวาจาได้นานก็ถือว่า เป็นความยากลำบากแล้ว เมื่อพูดออกมาในวันที่น่ายินดี ก็กลายเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาไป” 

 

ก่อนหน้านี้ กลุ่มแคร์ ขอหยุดรายการแคร์ทอล์คผ่านแอพฯ คลับเฮาส์ชั่วคราวก็เพราะหวั่นใจว่า พี่โทนี่หรือทักษิณ จะคิวหลุด ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของอุ๊งอิ๊ง และพรรคเพื่อไทย  

 

แนวร่วมมุมกลับ

 

ทักษิณ และกองเชียร์เสื้อแดง คงคิดเหมือนกันว่า พรรคเพื่อไทย มาอันดับ 1 และทิ้งห่างพรรคขั้วรัฐบาลเดิม แต่ความแรงของพรรคก้าวไกล ทำให้คนแดนไกลปวดหัว

 

นักวิเคราะห์การเมืองประเมินว่า ช่วงสัปดาห์สุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้งปรากฏการณ์เพื่อไทยแลนด์สไลด์ มีโอกาสสะดุดมากขึ้น พรรคเพื่อไทยอาจได้ต่ำกว่า 200 เสียง

ปัจจัยที่หนึ่ง หลายสำนักโพลชี้ว่ากระแสก้าวไกล ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ขณะที่ความนิยมของ เพื่อไทยกลับลดลงอย่างมีนัยยะ

 

ปัจจัยที่สอง การแย่งคะแนนในบ่อเดียวกันของพรรคฝ่ายประชาธิปไตย หากพรรคก้าวไกลได้ สส.มากขึ้น ก็เท่ากับไปลด สส.ของพรรคเพื่อไทย

 

ดังนั้น นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์บางสำนัก เริ่มมีความเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย จะได้ สส.ไม่ถึง 200 เสียง แต่พรรคก้าวไกลก็อาจได้ไม่ถึง 100 เสียงอย่างที่แกนนำพรรคสีส้มคาดหวัง

 

ทักษิณจึงใช้จังหวะที่ได้หลานคนที่ 7 ส่งสัญญาณกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน หวังกระตุกคนเสื้อแดง คนรากหญ้าให้เลือกพรรค เพื่อไทยอย่าเทใจไปเลือกพรรคอื่น(ขั้วเดียวกัน)

 

อีกด้านหนึ่ง สัญญาณทักษิณจะกลับบ้านเลี้ยงหลาน บวกกับกระแสก้าวไกลที่แรงขึ้น กลับปลุกพลังอนุรักษ์นิยม ให้หันมาชูคำขวัญโหวตเชิงยุทธศาสตร์ เลือกพรรคลุงตู่ อย่าเทใจไปเลือกพรรคอื่น(ขั้วเดียวกัน)

 

กลับบ้านแบบไหน

 

นักวิชาการและนักสังเกตการณ์ทางการเมือง ต่างเห็นตรงกันว่า หากทักษิณไม่เกี้ยเซี้ยกับกลุ่มผู้มีอำนาจ ในระบอบอนุรักษ์นิยม ไม่มีทางที่จะกลับบ้านได้

 

ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคยวิเคราะห์ว่า ต่อให้พรรคเพื่อไทย แลนด์สไลด์ได้เกิน 250 เสียง เรื่องทักษิณจะกลับบ้าน ก็ต้องคุยกับกลุ่มผู้มีอำนาจ

 

ดังนั้น แนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งของ พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ จึงเป็นทางเลือกสำหรับทักษิณ แต่ก็นำมาซึ่งความไม่ชัดเจนของ พรรคเพื่อไทย ตกเป็นรองพรรคก้าวไกล

 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีจุดยืนอยู่อีกขั้วหนึ่ง และไม่ประนีประนอมกับระบอบทักษิณ คงต้องใช้โอกาสนี้ เร่งเครื่องปลุกพลังอนุรักษ์นิยม โหวตแบบไม่แตกแถว เหมือนโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งปี 2562