โตแล้วแตก 'อนุชา' ทิ้ง 'สมศักดิ์' รับบทมือดีลปั้นตู่
แยกกันเราอยู่ “อนุชา” เลือกข้างลุงตู่ รับบทถนัดมือดีล จับคู่เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่นดูแลภาคกลาง “สมศักดิ์” อยู่กับลุงป้อม ลดขนาดกลุ่มสามมิตร ลดความเสี่ยง
สามมิตรเอาตัวรอด “อนุชา” เลือกข้างลุงตู่ รับบทถนัดมือดีลปั้น ส.ส.ป้อนรทสช. ส่วน “สมศักดิ์” ยังอยู่กับลุงป้อม ตามสูตรแยกกันเราอยู่
เบื้องลึกลุงตู่ ดึงเสี่ยแฮงค์ “อนุชา” จับคู่เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น ดูแลพื้นที่ภาคกลาง ประสานซุ้มบ้านใหญ่บ้านเล็ก
ในที่สุด อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.ชัยนาท ก็ถึงเวลาที่ต้องแยกทางกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในภารกิจการเลือกตั้ง
หลายคนอาจไม่ทราบว่า เสี่ยแฮงค์-อนุชา นาคาศัย อยู่กับสมศักดิ์ เทพสุทิน มาเกือบ 40 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยพรรคกิจสังคม รับบทมือจัดการงานเบื้องหลังให้สมศักดิ์
บริบทการเมืองยุคประชาธิปไตยแบบไทยๆ พี่น้อง 3 ป.แยกทางกันเดิน สมศักดิ์ จึงลดขนาดกลุ่มสามมิตร ด้วยการส่ง ส.ส.ในซุ้มไปซุกปีกพรรคภูมิใจไทย และที่เหลืออยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ก็ประมาณ 4-5 คนเท่านั้น
กรณีเสี่ยแฮงค์ คนสนิทสมศักดิ์ หลังสภาฯปิดสมัยประชุม 28 ก.พ.2566 ก็จะไปชูเสื้อพรรค รทสช. ร่วมขบวนแห่ลุงตู่อีกสมัย
‘มือดีล-สปอร์ตแมน’
“อนุชา” ทำงานร่วมกับ “สมศักดิ์” มาตั้งแต่ปี 2526 ไล่มาตั้งแต่พรรคกิจสังคม พรรคไทยรักไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ
เสี่ยแฮงค์-อนุชา โตมาจากลูกพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโพนางดำตก ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในวัยเด็ก สะพายกระเป๋าจากชัยนาทมาอาศัยอยู่กับญาติย่านบางนา เข้าเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนบดินทรเดชา จบแล้วเลือกเรียนที่คณะนิติศาสตร์ รามคำแหง ทำงานหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่ทนายความฝึกหัดไปจนถึงเซลส์ขายเครื่องปั๊มน้ำ
สมัยที่เป็นทนายความหนุ่ม เพื่อนของ สมศักดิ์ เทพสุทิน เห็นว่ามีความรู้ทางด้านกฎหมายจึงชักชวนเสี่ยแฮงค์มาช่วยงานนักการเมืองหน้าใหม่จากสุโขทัยเมื่อปี 2526 ซึ่งสมศักดิ์เพิ่งได้เป็น ส.ส.สมัยแรก สังกัดพรรคกิจสังคม
ช่วงที่สมศักดิ์เป็นรัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ เสี่ยแฮงค์ก็ตามไปเป็นเลขานุการรัฐมนตรีทุกกระทรวง และเป็นมือประสานสิบทิศของมุ้งวังน้ำยม
สมัยที่สังกัดพรรคไทยรักไทย เสี่ยแฮงค์ถือว่าเป็นสปอร์ตแมนตัวจริง คอยดูแลเพื่อน ส.ส.ในซุ้มวังน้ำยม รวมถึงการทำทีมฟุตบอล ส.ส. ไทยรักไทย ยูไนเต็ด
ปี 2550 พรรคไทยรักไทยถูกยุบ เสี่ยแฮงค์ ต้องเว้นวรรค 5 ปี จึงส่ง พรทิวา ศักดิ์ศิริเวทย์กุล อดีตภรรยาเป็นส.ส.ชัยนาท และเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ในรัฐบาลอภิสิทธิ์
เสี่ยแฮงค์เพิ่งได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก สมัยรัฐบาลประยุทธ์ เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงมีความใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทีม เสธ.ตึกไทยคู่ฟ้า
ด้วยประสบการณ์มือดีลที่มากประสบการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จึงอยากได้ตัวเสี่ยแฮงค์มาช่วยงานในพรรค รทสช.
‘ที่มั่นชัยนาท’
หลังสมศักดิ์ เทพสุทิน พามาสังกัดพรรคไทยรักไทย “อนุชา” จึงสมัคร ส.ส.ชัยนาท โค่นแชมป์เก่า ชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก
เสี่ยแฮงค์-อนุชา มือใหม่แต่ใจถึงพึ่งได้ จึงเข้ามาเบียดพื้นที่บ้านใหญ่หันคาตระกูลสงฆ์ประชา ทำให้น้องชาย อนุสรณ์ นาคาศัย ได้เป็นนายก อบจ.ชัยนาท
ปี 2554 และปี 2562 เสี่ยแฮงค์ จับมือตระกูลสงฆ์ประชา ใส่เสื้อพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ลงสนามคนละเขต ก็ผูกขาด ส.ส.ชัยนาท 2 เขต
สมัยหน้า มณเฑียร สงฆ์ประชา และนันทนา สงฆ์ประชา แยกไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ก็คงต้องแข่งกับทีมเสี่ยแฮงค์ พรรค รทสช.
สำหรับพื้นที่ชัยนาท เขต 1 (อ.เมือง อ.สรรพยา) เสี่ยแฮงค์คงไม่ห่วงเท่าไหร่ เพราะฐานเสียงแน่น มีน้องชาย-อนุสรณ์ นาคาศัย นายก อบจ.ชัยนาท ดูแลอยู่แล้ว
ระหว่างการหาเสียง เสี่ยแฮงค์คงต้องมาช่วยจัดทัพผู้สมัคร ส.ส. ร่วมกับเสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น เป็นมือทำงานให้ลุงตู่ ดูแลพื้นที่ภาคกลาง เหมือนการเลือกตั้งปี 2562
เกจิการเมืองมองว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เสี่ยแฮงค์-เสี่ยเฮ้ง มาเป็นขุนศึกคู่ใจก็คงทำให้พรรค รทสช. สามารถปักธงได้ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก
คอลัมน์ ... ท่องยุทธภพ โดย ... ขุนน้ำหมึก