ลาแล้วลุง “กานต์กนิษฐ์” พลิกขั้วเจอ “เจิมมาศ” รบชิงพระนคร
ลาลุงป้อม-ลุงตู่ “กานต์กนิษฐ์” สัญญาณการเมืองเปลี่ยน จึงสวมเสื้อแดง ชนคนกันเองอีกรอบ “เจิมมาศ” ค่ายสีฟ้า ระวังตาอยู่ค่ายสีส้ม ทนายลูกจีนก้าวไกล
รบชิงพระนคร “กานต์กนิษฐ์” สวมเสื้อแดง ชนคนกันเอง “เจิมมาศ” เสื้อสีฟ้า ระวังตาอยู่เสื้อสีส้ม ทนายลูกจีนก้าวไกล
ศึกไข่แดงเมืองหลวง “กานต์กนิษฐ์” จำใจลาลุงป้อม-ลุงตู่ สู่ใต้ร่มธงอุ๊งอิ๊ง เพื่อไปต่อ เพราะคนพระนครส่งสัญญาญการเปลี่ยนแปลง
เป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ อดีต ส.ส.กทม. เขต 1 ได้เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 1 พรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ หลังได้เข้ากราบลาลุงป้อม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ บอกเหตุผลการย้ายพรรคครั้งนี้ว่า ตนเลือกอยู่กับพรรคที่ทำงานแล้วสบายใจ มองว่าที่พื้นที่ กทม.เขต 1 เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีพ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจค้าขายจำนวนมาก นโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจ
จะว่าไปแล้ว กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ เติบโตมาในครอบครัวของ แก้ว แห้วสันตติ อดีต ส.ก. 6 สมัย ที่ผูกขาดเขตพระนคร มายาวนานกว่า 30 ปี
อดีต ส.ก.แก้ว เคยมีชื่อเสียงในยุคพรรคพลังธรรม และยังเคยเป็นหัวคะแนนในเขตพระนคร สมัยที่ ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ปี 2538
ครั้นกระแสการเมืองในกรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลง อดีต ส.ก.แก้ว จึงย้ายมาสังกัดกลุ่มมดงาน และพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็น ส.ก.เขตพระนคร ร่วมกับลูกสาว กานต์กนิษฐ์ อยู่สมัยหนึ่ง
การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพฯ ปี 2565 ส่งสัญญาณชัด เมื่อหัวคะแนนของกานต์กนิษฐ์ ลงสมัคร ส.ก.เขตพระนคร และเขตสัมพันธวงศ์ ปรากฏว่า สอบตกทั้งคู่ ดังนั้น การจะสวมเสื้อตัวเก่า ไม่ว่าจะเป็นพรรค พปชร. หรือพรรค รสทช. กานต์กนิษฐ์ก็มีความเสี่ยงสอบตกทั้งนั้น
ย้อนไปดูผลการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 เฉพาะสนาม กทม.เขต 1 (เขตพระนคร, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, เขตสัมพันธวงศ์ และเขตดุสิตบางแขวง)
กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ (พปชร.) ได้ 23,246 คะแนน ,นพมาศ การุญ (อนค.) 18,091 คะแนน , ลีลาวดี วัชโรบล (พท.) 15,904 คะแนน และเจิมมาศ จึงเลิศศิริ (ปชป.) 14,348 คะแนน
จากผลคะแนนข้างต้น ต้องขีดเส้นใต้ที่ผู้สมัครหน้าใหม่จากพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ไปเกือบ 2 หมื่นคะแนน และเอาชนะ ส.ส.เก่าอย่าง เจิมมาศ และลีลาวดี
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสความสงบจบที่ลุงตู่ ฉุดให้กานต์กนิษฐ์ เฉือนคู่แข่งหน้าใหม่ไร้ฐานเสียงเข้าป้าย เป็น ส.ส.สมัยแรก
‘ปชป.กลับมาแล้ว’
สมัยที่แล้ว “กานต์กนิษฐ์” ต้องแข่งกับคนกันเอง “เจิมมาศ” อดีต ส.ส.กทม. ค่ายสีฟ้า แต่ด้วยกระแสลุงตู่-พ่อของฟ้า จึงทำให้เจิมมาศ แชมป์เก่าพ่ายแพ้
พลิกแฟ้มเลือกตั้งปี 2554 สนาม กทม.เขต 1 เจิมมาศ จึงเลิศศิริ (ปชป.) ได้ 40,328 คะแนน ชนะ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ เภกะนันทน์ (พท.) ที่ได้ 20,230 คะแนน
กระแสการเมืองในเวลานั้น แบ่งขั้วชัด เอาทักษิณ กับไม่เอาทักษิณ ซึ่งลูกจีนเยาวราช ก็เป็นคนเสื้อเหลืองทั้งนั้น ก่อนจะขยับมาเป่านกหวีด
เจิมมาศ จึงเลิศศิริ มาจากครอบครัวนักการเมืองท้องถิ่น สามีของเธอคือ เอก จึงเลิศศิริ ส.ก.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยเจิมมาศเองก็เป็น ส.ก.มาก่อน
การเลือกตั้งปี 2548 เจิมมาศสวมเสื้อ ปชป. ท้ารบแชมป์เก่า ศิริ หวังบุญเกิด พรรคไทยรักไทย แม้เวลานั้น กระแสทักษิณมาแรงสุด ๆ แต่เจิมมาศก็โค่นแชมป์เก่าลงได้
จุดแข็งของ ปชป.ในพื้นที่นี้คือ ฐานการเมืองท้องถิ่น ประกอบด้วย เขตสัมพันธวงศ์ ตระกูลกาญจนชูศักดิ์, เขตป้อมปราบฯ ตระกูลจึงเลิศศิริ และเขตพระนคร ตระกูลแห้วสันตติ
เมื่อกานต์กนิษฐ์ ย้ายไปสังกัด พปชร. จึงส่งผลกระทบต่อฐานเสียงเจิมมาศและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ปชป.พ่ายแพ้ในสนามนี้
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้ง ส.ก.กลางปีที่แล้ว พรรค ปชป.กู้ชื่อกลับมาได้ นิภาพรรณ จึงเลิศศิริ ลูกสาวเจิมมาศ ได้รับเลือกเป็น ส.ก.เขตป้อมปราบฯ และพินิจ กาญจนชูศักดิ์ เป็น ส.ก.เขตสัมพันธวงศ์
นี่คือสัญญาณที่ดีของพรรค ปชป. และเจิมมาศ ในการสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า ที่ต้องเจอคนกันเองอีกครั้ง
‘ตาอยู่เสื้อสีส้ม’
ชัยชนะของ “กานต์กนิษฐ์” หนที่แล้ว นอกจากกระแสลุงตู่ ก็ยังมีพี่เลี้ยงชื่อ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ซึ่งในวันนี้ ทั้งคู่ต่างแยกทางกันเดิน
ส่วนพรรคก้าวไกล ได้วางตัว ปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ทนายความชำนาญด้านกฎหมายไทย-จีน และประธานวิเทศสัมพันธ์ก้าวไกล ไทย-จีน สำนักงานเลขาธิการพรรคฯ ลงสนาม กทม.เขต 1
ด้วยฐานคะแนนเดิมของพรรคอนาคตใหม่ 18,091 คะแนน พรรคก้าวไกลเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่ ทนายปารเมศ เอาชนะแชมป์ปี 2562 ได้แน่นอน
สมัยหน้า เป็นเรื่องที่ท้าทายกานต์กนิษฐ์ เพราะต้องเจอทั้งโจทย์เก่าอย่างเจิมมาศ และคนหน้าใหม่มาแรงอย่างทนายค่ายสีส้ม
คอลัมน์ ... ท่องยุทธภพ โดย ... ขุนน้ำหมึก