คอลัมนิสต์

เงาลุงป้อม "วิรัช" ชีวิตนี้เลือกแล้ว จำได้มั้ยพรรคมหาชน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พลังป้อมปึ้ก "วิรัช" โชว์ลีลากวีหวาน ชาตินี้รักใครไม่ได้อีกแล้ว เสมือนเงา พล.อ.ประวิตร วีรกรรมจำไม่ลืม วิรัชพาภรรยาฝ่าพายุทักษิณ แต่หักมุมแหกค่าย เสธ.หนั่น

พลังป้อมปึ้ก “วิรัช” โชว์ลีลากวีหวาน ชาตินี้รักใครไม่ได้อีกแล้ว นอกจาก พล.อ.ประวิตร ชั่วโมงนี้ เสี่ยปานเมืองโคราช เสมือนเงาป้อม

 

วีรกรรมจำไม่ลืม “วิรัช” พาภรรยาฝ่าพายุแลนด์สไลด์ ปี 2548 แต่หักมุมพา ส.ส.ในสังกัด แหกค่าย เสธ.หนั่น ไปหนุนทักษิณ

 

งานแสดงพลัง ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส.ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จบลงไปด้วยความชื่นมื่น

 

ภายในงานนี้ วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. ได้โชว์ความเป็นคนสนิทลุงป้อมชัดเจน ดูเหมือนวิรัช จะต้องการสื่อสารไปยัง ส.ส.บางกลุ่มที่มีจิตใจฝักใฝ่ฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์

“อยากรู้ไหมว่า 8 ห้องหัวใจมีใครบ้าง ถ้าผ่าออกมาจะเห็นเลยว่า หัวใจมีแต่ พล.อ.ประวิตร” เสี่ยวิรัช บอกกับนักข่าว และย้ำว่า “ในใจมีแต่ พล.อ.ประวิตร ชาตินี้ไม่คิดเป็นลูกน้องใคร”

 

มิหนำซ้ำ วิรัชยังแต่งกลอนปากเปล่า “ชาตินี้รักใครไม่ได้แล้ว ไม่ผ่องแผ้วมืดมิดไม่คิดหนี ทั้งชีวิตต้องคอยและชีวี พร้อมยอมพลีให้ลุงป้อมตลอดไป”

 

หลายคนอาจสงสัยว่า วิรัช รัตนเศรษฐ ซึ่งถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.กรณีคดีฟุตซอล แต่ทำไม เขาจึงมีบทบาทสำคัญในพรรคพลังประชารัฐ ขนาด สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากลุงป้อมเท่ากับวิรัช

 

ย้อนไปเมื่อปี 2561 นักเลือกตั้งระดับเจ้ายุทธจักร หลั่งไหลไปแสดงตัวเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยวิรัช รัตนเศรษฐ ได้ต่อสายต่อตรงถึงลุงป้อม ไม่ผ่านนายหน้าการเมืองกลุ่มใด

 

  • ‘บ้านใหญ่โคราช’

จอมเก๋าโคราช “วิรัช” อยู่ในแวดวงการเมืองมานาน และเคยสังกัดหลายพรรค แต่การเข้ามาอยู่พลังประชารัฐ วิรัชยกมากันเป็นครอบครัวใหญ่

วิรัช สวมเสื้อตราไก่ แสดงสัญลักษณ์สังกัดลุงป้อม

 

เสี่ยปาน-วิรัช รัตนเศรษฐ  เป็นบุตรของไพบูลย์ รัตนเศรษฐ แห่งบริษัทนครราชสีมาทำไม้ โดยเสี่ยไพบูลย์ ได้ร่วมก่อตั้งพรรคชาติไทย กระทั่งเลือกตั้ง 2529 วิรัช ทายาทนครราชสีมาทำไม้ จึงลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรก โดยมี กร ทัพพะรังสี เป็นพี่เลี้ยง

 

หลังได้เป็น ส.ส.สมัยแรก วิรัชเป็น ส.ส.นครราชสีมาหลายสมัย ปักหลักอยู่กับพรรคชาติไทยหลายสมัย ก่อนจะย้ายไปพรรคมหาชน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคเพื่อไทย

 

เสี่ยปานเป็นผู้แทนฯ ประเภทดาวฤกษ์ สร้างเครือข่ายฐานคะแนนไว้แน่นในพื้นที่ ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว วิรัช พาภรรยา ลูก และน้องสาว มาลงสมัคร ส.ส.ทั้งบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขต รวม 7 คน แยกเป็นบัญชีรายชื่อ 3 คน ส.ส.เขต 4 คน ปรากฏว่า ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน และ ส.ส.นครราชสีมา 4 คน

 

สมัยหน้า วิรัชได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.แทนตัวเขา และภรรยา-ทัศนียา รัตนเศรษฐ โดยจะส่งลูกชายและลูกสะใภ้ ลงสนาม ส.ส.นครราชสีมาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

  • ‘บทเรียนมหาชน’

บทเรียนการเมืองในอดีต “วิรัช” เคยประสบความพ่ายแพ้ในสนามโคราช เมื่อปี 2544 ในสีเสื้อชาติไทย เนื่องจากกระแสทักษิณ และพรรคไทยรักไทยมาแรง

 

การเลือกตั้งปี 2548 เสี่ยวิรัช ได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ปั้นพรรคมหาชน โดยวิรัชเป็นรองหัวหน้าพรรค และรับผิดชอบเป็นแม่ทัพภาคอีสาน

 

ระหว่างการหาเสียง พรรคมหาชนวางตัวเป็นคู่ปรปักษ์กับพรรคไทยรักไทย โดยหัวหน้าพรรคเอนก ได้ประกาศจุดยืนต่อต้านระบอบทักษิณชัดเจน

 

ผลเลือกตั้งสมัยนั้น มีปรากฎการณ์ไทยรักไทยแลนด์สไลด์ พรรคมหาชนพ่ายแพ้ยับเยิน ได้ ส.ส.เขต 2 คน และไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว ทั้ง พล.ต.สนั่น และเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ก็ไม่ได้เป็น ส.ส.

 

ส.ส.พรรคมหาชน 2 คนคือ ทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา และ ตุ่น จินตะเวช ส.ส.อุบลราชธานี ซึ่งเวลาต่อมา วิรัชได้ประกาศให้ ส.ส.ทั้งสอง ดำเนินการทางการเมืองเป็นอิสระ และหันไปสนันสนุนพรรคไทยรักไทย กรณีดังกล่าว ทาง พล.ต.สนั่น ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้

 

อีกหลายปีต่อมา พล.ต.สนั่น และลูกชาย ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ และสมาชิกพรรคมหาชน ได้เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย

 

ส่วนเสี่ยวิรัช พาครอบครัวไปสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาในการเลือกตั้งปี 2550 และย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ปี 2554

 

นี่คือวิถีการเมืองแบบเสี่ยปาน บ้านใหญ่รัตนเศรษฐ แห่งนครราชสีมา ซึ่งในการเลือกตั้งสมัยหน้า วิรัชจะมีบทบาทสำคัญยิ่งในพรรคพลังประชารัฐ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ