คอลัมนิสต์

โชคชะตา “ประยุทธ์” อำนาจ-วาสนา บนเส้นทางเหล็ก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โชคชะตา “ประยุทธ์” อะไรก็เกิดขึ้นได้ ย้อนเส้นทางนายทหารบ้านนอก เติบโตในกองทัพยุคบ้านเมืองแบ่งขั้วแบ่งสี จึงเป็นโอกาส และจังหวะเปลี่ยนของชีวิต

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น “ประยุทธ์” ย่อมได้ชื่อว่า เป็นนายทหารอีกคนหนึ่งที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาล และครองอำนาจยาวนาน เหมือน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

 

โชคชะตา “ประยุทธ์” นายทหารบ้านนอก เติบโตในกองทัพยุคบ้านเมืองแบ่งขั้วแบ่งสี จึงเป็นโอกาส และจังหวะเปลี่ยนของชีวิต

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจ้าของถ้อยวลี “ขอโทษนะ..ผมต้องยึดอำนาจ” เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ผ่านสมรภูมิรบมาโชกโชน ผ่านสมรภูมิการเมืองมาตั้งแต่ปี 2549 จะได้ไปต่อบนถนนการเมืองหรือไม่..ศาลรัฐธรรมนูญจะให้คำตอบ

 

16 ปีที่แล้ว คนไทยทั้งประเทศ คงไม่มีใครคิดหรอกว่า รัฐบาลพรรคไทยรักไทยกุมเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จในสภา และทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ได้วางขุมกำลังเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ไว้ใน 5 เสือ ทบ. และทุกหน่วยรบที่สำคัญ จะเจอการทำรัฐประหาร เมื่อ 19 ก.ย.2549

 

จากวันนั้น พี่น้อง 3 ป. นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สะสมอำนาจ รอคอยโอกาสยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค.2557
 

 

 

 

‘เส้นทางอำนาจ’

จุดเปลี่ยนของ “ประยุทธ์” เกิดขึ้นในช่วงที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าไลน์ 5 เสือ เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และเป็นผู้บัญชาการทหารบก คนที่ 34 ได้ดึงตัว พล.อ.อนุพงษ์ จากตำแหน่ง ผบ.พล.ร.2 รอ. มาเป็น ผบ.พล.ร.1 รอ. ก่อนขยับขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 1 ตามลำดับ

 

การดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ของ พล.อ.อนุพงษ์ ในปีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นผู้บัญชาการทหารบก แทบจะไม่มีใครคาดคิดว่า การรัฐประหารจะเกิดขึ้นในประเทศไทย
          

พล.อ.อนุพงษ์ ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในเวลานั้นเป็นยุคทองของ ตท.10 จึงทำให้ทักษิณ มั่นใจในการรักษาพระนครของเพื่อนพ้องน้องพี่ที่จัดวางตัวในการคุมกำลังหลักไว้หมดแล้ว

 

กรณี พล.อ.อนุพงษ์ ตัดสินใจครั้งสำคัญในการเข้าร่วมการทำรัฐประหาร ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันเท่ากับเป็นการหักหลังเพื่อน

 

ที่น่าสนใจ ก่อนพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. พล.อ.ประวิตร ได้ช่วยขยับให้น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวออกจาก พล.ร.2 รอ. มาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1

 

 พล.อ.ประวิตร ผู้ลิขิตขีดเส้นทางอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์

 

 

ดังนั้น ในการโยกย้ายทหารฤดูกาล 2550 พล.อ.ประวิตร จึงออกแรงลุ้นน้องรัก-พล.อ.อนุพงษ์ ให้เป็น ผบ.ทบ.อย่างสุดกำลัง

 

ในฐานะเป็นประธานเตรียมทหารรุ่นที่ 6 พล.อ.ประวิตร ตัดสินใจเลือกเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็น ผบ.ทบ. จึงทำให้บิ๊กบังเกรงใจ และดันบิ๊กป๊อก เป็น ผบ.ทบ.

 

เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ ครองอำนาจในกองทัพบก ได้ผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ เติบโตขึ้นมาตามลำดับ จากแม่ทัพภาคที่ 1 จนถึง ผบ.ทบ.
 

 

 

 

‘คัมภีร์ปฏิวัติ’

ระหว่าง “ประยุทธ์” เรียน วปอ.ช่วงปี 2550-2551 ขณะที่เป็นเสนาธิการทหารบก ได้ทำงานวิจัยในหัวข้อกองทัพไทยกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ (NON-TRADITIONAL THREATS)

 

ข้อเสนอในงานวิจัยดังกล่าว ได้ให้ความสำคัญแก่บทบาทของ กอ.รมน. ในการจัดการกับภัยคุกคามใหม่

 

กอ.รมน. คือองค์กรในความคาดหวังของสังคมที่จะเฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ปัญหาความมั่นคงภายในก่อนเกิดเหตุการณ์ ในสถานการณ์ที่แสนยุ่งเหยิงทางการเมือง ทั้งในเรื่องความไม่เชื่อมั่นในระบบและสถาบันทางการเมือง ความแตกแยกทางความคิดของคนในชาติ ซึ่งเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่

 

ว่ากันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลา 6 ปี ในการศึกษาและลงมือปฏิบัติมาตั้งแต่ครั้งเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ,เสนาธิการทหารบก, รอง ผบ.ทบ. และ ผบ.ทบ. จนกระทั่งถึงวันที่เขาตัดสินใจยึดอำนาจ

 

นับจากนั้น กอ.รมน. ก็เป็นเครื่องมือสำคัญของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในการปกครองประเทศ และต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลประยุทธ์ หลังเลือกตั้งปี 2562
 

 

คอลัมน์ ... ท่องยุทธภพ   โดย ... ขุนน้ำหมึก

 

 


คมชัดลึก ยังมีเนื้อหาสาระอื่นๆ ดูเพิ่มเติมได้ที่
Website -  www.komchadluek.net
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
 

 

 

 

logoline