คอลัมนิสต์

มารู้จัก "ณฐพร โตประยูร" มือร้องแกนนำม็อบราษฎรล้มล้างการปกครอง

10 พ.ย. 2564

วันนี้ศาล รธน. จะวินิจฉัยกรณีการชุมนุมปราศรัยและเสนอข้อเรียกร้องของแกนนำม็อบราษฎร ว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตาม รธน. ม. 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ ซึ่งผู้ร้องกล่าวหาคือ "ณฐพร โตประยูร".. คุณรู้จักยังว่าเขาเป็นใคร

วันนี้(10 พ.ย.) ช่วงประมาณบ่าย 3 โมง ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีที่มีผู้ร้องว่าการชุมนุมปราศรัยของนายอานนท์ นำภา,ภาณุพงศ์ จาดนอก(ไมค์) และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล(รุ้ง) แกนนำม็อบราษฎร ที่ชุมนุมปราศรัยที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และเสนอข้อเรียกร้อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่


ส่วนคนที่ยื่นคำร้อง คือ "นายณฐพร โตประยูร" 


คุณรู้จักยังว่าเขาเป็นใคร เห็นประวัติแล้วต้องบอกว่า คน ๆ นี้ไม่ธรรมดา


"นายณฐพร โตประยูร" คือ อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และเป็น 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงินกรณีการขายที่ดินนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นฯ จำนวน 477 ล้านบาท โดยในส่วนแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายคืนนายศุภชัยกว่า 249ล้านบาทนั้น พบว่า มีการโอนแคชเชียร์เช็คให้กับ "นายณฐพร" จำนวน 60 ล้านบาท 


"นายณฐพร" เคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า เงินที่โอนให้ตนจำนวน 60 ล้านบาท เพื่อเป็นค่านายหน้าดำเนินการในการขายที่ดิน 

 


 

ที่ผ่านมาเขามีบทบาทในการยื่นตรวจสอบหลายเรื่องด้วยกัน จัดอยู่ในสาย นักร้อง คนหนึ่ง


- คดีอิลลูมินาติ  นายณฐพร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หัวหน้าพรรค) นายปิยบุตร แสงกนกกุล (เลขาธิการพรรค)และคณะกรรมการบริหารพรรค มีแนวคิดและเจตนาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของนายธนาธร หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร เลขาธิการพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค


ที่เรียกว่า คดีอิลลูมินาติ เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่มีลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่ากลับหัว ซึ่ง "นายณฐพร" ผู้ร้องเห็นว่า มีความเหมือนกับสมาคมอิลลูมินาติ (Illuminati) ซึ่งเป็นองค์กรลับที่รู้จักกันทั่วไปว่า มีเป้าหมายใหญ่ต้องการล้มล้างหรือปฏิวัติความเชื่อใหม่ ๆ ทั้งในเรื่องระบอบการปกครองและศาสนา แสดงให้เห็นว่าพรรคอนาคตใหม่ มีวัตถุประสงค์ยึดถือปรัชญาความคิดอิสระ ไม่เชื่อถือความคิดเก่า ๆ ที่สั่งสอนกันมา พรรคอนาคตใหม่ จึงเป็นพรรคการเมืองที่เป็นอันตรายต่อระบบการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

 

แต่ศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องคดีนี้ โดยวินิจฉัยว่าไม่ปรากฎข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะฟังได้ว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 4 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 49 วรรคหนึ่ง

 

ส่วนกรณีการกระทำอื่นใดของผู้ถูกร้องทั้ง 4 จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกันอีกส่วนหนึ่งต่างหากตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป อาศัยบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น จึงวินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ถูกร้องตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง ไม่เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง

 

(ต่อมาพรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบกรณีกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท สืบเนื่องจากนายศรีสุวรรณ จรรยาเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นเรื่องต่อ กกต. จากนั้น กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย) 

 

-ยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช. ดำเนินการกับ 208 สมาชิกรัฐสภา (ส.ส. และ ส.ว.) ที่ลงมติเห็นชอบวาระที่ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 โดยอ้างว่าเป็นการกระทำที่จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ป.ป.ช.และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันทุกองค์กร การที่สมาชิกรัฐสภายังบังอาจลงมติเห็นชอบในวาระที่ 3 จึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัย 

 

-ยื่นยุบพรรคก้าวไกล โดยยื่นคำร้องให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยกรณี พรรคก้าวไกล มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 จากกรณีการแสดงความเห็นทางการเมือง การเข้าร่วมกับผู้ชุมนุม และการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมือง ถือเป็นการกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน 


รวมทั้งกรณีพรรคก้าวไกลยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112, ร่างแก้ไข พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และร่างแก้ไข พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ตลอดจนการลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับ ไอลอว์ ซึ่งการกระทำของพรรคก้าวไกล ถือเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 มาตรา 45 และมาตรา 92 (2) (3) จึงขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัย และเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค