สิ่งแรกที่ 'นายกฯคนที่ 30' ควรทำ ประกาศ 'สงครามความยากจน'

 

สิ่งแรกที่ "นายกฯคนที่ 30" ควรทำ "สงครามความยากจน" อันดับแรก ถ้าติดกระดุมเม็ดแรกผิด ด้วยการทะเลาะกันวุ่นวายประเทศก็จะเสียโอกาส รัฐบาลใหม่และนายกรัฐมนตรีไม่ควรบริหารจิปาถะ แต่ต้องเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่นำคนทั้งประเทศออกจากวิกฤต เพื่อ "เอาชนะความยากจน" เมื่อใดคนไทยมีความมุ่งมั่นร่วมกัน ประเทศจะเกิดพลังมหาศาลประดุจแสงเลเซอร์ทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง

 

 

"หมอประเวศ" ศ. นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาความยากจน โดยมีข้อเสนอแนะรัฐบาลใหม่ และนายกฯคนที่ 30 ในการทำ "สงครามความยากจน" เพื่อ "เอาชนะความยากจน" และเป็นจุดคานงัดให้สามารถทำเรื่องอื่นๆ สำเร็จด้วย ดังนี้

 

 

1. ประกาศมรรควิธีแก้จน 25 วิธี

รัฐบาลมอบให้ พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน) ที่มี ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นประธาน รวบรวมวิธีแก้จนจากความจริงของแผ่นดินไทย แล้วนายกรัฐมนตรีประกาศมรรควิธีแก้จน 
อย่างน้อย 17 วิธี ดังต่อไปนี้

 

 

1. ชุมชนเข้มแข็ง โดยมีองค์กรชุมชนเข้มแข็ง สามารถจัดการพัฒนาชุมชนอย่างบูรณาการ เป็นต้นธารแห่งความสำเร็จ
2. ปฏิรูปที่ดิน ให้ทุกครอบครัวมีที่ดินทำกิน
3. ทำเกษตรผสมผสานหรือเกษตรทฤษฎีใหม่
4. มีสระน้ำประจำครอบครัว ที่สามารถเก็บน้ำได้ทั้งปี สนับสนุนเกษตรทฤษฎีใหม่
5. บริหารน้ำกินน้ำใช้ในชุมชนท้องถิ่น ด้วยฝายและธนาคารน้ำบาดาล
6. มีป่าชุมชนทุกตำบลหายจนถ้วนหน้า ถ้าทำเต็มที่จะนำรายได้สู่ตำบล ประมาณตำบลละ 100 ล้านบาทต่อปี
7. มีสถาบันการเงินของชุมชน
8. ชุมชนมีความสามารถวิเคราะห์การเงิน ทำให้ปรับพฤติกรรมการผลิต และการบริโภค หายจนได้
9. วิสาหกิจชุมชน ทั้งการผลิตและการตลาด 
10. การแปรรูปอาหารและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
11. ชุมชนผลิตสินค้าวัฒนธรรม
12. ชุมชนมีฝีมือการช่างทุกประเภท
13. จัดการท่องเที่ยวชุมชน
14. ผลิตพลังงานชุมชนได้เหลือใช้
15. พัฒนาระบบสมุนไพรครบวงจร
16. ระบบเศรษฐกิจชุมชนกับเศรษฐกิจมหภาคเชื่อมโยงอย่างเกื้อกูลกัน
17. ระบบการศึกษาชุมชนท้องถิ่นที่สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่

 

ทั้ง 17 วิธีนี้เป็นเพียงตัวอย่าง เมื่อรวบรวมจริงๆ คงได้มากกว่านี้และดีกว่านี้ สมมุติว่าได้ 25 วิธีเมื่อเริ่มต้น นายกรัฐมนตรีประกาศ มรรค 25 ในการแก้จน การประกาศให้รู้ทั่วกันทั้งประเทศ จะไปกระตุ้นความตื่นตัวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ ทั้งประเทศ 

 

2.สงคราม 9 ทัพ

แบ่งประเทศไทยเป็น 9 ภาค เพื่อการจัดทัพ คือ

1. ภาคเหนือ
2. ภาคอีสานตอนบน
3. ภาคอีสานตอนล่าง
4. ภาคกลางตอนบน
5. ภาคกลางตอนล่าง
6. ภาคตะวันออก
7. ภาคตะวันตก
8. ภาคใต้ตอนบน
9. ภาคใต้ตอนล่าง

 

จัดตั้งกองทัพเอาชนะความยากจน 9 กองทัพตามภาค แม่ทัพแต่ละภาค คือ รองนายกรัฐมนตรีและเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งด้วย ในแต่ละกองทัพภาค มีผู้บริหารระดับสูงของทุกกระทรวง คือ ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และผู้ช่วยปลัดกระทรวง ร่วมด้วย และมีผู้นำชุมชนท้องถิ่นผู้มีปัญญาบารมีในทุกภาค ควรเป็นที่ปรึกษากองทัพภาค และผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ๆ ที่แม่ทัพภาคต้องการ

 

 

กองทัพภาคทั้ง 9 ทัพ จะประกอบด้วยกำลังคนจากทุกภาคส่วนของประเทศ รวมกันเป็นพลังแผ่นดินอันมหาศาลที่จะเข้าประจัญบาน แล้วทำไมจะไม่ชนะ
 

 

3. ยุทธภูมิ นักรบ จุดยุทธศาสตร์

ยุทธภูมิ คือ พื้นที่แผ่นดินไทยทั้งประเทศซึ่งมี 80,000 ชุมชน 8,000 ตำบล 800 อำเภอเกือบ 80 จังหวัด นักรบ คือ ผู้นำชุมชนท้องถิ่นหลายแสนคนอาจกว่า 1 ล้านคน จุดยุทธศาสตร์ คือ ตำบล กองบัญชาการ คือ องค์กรท้องถิ่นทั้งหมด ได้แก่ อบต. เทศบาล อบจ.

 

 

เป้าหมาย คือ สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ภายใน 5 ปี สัมมาชีพ หมายถึง อาชีพที่ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม มีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้ หลุดหนี้ มีเงินออม สุขกายสุขใจ มีศักดิ์ศรี การสนับสนุน กองทัพภาคสนับสนุนปฏิบัติการขององค์กรและนักรบในพื้นที่ ขจัดอุปสรรคขัดข้องให้ปฏิบัติได้ ประเมินผลการปฏิบัติ เอาผลประเมินมาปรับกระบวนการสงครามอย่างต่อเนื่อง ให้บรรลุเป้าหมายในเวลาที่กำหนด
 

 

4. ผลต่อประเทศไทย

1. คนไทยมีสัมมาชีพทุกครอบครัว หายจนหมดทั้งประเทศ มีคุณภาพชีวิตที่ดี
2. เศรษฐกิจมหภาคเติบโตและมั่นคง เพราะอยู่บนฐานที่แข็งแรงของประเทศ ไม่ใช่ขึ้นกับตลาดโลกที่พลิกผันแต่เพียงอย่างเดียว
3. คนไทยทุกภาคส่วนจะรักกันมาก เพราะร่วมทำสงครามประสบชัยชนะร่วมกัน จะเชื่อถือไว้วางใจกัน ฉลาดร่วมกัน เกิดปัญญาร่วม (Collective wisdom) และมีความสุขประดุจบรรลุนิพพาน เป็นพลังสร้างสรรค์ทั้งแผ่นดิน
4. เมื่อเกิดพลังร่วม ซึ่งเป็นพลังสร้างสรรค์ทั้งแผ่นดิน ต่อไปจะทำอะไรก็จะสำเร็จทุกอย่าง
5. ประเทศไทยจะเป็นแผ่นดินศานติสุข เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก เพราะมีความถูกต้องดีงาม และนี่คืออนาคตของเราร่วมกัน ที่คนไทยทั้งหมดไม่ว่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าหรือรุ่นไหน ๆ ร่วมกันสร้าง

 

5. คนไทยทั้งหมดร่วมสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ให้เป็นผู้นำนำคนไทยทั้งหมดร่วมเดินทางบนเส้นทางสันติอันประเสริฐ สันติวรบท ไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์ของเราร่วมกัน...ขอให้คนไทยและประเทศไทยมีความสวัสดี