
"คณะก้าวหน้า"ภาพซ้อนพรรคก้าวไกลในภาวะเลือดไหลออกหวังชิมลางเวทีอบต.
"คณะก้าวหน้า"ลุยเวทีเลือกตั้งสมาชิกอบต. หวังปักหมุดเป็นฐานเสียง"ก้าวไกล" สวนกระแส" ผู้แทนฯสีส้มไหลออก ติดตามในเจาะประเด็นร้อน โดย เมฆาในวายุ
หลังจากที่“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”หลุดวงโคจรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเหตุเพราะให้พรรคอนาคตใหม่ซึ่งตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคกู้เงิน191.2 ล้านบาท จาก "ธนาธร" โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและ"ต้องยุบพรรค+ตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารสิบปี "
"ธนาธรและคณะ" จึงมาก่อตั้ง"คณะก้าวหน้า"ที่เดินเคียงข้างพรรคก้าวไกล ในฐานะทายาทพรรคสีส้มเพื่อลุยงานการเมืองให้ถึงฝั่งฝันที่พวกตนปรารถนา
โดยเป้าหมายหลังจาก 24 มี.ค. 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส.พลิกความคาดหมาย 81 ที่นั่ง (แบ่ง เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน และ ส.ส.เขต 31 คน) จนเป็นพรรคอันดับสามในสภาผู้แทนราษฎรในช่วงนั้น ต่อมาเกิดตำนานงูเห่าสีส้มหลายภาค จนคะแนนฝ่ายค้านลดลง เนื่องจากมีการขับงูเห่าสีส้มให้ย้ายไปสังกัดพรรคร่วมรัฐบาลเหตุจากการเป็นกบฏ จนวันนี้พรรคก้าวไกลเหลือส.ส.สองระบบจำนวน 48 คน และหลังจาก 6 ต.ค. 2564 "วินท์ สุธีรชัย " ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศลาออกจาก ส.ส. และตั้งพรรคใหม่นั้น พรรคสีส้มเวอร์ชั่นสอง จะเหลือผู้แทนราษฎร 47 คน
แบบนี้พรรคก้าวไกลยังหวังจะได้ส.ส.เขตราว 150-170 คนในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้จริงหรือ....น่าคิด
ย้อนเวลาไปนิด...หลังรัฐบาลไฟเขียวให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้น(แช่แข็งไว้หลายปีตั้งแต่คสช.ยึดอำนาจ) โดยเริ่มจากวันที่ 20 ธันวาคม 2563 คือวันเลือกตั้งนายกอบจ. ตอนนั้น “ธนาธร ” คาดหวังว่าสนามเลือกตั้งท้องถิ่นนี้ พลพรรคสีส้มเวอร์ชั่นล่าสุดในนามคณะก้าวหน้าจะปักธงไว้ได้ เพราะเชื่อว่า สังคมจะตอบรับเหมือนเมื่อครั้งพรรคอนาคตใหม่ลงสนาม แค่ธนาธรผิดหวัง จากเหตุที่ผู้สมัครนายก อบจ. 42 จังหวัดพ่ายทุกสนาม แต่อีกด้านหนึ่ง คณะก้าวหน้ายังได้ สมาชิกอบจ. ทั่วไทยกระจายในจังหวัดต่างๆรวม 57 คน
จากนั้นวันที่ 28 มีนาคม 2564 ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล 2,472 แห่งทั่วประเทศ รวม 33,666 ตำแหน่ง คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัคร กว่า 100 แห่ง (แยกเป็นนายกเทศมนตรีนคร 11 แห่ง, นายกเทศมนตรีเมือง 25 แห่ง,นายกเทศมนตรีตำบล 69 แห่ง) พบว่า ตัวแทนคณะก้าวหน้าได้นายกเทศมนตรีตำบล 12 แห่ง แยกเป็น ลำพูน 1 แห่ง,ร้อยเอ็ด 3 แห่ง, หนองบัวลำภู 3 แห่ง, อุดรธานี 2 แห่ง, มุกดาหาร 2 แห่ง, สมุทรปราการ 1 แห่ง
เวทีล่าสุด "คณะก้าวหน้า" แถลงว่า ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ได้รับการยืนยันลงสมัคร 195 แห่ง จาก 51 จังหวัดทั่วประเทศ โดยการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564
พบว่า คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครนายกอบต.มากที่สุด 5 ลำดับแรก คือ จ.อุดรธานี 21 แห่ง, จ.ร้อยเอ็ด 15 แห่ง, จ.หนองบัวลำภู 10 แห่ง, จ.มหาสารคาม 10 แห่ง และ จ.นครราชสีมา 9 แห่ง
มูลเหตุจูงใจที่ “ธนาธร” พุ่งเป้าไปที่ภาคอีสานนั้น เพราะเลือกตั้งเทศบาลที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าได้รับชัยชนะในเทศบาลตำบลภาคอีสาน 8 แห่ง จากทั้งหมด 12 แห่ง
ภาวะเช่นนี้แปลว่า "ธนาธร"วางหมากปูพรมดึงเซลล์เล็กที่สุดสำหรับการเลือกตั้งสนามส.ส.ไว้ในมือให้ได้ โดยเน้นพื้นที่นำร่องว่ามีโอกาสชนะเพื่อสอดรับกับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคก้าวไกลไปแบบ"ใครพร้อมก่อน เปิดตัวก่อน" ซึ่งตอนนี้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคลงพื้นที่ไปแล้วหลายจังหวัด
ทางการเมือง จะพบว่า อบต.นั้นมีหลายหมู่บ้านในสังกัด,อำเภอนั้นนั้นมีหลายตำบลมาขึ้นตรง และหลายอำเภอคือหนึ่งเขตเลือกตั้งส.ส. หากนักการเมืองกุมสภาพพื้นที่ไว้ได้ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน-ตำบล-อำเภอ หรือเลื่อนขั้นกุมสภาพจังหวัดไว้ได้ นักการเมือง-พรรคการเมือง-กลุ่มการเมืองของขั้วนั้นๆจะมีแรงต่อรองสูงทั้งในท้องถิ่น-ภูมิภาค-ประเทศโดยพลัน
ตรงนี้คืออาจจะเป็นจุดอ่อนที่"ธนาธร"เคยละเลยเมื่อวันวาน และวันนี้เมื่อดวงตาเห็นสัจธรรมทางการเมือง การปูพรมลุยฐานเสียงระดับเซลล์เล็กสุดเพื่อขยายตัวเป็นเซลล์ใหญ่สุดให้พรรคก้าวไกลนั้นจึงต้องเร่งกระทำให้เกิดผลมากสุด
แต่อย่ามองข้ามการแปรพักตร์-ไขก๊อกของอดีตส.ส.อนาคตใหม่-ก้าวไกลหลายคนที่พูดเป็นนัยๆให้สังคมคิดต่อว่า พรรคสีส้มทั้งสองเวอร์ชั่นยืนบนหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่...และอย่าลืมว่าการเดินเกมเสี่ยงหนุนการชุมนุมของเยาวชนที่ใช้ความรุนแรงรายวันกับสามข้อเรียกร้องที่ตอนนี้สังคมเริ่มไม่ให้ราคาแล้วนั้นจะเป็นบูมเมอแรงสะท้อนกลับ หากการสอบสวนขยายผลของตำรวจเจาะลึกถึงรากหาตัวผู้บงการม็อบป่วนเมืองได้นั้น
.....หายนะจะมาเยือน....
หมายเหตุ
ข้อมูลจากเว็บไซต์กกต.ระบุข้อมูลสมาชิกและสาขาพรรคก้าวไกลสมาชิกทั้งหมด 31,141 คน
ภาคเหนือ 5,827 คน
ภาคกลาง 11,582 คน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10,181 คน
ภาคใต้ 3,551 คน
ข้อมูลสาขา
สาขาทั้งหมด 6 แห่ง
ภาคเหนือ 2 แห่ง
ภาคกลาง 2 แห่ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 แห่ง
ภาคใต้ 1 แห่ง