
เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
แฮมเบอร์เกอร์ ไครซิส หรือวิกฤติการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐ และแผ่ลามไปยังยุโรปและเอเชีย จนสั่นคลอนเศรษฐกิจของประชาคมโลกขณะนี้นั้น นอกจากจะทำให้นึกถึงวิกฤติเศรษฐกิจในเอเชีย ที่เรียกกันว่า ต้มยำกุ้ง ไครซิส ที่เกิดขึ้นในทศวรรษก่อนแล้ว ก็ยังทำให้รำ
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) เริ่มขึ้นในปี 1929 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นบทเรียนบทสำคัญทางเศรษฐกิจการเงินของโลก มีที่มาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดของสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นประเทศมหาอำนาจใหม่จากการที่เป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนั้น ขณะที่อังกฤษและประเทศมหาอำนาจเก่าในยุโรปประสบกับความบอบช้ำจากพิษของสงคราม ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ มีการขยายตัวถึงร้อยละ 120
ในช่วงเวลาเพียง 5-6 ปี มีการสร้างทางหลวงสายใหม่ๆ ทั่วประเทศ อันส่งผลให้การผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านคัน ชั่วเวลาเพียง 4 ปี นอกจากนี้การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตทำให้สหรัฐเบียดแซงประเทศคู่แข่ง และเพิ่มพูนการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ไปยังตลาดโลกเป็นทวีคูณ ภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนสหรัฐมีกำลังซื้อสูงขึ้น และเกิดการเก็งกำไรด้วยการนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนในกิจการที่ให้ผลตอบแทนสูงเช่น อสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ซึ่งถูกปั่นราคาให้สูงเกินกว่าความเป็นจริง
การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐส่งผลในเชิงลบแก่ประเทศอุตสาหกรรมดั้งเดิมในยุโรป และกระทบกระเทือนถึงภาคแรงงาน ที่ถูกลดค่าแรง หรือเลิกจ้าง จนเกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วไป และรัฐบาลของประเทศเหล่านั้นต้องนำทองคำสำรองออกขายเพื่อพยุงสถานะของประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าประเทศที่มีกำลังซื้อมากที่สุดก็คือสหรัฐ ส่งผลให้อเมริกาเป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก และธุรกิจประเภทเก็งกำไร โดยเฉพาะตลาดหุ้นเติบโตตามไปด้วย
ทางการสหรัฐเริ่มตระหนักถึงสัญญาณภัย ธนาคารสหรัฐเริ่มลดดอกเบี้ยเงินฝากลงเพื่อป้องกันเงินทุนจากยุโรปที่ทะลักเข้าไปแสวงหากำไรในประเทศของตน แต่มาตรการดังกล่าวทำให้เงินไหลออกจากธนาคารไปยังตลาดหุ้น ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า จนหุ้นตัวสำคัญๆ อยู่ในลักษณะที่พองลม ซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้น ท่ามกลางข่าวลือต่างๆ นานา จนเกิดการเทขายหุ้นขนานใหญ่ นายทุนและสถาบันการเงินเรียกเงินที่มีผู้กู้ไปลงทุนในตลาดหุ้นคืน ทำให้บริษัทในตลาดหุ้นขาดความคล่องตัวทางการเงิน ตามมาด้วยความปั่นป่วนของตลาดหุ้น และการล่มของวอลล์สตรีทในนิวยอร์ก ในวันอังคารที่ 25 ตุลาคม 1929 ซึ่งสร้างความเสียหายกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นจำนวนมากสิ้นเนื้อประดาตัว และหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก
สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแพร่จากสหรัฐออกไปตามประเทศต่างๆ เหมือนโรคระบาด นอกจากประเทศมหาอำนาจเก่าในยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันแล้ว ยังลุกลามไปถึงประเทศในเอเชีย อย่างญี่ปุ่นและจีน รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งในเวลานั้นมีการส่งออกข้าวเป็นรายได้หลัก โดยนอกจากจะมีปริมาณการส่งข้าวออกไปจำหน่ายต่างประเทศลดลงแล้ว ราคาต่อตันของข้าวเปลือกก็ลดลงด้วย ทำให้รัฐขาดรายได้ไปกว่าครึ่งหนึ่ง ทางการต้องตัดทอนรายจ่ายต่างๆ ลง ส่งผลให้เกิดการว่างงาน และความไม่พอใจรัฐบาลของประชาชนบางส่วน จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองในการต่อมา
เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในคราวนั้น ยังก่อให้เกิดปัญหาและความเปลี่ยนแปลงทางสังคม และการเมืองหลายเรื่อง อาทิ ความขัดแย้งของประเทศต่างๆ ในยุโรปและเอเชีย กระแสชาตินิยม การเรียกร้องอิสรภาพของประเทศอาณานิคม และการเติบโตของลัทธิคอมมิวนิสต์ อันเป็นมูลเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งสร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพลโลกอย่างมหาศาล