ฟ้าถล่ม ‘พิธา’ พลังสีส้ม ‘ก้าวไกล’ ยึดเมืองหลวง

ยิ่งกว่าแลนด์สไลด์ พิธา พาพลพรรคก้าวไกล ยึดกรุงเทพฯ กวาดพรรคอนุรักษนิยมตกเวที สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นแล้ว

ปรากฏการณ์พรรคก้าวไกล คว้าที่นั่ง สส.กรุงเทพฯ 32 เขต พรรคเพื่อไทยได้ 1 เขต ต้องใช้คำว่า ฟ้าถล่ม(Sky Fall) ซึ่งเป็นชัยชนะที่เหนือความคาดหมาย

 

หลังปิดหีบเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล เปิดผลการสำรวจ สส.แบบแบ่งเขตของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 เขต (สำรวจ 1-11 พ.ค.66) พรรคก้าวไกล มีแนวโน้มจะได้รับการเลือกตั้ง 32 ที่นั่ง และพรรคเพื่อไทย 1 ที่นั่ง

 

ผลการนับคะแนนจริง (เมื่อเวลา 19.00 น.) ปรากฏว่า พรรคก้าวไกล มีคะแนนนำ 28 เขต และเพื่อไทย มีคะแนนนำ 5 เขต

ย้อนไปดูการเลือกตั้งทั่วไป 24 มี.ค.2562 กรุงเทพมหานคร มี สส.แบบแบ่งเขต 30 คน ปรากฏว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ 12 คน พรรคอนาคตใหม่ 9 คน และ พรรคเพื่อไทย 9 คน โดยไม่มีพรรคการเมืองอื่น มาเบียดแย่งเก้าอี้

 

การเลือกตั้งในครั้งนั้น กระแสความสงบจบที่ลุงตู่ ฉีกผลโพลเกือบทุกสำนัก แต่ครั้งนี้ กระแสอนุรักษนิยมอ่อนแรงลง คนเมืองหลวงต้องการเห็นการเมืองใหม่ จึงพร้อมใจกันเลือกผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล

 

ที่น่าสนใจ พรรคเพื่อไทยปราชัยในเกือบทุกเขต ทั้งที่ผลการสำรวจก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำพรรคดก้าวไกลมาโดยตลอด

 

กระแสเปลี่ยน

 

ปรากฏการณ์พิธา และพรรคก้าวไกล ในเมืองหลวง มาจากสองปัจจัยหลักคือ ประชาชนส่วนใหญ่เบื่อระบอบลุง และต้องการเห็นการเมืองใหม่

 

แม้พรรคเพื่อไทยจะนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหากปากท้อง แต่พรรคสีแดงกลับไม่กล้าเสนอนโยบายเชิงอุดมการณ์ เหมือนพรรคสีส้ม

 

ดังนั้น พรรคก้าวไกล จึงกลายเป็นตัวเปลี่ยนเกม ด้วยการชูนโยบายปฏิรูปแบบถอนรากถอนโคน ทั้งกองทัพ นายทุนทางผูกขาดเศรษฐกิจ การกระจายอำนาจ และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ รวมถึงการแก้ไขมาตรา 112

 

จุดเปลี่ยนที่ทำให้คะแนนนิยมพรรคก้าวไกล กระชากหนีพรรคเพื่อไทย คือความไม่ชัดเจนต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กรณีดีลลับข้ามขั้ว 

เมื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และแกนนำพรรคก้าวไกล โยนวาทกรรม “มีลุง ไม่มีเรา” ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยไปไม่เป็น คะแนนนิยมตกวูบ

 

หัวคะแนนธรรมชาติ

 

สัญญาณว่า พรรคก้าวไกล จะยึดสนามเมืองหลวง คงประเมินได้จากเวทีปราศรัยสุดท้ายที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อ 12 ธ.ค.2566 เพราะมีประชาชนนับหมื่นเดินทางมาร่วมฟังปราศรัยกันอย่างคึกคัก 

 

วันนั้น ในโลกออนไลน์ได้มีผู้เข้าร่วมฟังการปราศรัยของพรรค กก. ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมติดแฮชแท็ก #ปราศรัยใหญ่ก้าวไกล และ #พิธา เป็นจำนวนมาก จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์

 

เหนืออื่นใด พิธามาถึงจุดนี้ได้ ก็ต้องยกเครดิตให้หัวคะแนนธรรมชาติ หรือหัวคะแนนออแกนิก ทุกเพศวัย ไม่เฉพาะคนรุ่นเจน Y เจน Z หากแต่ยังมีคนรุ่นเจน X และรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ที่เทใจเลือกก้าวไกล เพราะต้องการเปลี่ยนประเทศไทย