คอลัมนิสต์

กระแสเหนือกระสุน ‘อุ๊งอิ๊ง’ ชิงดำ ‘พิธา’ พลิกโฉมการเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกมชิงอำนาจ กระแสเหนือกว่ากระสุน อุ๊งอิ๊ง นำเพื่อไทยสู้เพื่อชนะอีกครั้ง พิธา อาสาพาก้าวไกลปักธงความคิด เพื่อเอาชนะทางการเมือง

คู่ชิงเลือกตั้ง 66 อุ๊งอิ๊ง นำเพื่อไทยสู้เพื่อชนะอีกครั้ง พิธา อาสาพาก้าวไกลไปให้ไกลที่สุด เพื่อปักธงความคิดการเมืองใหม่ 

หลังเลือกตั้งครั้งนี้ โฉมหน้าการเมืองไทยจะเปลี่ยน การต่อสู้ด้วย กระแส จะมีความสำคัญกว่า กระสุน บ้านใหญ่จะลดบทบาทลง

 

การปราศรัยใหญ่ของหลายพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2566 มีการงัดกลยุทธ์ชุดสุดท้าย เพื่อกระชากใจให้คนแห่ไปเลือกในวันที่ 14 พ.ค.นี้

สำรวจจากโซเชียล มีเพียง 2 พรรคที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษคือ พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ภายใต้ชื่อ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ประเทศไทยเปลี่ยนทันที และพรรคก้าวไกล จัดเวทีปราศรัยคำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

 

4 ปีที่แล้ว พรรคอนาคตใหม่ ก่อเกิดได้ไม่ถึงปี ก็เข้าสู่สนามเลือกตั้ง แต่ได้สร้างความตื่นตะลึงให้แก่สังคมไทย ด้วยชัยชนะในระบบ สส.เขตหลายจังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ

หลังศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ได้ทำให้ขบวนการต่อสู้ของเยาวชนนักเรียน นักศึกษา ก้าวสู่ลงสู่ท้องถนน เพื่อประท้วงอำนาจเผด็จการ และทวงคืนประชาธิปไตย

“ราคาที่ต้องจ่ายคือการยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่นี่เป็นการลงทุนที่สุดคุ้ม ไม่มี ธนาธรก็มีพิธา ไม่มีปิยบุตรก็มีชัยธวัช ไม่มีพรรณิการ์ก็มีพริษฐ์..” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวบนเวทีปราศรัยใหญ่

 

สู้เพื่อชนะเลือกตั้ง

 

วันปราศรัยใหญ่ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร พยายามกล่าวย้ำเรื่องความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 

 

ต้องไม่ลืมว่า ปรากฏการณ์พรรคไทยรักไทย ปี 2544 กวาดมาได้ 11 ล้านเสียง แยกเป็น สส.เขต 200 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ  48 คน รวมทั้งสิ้น 248 คน

 

นี่คือชัยชนะของกระแส เหนือกระสุน ครั้งแรกในการเมืองไทย เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ใช้การเมืองเชิงนโยบาย เอาชนะการเมืองเก่า ที่ถนัดสาดกระสุนในคืนหมาหอน

 

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร จึงกระตุ้นเตือนแฟนคลับเพื่อไทย ด้วยเรื่องของพ่อ-ทักษิณว่า ก่อนหน้านี้ เธอเคยคุยกับพ่อเรื่องการกลับเมืองไทย

 

“ถ้าพ่อกลับมาติดคุก ระหว่างที่พ่ออยู่ในคุก ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อยากจะใช้มันสมองของท่าน ช่วยคนไทยผ่านวิกฤติเศรษฐกิจไปให้ได้”

 

อุ๊งอิ๊งกระตุกย้ำเรื่องทักษิณ และความสำเร็จของไทยรักไทย ก็หวังที่ปลุกกระแสเอฟซีเพื่อไทย เลือกแบบไม่ปันใจให้พรรคอื่น

 

สู้เพื่อชนะทางการเมือง

 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และแกนนำพรรคก้าวไกล พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาเข้ามาทำงานการเมือง เพื่อเอาชนะทางความคิด และทำงานทางความคิด เพื่อเอาชนะทางการเมืองในที่สุด


ย้อนไปเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว คนหนุ่มสาวยุคโน้น ได้รวมตัวกันก่อตั้งพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย และนำพรรคลงสู่สนามเลือกตั้ง เพื่อปักธงอุดมการณ์สังคมนิยม แต่สุดท้าย โดนพลังขวาจัดบดขยี้จนหายไปจากการเมืองไทย

 

พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล กำเนิดในวันที่บ้านเมืองตกอยู่ในสภาพกึ่งเผด็จการ คนรุ่นเจน Y เจน Z ไร้ความหวังกับการเมืองแบบเก่า 

 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีเวลา 3 ปีกว่า ในภารกิจขยายความคิดก้าวหน้า สร้างฐานมวลชน จนกลายเป็นปรากฏการณ์หัวคะแนนธรรมชาติ และด้อมส้ม

 

บวกกับกระแสเบื่อลุง ไม่เอาระบอบลุง ที่ก่อตัวขึ้นในช่วงโควิด คนส่วนใหญ่พ่ายแพ้พิษเศรษฐกิจ จึงทำให้คนรุ่นเจน X รวมถึงเบบี้บูมเมอร์ ขานรับนโยบายเปลี่ยนประเทศไทยของก้าวไกล

 

การเลือกตั้งสมัยที่แล้ว กระแสฟ้ารักพ่อ ยังระบาดแค่ในกลุ่มนิวโหวตเตอร์ แต่กระแสส้มรักพ่อ ในปีนี้ มีกระจายไปทุกเจนเนอเรชั่น ตั้งแต่สาวออฟฟิศไปจนถึงแม่ค้าสาวในตลาด

 

การทำการเมืองแบบก้าวไกลในวันนี้ ตอกย้ำว่า กระแส คือปัจจัยชี้ขาดชัยชนะ ไม่ใช่การหว่านกระสุนแบบการเมืองเก่า 

 

logoline