สาวโพธารามใจช้ำ ‘ปารีณา’ ฝ่าด่านระบอบลุง ชี้ชะตา ‘ไกรคุปต์’

ศึกโพธาราม-จอมบึง ปารีณา ลุ้นพี่ชายสู้เพื่อตระกูล ไกรคุปต์ เจอแรงกดดันหนักหน่วงที่สุดในชีวิตอดีต สส.หญิงเมืองโอ่ง

44 ปี บนถนนการเมืองของตระกูลไกรคุปต์ จากพ่อถึงลูกสาว และฝากความหวังไว้กับลูกชายคนโต จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้

 

ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี 4 สมัย ถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ฉะนั้น การเลือกตั้ง สส.ราชบุรี ปีนี้ เธอจึงเป็นได้แค่กองเชียร์ ลุ้นพี่ชาย สีหเดช ไกรคุปต์ ลงสมัคร สส.ราชบุรี เขต 3 สังกัดพรรคภูมิใจไทย

 

สัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง ปารีณา ตกเป็นข่าวกรณีปะทะคารมกับตำรวจ และมีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กกต.ติดตามตัวเธอ ราวกับเป็นผู้สมัคร สส.

 

หากเข้าไปดูที่หน้าเฟซบุ๊คของเอ๋ ปารีณา ก็จะมีคลิปที่เธอแจ้งข่าวให้เอฟซีทั้งหลายทราบว่า เธอถูกติดตาม ถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ 

 

การเลือกตั้งปีนี้ น่าจะเป็นปีที่ตระกูลไกรคุปต์ ต้องต่อสู้ทั้งในสนามและนอกสนาม เพราะมีสัญญาณว่า จะต้องเจอศึกหนัก ตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เดินทางมาเปิดตัว จตุพร กมลพันธ์ทิพย์ หลานชาย สส.เส็ง-ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ลงสมัคร สส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ 

 

วันนั้น ปารีณาก็ไปต้อนรับลุงป้อม ในฐานะอดีตลูกรักคนหนึ่ง และเธอคงหวังให้ผู้ใหญ่เมตตาปราณีผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต

 

ก่อนที่พี่ชาย-สีหเดช ไกรคุปต์ จะตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรค ภูมิใจไทยปารีณาอ่านทะลุเกมเปลี่ยนตัวผู้เล่นของลุงป้อม ตั้งแต่ครั้งมีการเลือกตั้งซ่อม สส.ราชบุรี เขต 3 แทนตัวเธอ

 

เมื่อพรรคพลังประชารัฐ มีมติไม่ส่งลงสมัคร สส. ก็เท่ากับเปิดทางให้ สจ.เส็ง ชัยทิพย์ ได้เป็น สส.โดยอัตมัติ โดย สจ.เส็ง ก็ยืมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์มาใส่ชั่วคราว ก่อนจะมาสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ

 

คนสวยโพธาราม

 

ทวี ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี 7 สมัย เป็นชาว อ.โพธาราม และเป็นผู้สร้างลูกสาว จากเวทีนางสาวไทยสู่เวทีสภาฯ ด้วยต้นทุนการเมืองที่เป็น สส.สมัยแรก ปี 2522

 

ปี 2544 ทวี ไกรคุปต์ ลาออกจากประชาธิปัตย์ มาสังกัดพรรคไทยรักไทย ลงสมัคร สส.ราชบุรี เขต 3 แต่สอบตก พ่ายผู้สมัคร สส.หน้าใหม่แบบเจ็บปวด

 

ปี 2548 ทวีจึงส่งเอ๋ ปารีณา ลูกสาวลงสมัครในนามพรรคไทยรักไทย  ซึ่งอาศัยฐานเสียงของพ่อ บวกกระแสทักษิณ ปารีณาก็ได้เป็น สส.สมัยแรก หลังจากนั้น ปารีณาชนะเลือกตั้งติดต่อกันอีก 3 สมัย ในสีเสื้อพรรคชาติไทย และพรรคพลังประชารัฐ

 

แม้ปารีณา จะมีบ้านเกิดอยู่ที่ อ.โพธาราม แต่ที่มั่นทางการเมืองของตระกูลไกรคุปต์ กลับอยู่ที่ อ.จอมบึง โดยการเลือกตั้งช่วงหลังๆ ปารีณา มักจะชนะคู่แข่งขาดลอยที่จอมบึงนี่แหละ 

ก๊วนเด็กป้อม

 

หลังเอ๋ ปารีณา เผชิญวิบากกรรมคดีรุกป่า และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เธอก็ไม่ได้เป็นลูกรักลุงป้อม และตอนหลัง ลุงบ้านป่ารอยต่อฯ ก็มีลูกรักคู่ใหม่คือ สจ.เส็ง กับหลานชาย 

 

วันที่ 17 ม.ค.2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บุกบ้านกำนันตุ้ย วิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี และบุญยิ่ง นิติกาญจนา โดยหวังจะให้กำนันตุ้น รวบรวม สส.เมืองโอ่งมาอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ

 

วันนั้น ลุงป้อมได้ประกาศให้คนราชบุรีรู้ว่า เส็ง-ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ อดีต สส.ราชบุรี และหลานชาย-จตุพร กมลพันธ์ทิพย์ อยู่ใต้ชายคาบ้านป่ารอยต่อฯ

 

ส่วนเอ๋ ปารีณา ได้พาพี่ชาย สีหเดช ไกรคุปต์ ออกไปพบปะชาวบ้านในสีเสื้อพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ปลายปี 2565 เพราะรู้ชัดแล้วว่า ลุงป้อมเลือกข้างบุญยิ่ง นิติกาญจนา อดีต สส.ราชบุรี 

 

ตระกูลไกรคุปต์ ในสีเสื้อน้ำเงิน ไม่เกรงกลัวคู่แข่งจากร้านทองเมืองโพธาราม เพราะเชื่อมั่นในฐานเสียง อ.จอมบึง จุดชี้ขาดชัยชนะ แต่สิ่งที่เอ๋ ปารีณา เผชิญอยู่เวลานี้ คงจะทำให้เธอรู้ซึ้งถึงมายาการเมือง เรื่องลูกรักลูกชัง