ลัทธิตาอยู่ ‘พิธา’ ตัดแต้ม ‘อุ๊งอิ๊ง’ บ้านใหญ่ชิงเข้าป้าย

กระแสโพล พิธา สูสี อุ๊งอิ๊ง แดง-ส้มสู้กันเดือด ขาใหญ่เพื่อไทยเตือนระวัง ตาอยู่ พรรคลุง และพรรคเครือข่าย จะเบียดแทรกเข้าเส้นชัย

 

ปากน้ำโมเดลสมัยที่แล้ว ตาอยู่ คือผู้กำชัย หลังคะแนนของค่ายสีส้มกับค่ายสีแดงตัดกันเอง เพราะโหวตเตอร์ลังเล รักพี่เสียดายน้อง

 

วัดจากกระแสโพล กระแสผู้คนในโลกออนไลน์ เหมือนภาพสะท้อนว่าการเมืองเก่า กำลังจะสูญพันธุ์ในการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 แต่ในความเป็นจริงทางการเมือง อาจไม่ได้เป็นไปตามผลโพล โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด

 

ว่ากันตามโพล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล มีคะแนนสูสีกันมาก

วันที่ 12 พ.ค.2566 ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยโพสต์ข้อความผ่านเฟซ บุ๊ก ระบุว่า ดูจากข้อมูลในพื้นที่ ซึ่งเป็นคะแนนจริงๆ ไม่ใช่คะแนนในอากาศ พรรคเพื่อไทยยังคงได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม เสี่ยอ้วนรู้สึกกังวลเรื่องการแข่งขันกันเองในปีกเสรีนิยม “..ในพื้นที่ที่มีการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้เกิดการตัดคะแนนกันเอง ปล่อยให้ตาอยู่อย่างลุงและเครือข่ายชนะไปย่อมไม่เกิดผลดี” 

 

ปากน้ำโมเดล

 

ประเมินจากสนามเลือกตั้ง สส.ปี 2566 มีเพียง อุ๊งอิ๊ง และ พิธา เท่านั้น ที่มีกระแสความนิยมสูงในทั่วประเทศ รวมถึงพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล พรรคการเมืองที่มีนักการเมืองบ้านใหญ่ เต็มพรรค มีกระสุน แต่ไร้กระแส จึงอาศัยกติกาบัตร 2 ใบ ดำเนินกลยุทธ์บัตรสีม่วง ขอให้เลือก “สส.เขต” ส่วนบัตรสีเขียว สส.บัญชีรายชื่อ ชาวบ้านจะเลือกพรรคไหนก็ได้

 

ซุ้มบ้านใหญ่ในหลายจังหวัด ประเมินว่า ยิ่งพรรคก้าวไกลมาแรง ยิ่งตัดแต้มพรรคเพื่อไทย เพราะทั้งสองพรรค มีฐานคะแนนนิยมในฝั่งเดียวกัน จึงหวังที่จะเป็นตาอยู่ 

 

สมัยที่แล้ว มีกรณีปากน้ำโมเดล พรรคเพื่อไทย กับพรรคอนาคตไทย ตัดคะแนนกันเอง กลุ่มบ้านใหญ่อัศวเหม ในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ จึงตัวสอดแทรกเข้าวินได้ถึง 5 เขต

ตาอยู่ผู้ชนะจากซุ้มบ้านใหญ่อัศวเหม มีคะแนนเหนือกว่าผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ ไม่กี่พันแต้ม หากเอาคะแนนสีแดงกับสีส้มรวมกัน ก็มากกว่าซุ้มบ้านใหญ่เท่าตัว

 

เสี่ยอ้วน ภูมิธรรม จึงยกกรณีตาอยู่ มาเตือนสติแฟนคลับค่ายสีแดง อย่าเลือกแบบปันใจ ให้เลือกเพื่อไทยพรรคเดียว มิเช่นนั้นจะต้องมานั่งเสียใจเหมือนสมัยที่แล้ว 

 

ตาอยู่ปทุม-นนทบุรี

 

สนามเลือกตั้งปริมณฑลกรุงเทพฯ มีโอกาสเกิดตาอยู่ทางการเมือง เพราะพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล แข่งขันกันสูสี มีโอกาสตัดแต้มกันเองจนร่วงทั้งคู่

 

ปทุมธานี เขต 4 สุทิน นพขำ อดีต สส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย แข่งกับ สกล สุนทรวาณิชย์กิจ พรรคก้าวไกล มีโอกาสแพ้ชนะเท่ากัน

 

ขณะที่ หนึ่ง-ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย พรรคภูมิใจไทย มีฐานคะแนนนิยมส่วนตัวแน่น และได้กระแสคนเสื้อแดงหนุน 

นนทบุรี เขต 1 นิยม ประสงค์ชัยกุล พรรคภูมิใจไทย ชิงดำ สุรพันธ์ ไวยากรณ์ พรรคก้าวไกล แต่ วิภาวัลย์ วรวรรณปรีชา พรรครวมไทบสร้างชาติ อาจเป็นตาอยู่แทรกเข้าป้าย

 

เขตเลือกตั้งนี้ สมัยที่แล้ว เจริญ เรี่ยวแรง ภรรยา ฉลอง เรี่ยวแรง สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐลงสนาม ขี่กระแสความสงบจบที่ลุงตู่ เข้าสภาฯ แบบช็อกคนเมืองนนท์

 

ปุ๊ก วิภาวัลย์ อดีตรองนายก อบจ.นนทบุรี หวังจะได้อานิสงส์จากกลุ่มรักลุงตู่ เหมือนที่เจริญ เรี่ยวแรง เคยได้รับเมื่อครั้งที่แล้ว 

 

นนทบุรี เขต 2 จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ อดีต สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แข่งกับปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ พรรคก้าวไกล ซึ่งเวลานี้ กระแสสีส้มแรงมากในพื้นที่

 

ส่วน เฉลิมพล นิยมสินธุ์ พรรครวมไทยนสร้างชาติ ก็คงเดินแนวทางเดียวกับ ปุ๊ก วิภาวัลย์ หวังกวาดคะแนนเสียงกลุ่มพลังอนุรักษ์นิยมในเมืองนนท์ 

 

กรณีตาอยู่ที่จะเบียดพรรคสีส้ม และสีแดงเข้าสภาฯได้ ต้องเป็นนักการเมืองที่ฐานคะแนนนิยมส่วนตัว และกระแสพรรคก็ไม่ต่ำติดดิน ประเภทยิงกระสุนอย่างเดียวแจ้งเกิดยาก