คอลัมนิสต์

เสรีนิยมขย่ม ‘ประยุทธ์’ หวังพลังช้างป่วย พี่ใหญ่ ‘ประวิตร’ เหนื่อย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปีกเสรีนิยมสุดคึก ประยุทธ์ เหนื่อยสุดชีวิต ฉุดพี่ใหญ่ ประวิตร ร่วงตาม ปลุกความกลัว หวังอนุรักษนิยมรวมพลังช้างป่วย ชนะกระแสเปลี่ยนไทยไม่เหมือนเดิม

อนุรักษนิยมกระแสต่ำ ประยุทธ์ เหนื่อยสุดชีวิต ฉุดพี่ใหญ่ ประวิตร ร่วงตามไปด้วย เสรีนิยมกุมความได้เปรียบในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

 

ฝั่งหนึ่งปลุกความหวัง อีกฝั่งหนึ่งปลุกความกลัว ประยุทธ์ หวังอนุรักษนิยมรวมพลัง เอาชนะเสรีนิยมที่เสียงแตก เพราะเพื่อไทยงัดก้าวไกล

 

สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีคิวเดินสายหาเสียงที่ภาคใต้ยาวจนถึงวันที่ 12 พ.ค.2566 ก่อนจะเปิดการปราศรัยใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน

 

ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในนาม 2 ป. ก็ตกเป็นเป้าหมายในการหาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลคือ ไม่เอา 2 ป. และปิดสวิตช์ 250 สว.

 

พรรคสีส้มมีความชัดเจนเรื่องไม่เอา 2 ป.มาแต่แรก แต่พรรคสีแดงถูกกดดันให้ต้องแสดงจุดยืนแบบตรงไปตรงมา และปฏิเสธไม่มีดีลลับกับ ป.ประวิตร

 

หากประเมินจากผลโพลล์หลายสำนัก พบว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แบ่งกลุ่มคนออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มความคิดทางการเมืองแบบเสรีนิยม 60% และกลุ่มความคิดทางการเมืองแบบอนุรักษนิยม 40%

 

พล.อ.ประยุทธ์ และแกนนำพรรค รทสช. ยังแอบหวังลึกๆ ที่จะเห็นคนสูงวัย คนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ พากันออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันอย่างคึกคักเหมือนการเลือกตั้งปี 2562 

 


 

ปลุกพรรคข้าราชการ

 

สัปดาห์นี้ ประยุทธ์ ใช้เวลาหาเสียงในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคเดียวที่ลุงตู่ได้รับความนิยมสูงกว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรคอื่น 

 

 

 พล.อ.ประยุทธ์ เดินสายหาเสียงในภาคใต้ สัปดาห์สุดท้าย

 

 

ขณะเดียวกัน พรรค รทสช. ได้เผยแพร่คลิปประเทศไทยไม่เหมือนเดิม โดยถามคนไทยว่า อยากให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมจริงหรือ ซึ่งหลายฉากในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อีกหลายฉากเป็นเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นจริง

 

ฝ่ายตรงข้ามกับพรรค รทสช. ก็วิจารณ์ว่า ทีมงานลุงตู่กำลังปลุกความกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนที่ถูกเรียกว่า กลุ่มอนุรักษนิยม 

 

ที่ร้อนแรงก็น่าจะเป็นฉากข้าราชการบำนาญต้องมานั่งขอทาน ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวโยงกับข่าวลือจะตัดบำนาญข้าราชการ หรือที่เรียกว่างบช้างป่วย

 

ทำเอากองเชียร์พรรคสีส้มต้องออกมาโต้ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พรรคก้าวไกลไม่เคยเสนอและไม่มีนโยบายตัดบำเหน็จบำนาญข้าราชการใดๆ ทั้งสิ้น 

 

ใครก็รู้ว่า ในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ พรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดก็คือพรรคข้าราชการ ไม่ว่าจะมีรัฐประหาร หรือมีการเลือกตั้ง พรรคนี้ก็ยังอยู่ยั้งยืนยง

 

การปลุกช้างป่วย(ข้าราชการบำนาญ) รวมถึงข้าราชการประจำ ให้ลุกขึ้นมาแสดงพลังในคูหาเลือกตั้ง ก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งของฝ่ายอนุรักษนิยม 

 

 

 

พึ่งบ้านใหญ่

 

นักวิชาการสรุปตรงกันว่า การเสนอตัวเป็นผู้นำก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ได้ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ติดใน 10 อันดับแรกของบุคคลที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกฯ

 

ดังนั้น พล.อ.ประวิตร จึงหันไปพึ่งพานักการเมืองบ้านใหญ่ ที่เหลืออยู่ในพรรค พปชร.จำนวนหนึ่ง โดยคาดหวังจะได้เก้าอี้ สส.ไม่ต่ำกว่า 70 ที่นั่ง

 

ย้อนไปดูผลการเลือกตั้งปี 2562 ฝ่ายอนุรักษนิยม มีคะแนนรวม 8.8 ล้านเสียง คือ พปชร. 8.4 ล้านเสียง และพรรครวมพลังประชาชาติไท (พรรครวมพลัง) 4.1 แสนเสียง

 

คะแนนรวมของพรรค พปชร.เกือบทั้งหมด เป็นคะแนนนิยมส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่อยู่กับ พล.อ.ประวิตร เป็นคะแนนเฉพาะตัวของนักการเมืองกลุ่มบ้านใหญ่

 

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แยกไปตั้งพรรค รทสช. ทางฝั่ง พล.อ.ประวิตร ก็ตระหนักดีว่า คะแนนนิยมในกลุ่มอนุรักษนิยมจะไหลไปรวมที่พรรคลุงตู่

 

พรรคลุงป้อม จึงต้องเน้นที่การรักษาฐานบ้านใหญ่ หรืออดีต สส.ที่มีคะแนนนิยมเฉพาะตัว ประมาณ 30,000-35,000 คะแนนต่อเขต ยกตัวอย่างกลุ่มบ้านใหญ่ผู้กองธรรมนัส, บ้านใหญ่เพชรบูรณ์, บ้านใหญ่กำแพงเพชร, บ้านใหญ่โคราช, บ้านใหญ่ปากน้ำ, บ้านใหญ่สระแก้ว ฯลฯ

 

พรรคลุงป้อมจะได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับกระแสเพื่อไทยแลนด์สไลด์ หรือพิธาฟีเวอร์ จะรุนแรงแค่ไหน
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ