คอลัมนิสต์

‘ประชาธิปไตย’ แบบไทย ‘แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี’ ไม่ลง ‘สส.ปาร์ตี้ลิสต์’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพื่อความสง่างาม ลบเสียงครหา ‘แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี’ ควรลง ‘สส.ปาร์ตี้ลิสต์’ แม้รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ แต่คงยกเว้น ‘ประชาธิปไตย’ แบบไทยๆ

กระแสสังคม ฟันธงตรงไปตรงมา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต้องลง 'สส.ปาร์ตี้ลิสต์’ แต่ที่นี่ประเทศไทย 'ประชาธิปไตย' แบบไทยๆ ที่บางครั้งก็ยึด ‘หลักการ’ แต่ถ้าตัวเองไม่ชอบก็ยึด ‘หลักกู’ แล้วใครจะทำไม เพราะรัฐธรรมนูญเปิดกว้างไม่ได้กำหนดไว้

นายกฯต้องยึดโยงกับประชาชน

ก่อนหน้านั้น ‘พรรคเพื่อไทย’ ย้ำหนักแน่น บอก ‘นายกรัฐมนตรี’ ต้องยึดโยงกับประชาชน ต้องมาจาก สส. เท่านั้น วันนี้เป็นไง 

 

หากเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนอะไร ‘เพื่อตัวเอง’ แล้วเข้ามาบริหารประเทศไทยก็คงไม่แตกต่างกัน เขาเรียกว่าอะไร เพื่อชาติ เพื่อประชาชน หรือ ‘เพื่อตัวเอง’

 

คนรอบข้างแม้แต่ตัวเอง ตอบสื่อว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล และรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนด และจะขอเป็น ‘ผู้บริหาร’ เท่านั้น ทั้งที่พรรคนี้เสนอชื่อให้เป็น ‘แคดิเดตนายกรัฐมนตรี’ กับอีกคนลูกสาวคนสวยของ ‘โทนี่ วู๊ดซั่ม’ ก็ไม่ลงเช่นกัน 

 

และบอกนี่แหละคือการยึดโยงประชาชนแล้ว เพราะหากประชาชนเลือกพรรค ก็ถือว่าใช่ เลือกพวกเขาเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ด้วย ประเด็นอยู่ที่ว่า ‘หลักการ’ เคยยึดมั่น หายไปไหน หรือกลัวไม่ได้เป็นรัฐบาล

เป็นนายกรัฐมนตรีต้องยึดโยงกับประชาชน

 

 

ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาล ต้องนั่งในสภาฯ ทำหน้าที่เป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ใช่หรือไม่? เพราะไม่ชอบ เป็นได้อย่างเดียว คือฝ่ายบริหาร เพราะได้บริหารเช่นเดียวกับที่ตนเองเป็น คือ‘บริหารธุรกิจ’ แต่การ ‘บริหารรัฐกิจ’ มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

 

‘ธุรกิจ’ มุ่งผลกำไรให้ตัวเอง แต่ ‘บริหารรัฐกิจ’ ต้องบริหารเพื่อประชาชน และประเทศชาติ เป็นสำคัญ  อาจจะไม่ถนัด หากไม่ได้เป็นรัฐบาลก็กลับไปบริหารธุรกิจต่อ ไม่เดือดร้อนเพราะรวยล้นฟ้า 

 

ที่สำคัญไม่ได้เป็น สส.ไม่ต้องเข้าไปนั่งในสภาฯ เพื่อเสนอแนวทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพราะถือว่าไม่ใช่หน้าที่ ขอเป็นอย่างเดียวคือ ‘นายกรัฐมนตรี’ ถึงจะช่วยชาวบ้านได้?

 

รวมไทยสร้างชาติ เป็นอีกพรรคการเมือง ที่ ‘แคดิเดตนายกรัฐมนตรี’ คนที่ 1 ก็ไม่ลงสมัคร ‘สส.ปาร์ตี้ลิสต์’ อ้างว่าถ้าเป็นนายกฯก็อยู่ได้แค่ 2 ปี และรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้กำหนดไว้เช่นกัน

 

2 พรรคการเมืองนี้ คิดตรงกันเรื่องเดียวนี่แหละ ถ้าพ่ายแพ้เลือกตั้ง66ไม่ได้เป็นรัฐบาล คงไม่อยากนั่งในสภาฯ เป็น ‘ฝ่ายค้าน’ เหมือนกัน ต้องการเพียงตำแหน่งเดียวคือ ‘นายกรัฐมนตรี’ ผู้นำประเทศไทย  

 

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำคนสำคัญพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศถึง 3 ครั้งว่า 'พล.อ.ประยุทธ์ ลง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ' แต่ในที่สุดไม่ลงสมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์

 

‘ป๋าเปรม’ เคยสอนว่า เรื่องไม่จริงอย่าพูด หรือเรื่องจริงบางอย่างไม่ควรพูด ‘นิ่งๆ อย่า แหลงไหร’ (สำเนียงใต้) 

 

คนเราเมื่อเข้าสู่การเมือง ย่อมเปลี่ยนได้เสมอ ถ้าหากไม่มี ‘อุดมการณ์’ ที่มั่นคงเหมือนกับปัจจุบันย้ายไปอยู่ ‘ในบ่อเพื่อน’ พร้อมสมัครพรรคพวกอีกหลายคนที่มากด้วยอุดมการณ์? 

 

ตามวิถีนักการเมือง เมื่อรับสมัคร สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อจับฉลากได้เบอร์ ลุยต่อหาเสียง ส่วนพรรคการเมือง และผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์เมื่อพรรคการเมืองจับฉลากได้หมายเลขของพรรคกันเรียบร้อย ต่างลงพื้นที่ และร่วมเวทีดีเบตตามวิถีประชาธิปไตย

 

ชื่นชม ‘หัวหน้าพรรคการเมือง’ ทุกพรรคการเมือง ที่ส่ง ‘แคดิเดตนายกรัฐมนตรี’ ลง ‘สส.ปาร์ตี้ลิสต์’ อันดับ 1 ทุกคน นี่สิ ‘ของจริง’ 

 

ไม่ใช่หวังเข้ามาเพื่อจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงอย่างเดียว อย่าลืมว่างานการเมือง สส.เป็นตัวแทนประชาชน เป็นปากเป็นกระบอกเสียงสะท้อนปัญหาในสภาฯอันทรงเกียรติ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ตามวิถีประชาธิปไตย

 

จริงอยู่รัฐธรรมนูญไม่กำหนด 'แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี' ไม่ต้องลง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่เพื่อความสง่างาม ลบเสียงครหาใดๆ ‘แคนดิเดตนายกฯ’ ควรลง ‘สส.ปาร์ตี้ลิสต์’ แต่คงยกเว้น ‘ประชาธิปไตย’ แบบไทยๆ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ