'ดับฝันแลนด์สไลด์' 'ประชาธิปัตย์' ฆ่าไม่ตาย 'ลุงตู่' ไปต่อ

พลันที่รัฐบาลประกาศยุบสภา และมีพระราชกฤษฎีกากำหนดการเลือกตั้ง66 การเปิดหน้าเปิดตัวของพรรคการเมืองและนักเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก็กระจ่างชัดขึ้นทันที 

 

ภาพที่เห็นการเคลื่อนไหวเมื่อปีที่แล้วแทบจะด้อยค่าไปทันที พรรคการเมืองที่เปิดตัวสร้างกระแส ‘แลนด์สไลด์’ เริ่มถูกสวนอย่างแรงจากคนที่เคยรัก อย่าง 'ตู่ จตุพร พรหมพันธุ์’ หลายดอกอย่างต่อเนื่องจนจุกแทบคายของเก่า

 

สมทบด้วยการเดินสายเยี่ยมชาวบ้านของ ‘ลงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ชูมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ล้วนแต่เรื่องใหญ่ๆสัมผัสได้ จน ‘คนแดนไกล’ ต้องออก Clubhouse ‘คลับเฮ้าส์’ อย่างถี่ยิบร้อนรนเพื่อกู้ ‘กระแสแลนด์สไลด์’ให้กลับคืน 

 

พรรคประชาธิปัตย์ ฟื้นชีพ

แต่การร่ายมนต์ดำชักจะไม่ขลังเหมือนอดีต เพราะแม้แต่ ‘พรรคประชาธิปัตย์’ ที่ถูกปรามาสว่าจะสูญพันธุ์ใน ‘ภาคอีสาน’ เพียงขยับป้ายสีฟ้าสวยงามก่อนใครอื่นทั่วภาคอีสานก็สามารถเรียกความสนใจจากแฟนพันธุ์แท้ ‘ประชาธิปัตย์’ ได้มากกว่าป้ายของ ‘อุ้งอิ๊งค์’ แพทองธาร ชินวัตร ที่เริ่มซีดจางอยู่ข้างๆ

 

ยศพงศ์ พิมพ์ดี ผู้ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์อีสานกลางและผู้สมัคร สส.ร้อยเอ็ด เขต 1 เฉลยคำตอบว่า ในขณะที่เพื่อไทยเดินสายอาละวาดในภาคอีสานตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว แต่พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ หัวหน้าพรรคได้ออกลุยพื้นที่เยี่ยมประชาชนและตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์มาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่าสามปี เพื่อติดตามผลงานด้านการทุ่มงบประมาณส่งเสริมการเกษตรและราคาผลผลิตที่ชาวบ้านได้รับอย่างเต็มๆ

 

จากผลงานเชิงประจักษ์ ทำให้แกนนำพรรคและสมาชิกแฟนพันธุ์แท้ ‘พรรคประชาธิปัตย์’ จำนวนมากมายในหัวเมืองต่างๆเผยตัวตนออกมาเรื่อยๆหลังจากที่หลบหน้าอย่างหดหู่มานานข้ามปี

 

“ถึงแม้เราจะไม่สามารถได้สส.ระบบเขตมากมาย แต่สส.ระบบบัญชีรายชื่อเราไม่อายใครแน่นอนในภาคอีสาน เพราะความผูกพันเชิงอุดมการณ์กับมวลชนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่กำลังฟื้นคืนชีพอย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง” แกนนำประชาธิปัตย์ภาคอีสานกล่าว

 

กระแส 'ลุงตู่' มาแรง

ในขณะที่น้องใหม่อย่าง ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’ หลังจากที่ 'ลุงตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศตัวเป็นแม่ทัพใหญ่ของพรรคชูนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” พร้อมกับมีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติเพื่อยืนยันว่านี่คือวาจาสิทธิ์ไม่ใช่วาจาหาเสียงที่เลื่อนลอยของนักการเมือง ทำเอาชาวบ้าน ข้าราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้านตื่นจากอาการมึนงงหูอื้อตาลาย เพราะพายุลมปากนักการเมือง อาทิ มติครม.เรื่องเพิ่มในบัตรลุงตู่จาก 600 บาทเป็น 1,000 บาท แถมกู้ฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท ทำเอา ‘ลุงป้อม’ 700 แทบจะกลายเป็นง่อยในทันที หรือการเพิ่มเงินเดือนให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล(ส.อบต.) และกำนันผู้ใหญ่บ้านรวมแล้วกว่า 5 แสนคน เรียกได้ว่า แทบจะปูผ้าขาวรอปิดทอง ‘ลุงตู่’ ให้เหลืองอร่ามไปทั้งตัว

 

ดร.วุฒิพงศ์ ศุภรมย์ ผู้ประสานงานผู้สมัคร สส. ภาคอีสาน และเลขานุการประจำนายวิทยา แก้วภารดัย แม่ทัพพรรครวมไทยสร้างชาติ ภาคอีสาน เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคฯในขณะนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของพรรคเป็นอย่างมาก

 

ประเด็นแรก ตลอดระยะเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมาเราต้องทำงานหนักกับการกลั่นกรองคัดผู้สมัครเขตละอย่างน้อย 5-10 คนให้เหลือเพียง 1 คน 

 

ประเด็นที่สอง เสียงเรียกร้องจากชาวบ้าน ข้าราชการและผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละจังหวัดต่างเรียกร้องอยากพบอยากสัมผัส ‘ลุงตู่’ ตัวเป็นๆ เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจ 

 

ด้วยเหตุผลสำคัญคือ ‘ลุงตู่’ มีผลงานที่สัมผัสได้และเป็นสุภาพบุรุษไม่ตอบโต้ หรือให้ร้ายใคร ทั้งๆที่ถูกโจมตีด้อยค่ามาโดยตลอด จนผู้บริหารพรรคต้องมอบหมายให้ วิทยา แก้วภารดัย และ ‘แรมโบ้อีสาน’ ดร.เสกสกล อัตถาวงษ์ สองขุนพลใหญ่ภาคอีสาน เรียกประชุมผู้สมัคร สส. ภาคอีสาน 133 คน เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 ให้เร่งลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านเพื่อขอบคุณ และเตรียมพร้อมรอต้อนรับ‘นายกรัฐมนตรี’ ในอีกไม่นาน

 

ส่วน ‘พรรคภูมิใจไทย’ และ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ช่วงนี้ การเคลื่อนไหวค่อนข้างเงียบผิดปกติ มีแต่เพียงป้ายประชาสัมพันธ์พรรคและผู้สมัคร สส. ทยอยติดตั้งไล่หลัง พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไทย รวมไทยสร้างชาติ และไทยสร้างไทย 

 

 ‘แลนด์สไลด์’ อาจไม่เกิดในภาคอีสาน

ดร.อวยชัย วะทา นักวิเคราะห์ และอาจารย์ผู้สอนระดับปริญญาเอกด้านการเมือการปกครองให้ความเห็นไว้อย่างน่าฟังว่า ทั้งสองพรรคคงเตรียมอาวุธสารพัดชนิดไว้เผด็จศึกเลือกตั้ง2566 เป็นระลอกๆตามความถนัดและคลังกระสุนที่มีอย่างเหลือเฟือ 

 

สนามเลือกตั้งในภาคอีสาน ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ยังเหลืออดีต สส.จากซุ้มต่างๆที่คาดว่าจะได้รับเลือกตั้ง2566 อยู่ประมาณ 15 เขต ส่วน ‘พรรคภูมิใจไทย’ ด้วยพลังดูดและแรงจูงใจด้านนโยบายสาธารณสุขคาดว่าจะได้ สส.เพิ่มขึ้น อย่างน้อยสองเท่าของการเลือกตั้งปี2562 คือไม่น้อยกว่า 32 เขต เพราะกระแส และกระสุนของเขาคมกริบแม่นยำตรงเป้าจริงๆ

 

ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านสำคัญอย่าง ‘พรรคเพื่อไทย’ และ ‘พรรคก้าวไกล’ ยุทธการเปิดเวทีปราศรัยโจมตีเสียดสีซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดย 'อุ้งอิ๊งค์' และ 'เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ' ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย แรกๆก็สร้างความฮือฮาน่าสนใจ แต่คำอธิบายนโยบายที่ไม่แจ่มชัด ทำให้ชาวบ้านเริ่มบ่นว่า ไม่อยากฟังคนด่ากันจนแสบแก้วหูน่าเบื่อหน่าย จนเห็นภาพสะท้อนจากทุกเวทีปราศรัยที่ชาวบ้านลุกเดินกลับบ้านทั้งๆว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยปราศรัยขอความเห็นใจว่าอยาก 'พาพ่อกลับบ้าน' เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 

 

ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ‘แลนด์สไลด์’ ไม่อาจเกิดขึ้นจริงในภาคอีสาน จากจำนวนที่นั่ง สส. 133 เขต แค่รักษาที่นั่งเดิม 84 เขตไว้ได้ก็ถือว่าไพร่ฟ้าประชาชียังหลงเหลือความสงสารและความผูกพันอยู่บ้างพอสมควร

 

ส่วน ‘พรรคก้าวไกล’ ที่เล่นใหญ่เล่นของสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกรุงเทพมหานคร(กทม.)และหัวเมืองต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และเบื้องหน้าม็อบสามนิ้วที่ชุมนุมอาละวาดตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วยหรือไม่

 

ชาวอีสานโดยเฉพาะชาวชนบทผู้ได้รับประโยชน์หลายระลอกจาก รัฐบาลลุงตู่หลายพรรคการเมืองคงใส่ใจกับปัญหาปากท้องมากกว่าการเห็นดีเห็นงามกับการปฏิรูปสถาบัน ที่ไม่สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย คาดว่า 1 ที่นั่งในภาคอีสานที่ขอนแก่นคงเกิดขึ้นได้ยากพอๆกับการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1

 

กล่าวโดยสรุป สนามเลือกตั้งอีสาน 14 พ.ค. 2566  คะแนนนิยม ‘ลุงตู่’ คงช่วยให้พรรครวมไทยสร้างชาติโกยคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ได้เป็นกอบเป็นกำไม่น้อยกว่า 3 ล้าน คะแนนเสียงแบบเขตคงได้รับแรงส่งให้อยู่ในระดับได้ ประมาณ 15 ที่นั่ง ที่เหลือจะอยู่ในระดับ 2 หรือ 3 จำนวนมาก 

 

ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และประชาธิปัตย์ คงเป็นด่านสำคัญที่จะกีดขวางให้ยุทธศาสตร์ ‘แลนด์สไลด์’ ของเพื่อไทยกลายเป็นฝันกลางแดดในขณะที่ดินฟ้าอากาศกำลังร้อนระอุ เหมือนอูณหภูมิการเมืองก็ร้อนระอุไม่แพ้กัน

 

นาทีนี้ฟันธงได้ว่า สนามเลือกตั้ง66 ภาคอีสาน พรรคร่วมรัฐบาล 'ดับฝันแลนดสไลด์' ด้วยผลงานเชิงประจักษ์ ‘ประชาธิปัตย์’ คืนชีพอย่างเหลือเชื่อ หลังอดีตนักการเมืองคัมแบ็คจำนวนมาก ขณะที่คนอีสานปูผ้าขาวรอปิดทอง ‘ลุงตู่’