
ผู้ช่วยทูตทหาร ด่านหน้าสุดของกองทัพ
หากจะถามว่าทหารคนแรกสุดที่ต้องรับมือกับนานาประเด็นที่ไทยต้องเผชิญกับประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลกคือใคร คงมีน้อยคนนักที่จะตอบว่า ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ พวกเขาคือบุคคลแรกที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างกองทัพถึงใน
พวกเขาคือผู้รักษาความสัมพันธ์ รังสรรค์ความร่วมมือระหว่างชาติให้บังเกิด นี่ยังไม่นับงานรับรองผู้หลักผู้ใหญ่ที่เดินทางไปยังประเทศของพวกเขา จนทำให้แทบไม่มีเวลาสำหรับงานหลักจริงๆ นั่นคือ งานด้านข่าวกรอง
การอบรมผู้ช่วยทูตทหารประจำปีนี้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม และจะยาวนานไป 3 เดือนที่ บก.กองทัพไทย ก่อนจะไปฝึกปรือที่กระทรวงการต่างประเทศอีก 2 สัปดาห์ เพื่อให้พันเอก นาวาเอก และนาวาอากาศเอกพิเศษ ระดับครีม ของกองทัพเหล่านี้ พร้อมทุกด้านอย่างบริบูรณ์สำหรับการไปทำหน้าที่เพื่อชาติในประเทศที่มีความสำคัญทางทหารกับไทย ตุลาคม 2552
ไทยมีผู้ช่วยทูตทหารครั้งแรกตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดย ร.ท.ม.ล.อมรทัต กฤดากร เป็นทูตคนแรกประจำที่ฝรั่งเศส แต่ต้องดูแลชาติสำคัญที่เป็นพันธมิตรของรัฐบาลปารีสในช่วงนั้นด้วย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เราเริ่มมีการเพิ่มเติมทูตเฉพาะเหล่าและเริ่มให้บางท่านดูแลประเทศเดี่ยวๆ ทุกวันนี้ประเทศใหญ่ๆ เช่น สหรัฐ หรือจีน เรามีผู้ช่วยทูตครบทุกเหล่า แถมอาจเพิ่มอัตรากำลังพลช่วยงานเพิ่มเติม นอกเหนือจากเสมียนทูต ซึ่งเป็นนายสิบหรือจ่าที่เก่งสุดๆ อยู่แล้ว แต่สำหรับประเทศที่สำคัญรองลงมา หรือสำคัญเฉพาะด้าน เราอาจฝากการทำงานสามเหล่าให้แก่ผู้ช่วยทูตคนเดียวไปเลย ซึ่งก็หนักหน่อย
โดยทั่วไป งานของท่านทูตวัย 40 กลางถึง 50 ต้นเหล่านี้มี 3 ด้าน ด้านที่หนักที่สุดคือ การรับรองแขกจากเมืองไทยที่บินไปติดต่อเรื่องนั้นเรื่องนี้กับประเทศเจ้าภาพนั่นแหละ ยิ่งประเทศที่มีความสำคัญมาก เช่น สหรัฐ อังกฤษ หรือชาติเพื่อนบ้าน งานประเภทนี้หัวกะไดไม่เหือด ศรีภริยา จึงสำคัญมาก ที่ต้องเก่งและคล่องงานด้านนี้ด้วย การคัดเลือกตัวแทนทางทหารของชาติจึงพิถีพิถัน พิจารณากันถึงระดับครอบครัว นอกเหนือจากการพิจารณาความสามารถทางวิชาการเกียรติประวัติการทำงานและบุคลิกของเจ้าตัวแล้ว
ที่หนักรองลงมาคือ งานด้านวิเทศสัมพันธ์และการทูตฝ่ายทหาร ที่ต้องดีลกับประเทศเจ้าบ้านนับไม่ถ้วนประเด็น เพื่อคงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดและเกียรติภูมิของชาติ
ส่วนงานด้านสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันคือ งานข่าวกรอง นั้น แล้วจะเล่าให้ฟังอีกทีหนึ่ง โปรดติดตามนะครับ