คอลัมนิสต์

ล้วงลึก "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" จาก เด็กบ้านนอก สู่ เจ้าของ เวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" เผยเส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฝ่าฟันอุปสรรค ต่อสู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก จวบจนประสบความสำเร็จกลายเป็นเจ้าของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ยอมรับสนใจงานด้านการเมือง มีหลายพรรคทาบทาม แต่ยังไม่ถึงเวลา

มีกระแสให้พูดถึงอยู่ตลอดเวลา สำหรับ เจ้าของ เวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ “ณวัฒน์  อิสรไกรศีล” ล่าสุดก็กรณี “อิงฟ้า วราหะ” มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ตกเป็นกระแสดราม่าว่ามีคนพาเธอหนีเที่ยวจนเมา ไม่ยอมมาซ้อมประกวด แถมยังบินลัดฟ้าไปเที่ยวไกลถึงประเทศสิงคโปร์ ทำเอาเจ้าของเวทีมิสแกรนด์ผิดหวังในตัวเธอ อย่างไรก็ดีวันนี้ คมชัดลึก ออนไลน์ จะไม่พูดถึงประเด็นดังกล่าว แต่จะไปล้วงลึกเส้นทางชีวิต กว่าจะมาเป็น “ณวัฒน์ ” ในวันนี้ ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้

 

“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2516 ปัจจุบันอายุ 49 ปี เป็นชาวอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนสายธรรมจันทร์ จังหวัดราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนบดินทร์เดชา สิงห์ สิงหเสนี และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

 

“ผมเป็น เด็กบ้านนอก ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยอะไร อยู่กับวัด เรียนโรงเรียนวัด กินข้าววัด ทุกวันตั้งแต่เล็กจะเห็นทุ่ง เห็นสวน สวนองุ่น สวนถั่วฝักยาว ผมทำทุกอย่างหมดช่วยครอบครัว หาเช้ากินค่ำ ทุกๆ วันจะเห็นรถ บขส.วิ่งเข้ากรุงเทพฯ เราก็ไม่รู้หรอกว่าที่กรุงเทพฯ มีอะไร คิดเพียงอย่างเดียวว่าที่นั่นน่าจะเป็นฝันของเราได้ เลยตัดสินใจเข้ามาเรียนต่อ บอกกับตัวเองว่าเราไม่มีต้นทุน ต้องไปสอบแข่งกับชาวบ้านเอา”

 

“ณวัฒน์” บอกด้วยว่า ตนเองทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั้งแต่ อยู่ชั้น ม.6 ใช้เวลาทำงานตั้งแต่อายุ 16 เรียนจบมัธยมปลายก็ทำแบบฟูลไทม์ทันที ดังนั้นช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องศึกษาในมหาวิทยาลัยที่เอื้ออำนวยกับการทำงานด้วย

 

“ระหว่างที่เรียนอยู่ผมได้ออกตระเวนเล่นเกมโชว์ตามรายการโทรทัศน์หลายรายการ ได้รับรางวัลจำนวนมากถึงขั้นส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ และเริ่มต้นมีประสบการณ์การเดินทางต่างประเทศจากการได้รับรางวัล จากนั้นได้เป็นพนักงานฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์ควบคู่ไปกับการเรียนในระดับปริญญาตรี ผมเป็นเซลล์ขายรถ ผมได้เงินจาการขายรถ ผมก็ได้เงินมาใช้ในการเรียนหนังสือ ผมยอมที่จะจ่ายแพงค่าหน่วยกิตที่แพงกว่า แต่มหาวิทยาลัยตอบโจทย์คนทำงานอย่างเราได้ และที่เลือกเรียนเศรษฐศาสตร์เพราะว่าชอบค้าขาย ชอบทำธุรกิจอยู่แล้ว รถยนต์เราก็ขาย หนังสือพิมพ์ริมถนนผมก็ขาย ขายจนชิน จึงเป็นที่มาของความกลมกล่อมว่า ชีวิตเรามีวาทศิลป์ ชีวิตเราต้องมีความกล้า ชีวิตเราต้องมีความอดทน และไม่หมิ่นเงินน้อย ไม่คอยวาสนา” 

 

หลังจากนั้น “ณวัฒน์” ได้ผันตัวเองไปเป็นมัคคุเทศก์ ตระเวนเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก และเปิดบริษัทนำเที่ยวของตัวเอง ในนาม บริษัท โบอิ้ง ฮอลิเดย์ ทัวร์ แอนด์ ทราเวล จำกัด ก่อนเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองอีกครั้งเมื่อถูกชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง ในฐานะพิธีกรหลายรายการ รวมถึงได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ กระทั่งปี พ.ศ. 2556 “ณวัฒน์” ได้ผันตัวเองอีกครั้งสู่การตั้งเวทีประกวดสาวงามในปี โดยใช้ชื่อว่า "มิสแกรนด์ ไทยแลนด์" (Miss Grand Thailand) นอกจากนั้นยังเป็นประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประกวดสาวงามระดับนานาชาติ โดยใช้ชื่อว่า "มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ซึ่งถือเป็นเวทีนางงามระดับนานาชาติเวทีแรกของโลกที่มีจุดกำเนิดและก่อตั้งโดยคนไทย และเขาได้ประกาศลาออกจากวงบันเทิง เมื่อปี พ.ศ.2564

 

“ส่วนตัวผมนับถือและสนิทกับคุณไตรภพ ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ ตอนที่เป็นข่าวดังช่วงนั้น ผมไม่ได้อยากลาออก แต่มันเป็นวิกฤติของโควิด-19  วิกฤติของตัวผมซึ่งตอนนั้นหนักมาก อยู่ไอซียูประมาณ 20 วัน ผมมาคิดถึงเรื่องส่วนตัวก่อน เริ่มรักตัวเองมากขึ้น ไม่อยากใช้ชีวิตที่มีคิว 7 วัน บางวันวิ่งงานถึง 7 รายการ ยอมรับว่าได้เงินเยอะแต่เราอยากเลือกชีวิตที่เป็นสไตล์ของเรา เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ ว่าเรามีเรื่องไม่ค่อยสบายใจคือเป็นเรื่องของการเมือง และมีผลพวงมาถึงช่อง ก็เลยไม่อยากให้สถานีต้องเดือดร้อนไปด้วย เพื่อความสบายใจของทุกคน ผมจึงขออนุญาตถอยตัวเองออกมา”

 

หลังจากที่ลาออกมาจากช่อง เจ้าของ เวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ บอกต่อไปว่า ตอนนั้นคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องลุยงานของเราให้เต็มที่ และมองว่าทีวีเริ่มไม่จำเป็น เพราะปัจจุบันค่อยๆ ลดบทบาทลง ด้วยโซเชียล ด้วยวิถีความเปลี่ยนแปลงของสังคมมนุษย์ เราต้องกลับมาสร้างโซเชียลของเราเอง แม้กระทั่งการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ก็ไม่ได้ผ่านทีวี แต่กลับมีความนิยมมากขึ้น ซึ่ง ณ ตอนนี้อายุของเวทีการประกวดมิสแกรนด์ก็ราว 10 ปีแล้ว ซึ่งเป็น 10 ปีแห่งการอดทน 10 ปีแห่งการรอคอย และที่สุดก็สมหวัง

 

มิสแกรนด์ ไม่ใช่การประกวดนางงาม แต่เป็นสถาบันที่เพาะเมล็ดพันธุ์ใหม่ให้กับคนไทย ในหนึ่งปีเรามีตัวแทนจาก 77 จังหวัด ก่อนจะเป็นตัวแทนแต่ละจังหวัด อย่างน้อยก็มีอีเว้นท์ซัก 3-4 อีเว้นท์ มีการเก็บตัวกันเป็นสัปดาห์ บางจังหวัดคนสมัครเป็นร้อย คัดมาเก็บตัวเหลือ 25 คน เพราะฉะนั้นเราได้เด็กๆ จังหวัดละ 25 คนแล้วมาเจอผม 77 จังหวัด 10 ปีก็เป็นร้อยเป็นพัน คนเหล่านี้กลายเป็นคนที่มีคุณภาพ แล้วมองทิศทางเดียวกับการเติบโตของประเทศ”

 

เมื่อพูดถึงเรื่องการผันตัวเองเข้าสู่แวดวงการเมือง “ณวัฒน์” ยอมรับว่า สนใจเพราะการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ที่ผมยังไม่เล่นการเมืองตอนนี้ เพราะยังทำธุระของตัวเองไม่เสร็จตามเป้าหมาย ที่จะต้องนำพาบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ ที่ผ่านมามีคนมาทาบทามเกือบทุกพรรค บางพรรคเสนอตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคให้ก็มี

 

เจ้าของ เวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ บอกด้วยว่าถึงแม้ปัจจุบันชีวิตจะดีขึ้นอย่างไรก็ตาม ไม่เคยลืมตัวว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตไม่ต่างจากเดิม กินข้าวข้างทาง ขับรถเอง ไม่เรื่องเยอะ คิดในใจเสมอว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้

 

“เราเลือกเกิดไม่ได้จริงๆ ผมไม่ได้เกิดที่ในสถานพยาบาล อยู่ๆ ก็พรวดเกิดกลางบ้าน ต้มน้ำร้อนกันเอง พี่ๆ ช่วยกัน ทุกวันนี้ห้องคลอดยังอยู่เลย ผมมีชีวิตมาได้ก็เก่งแล้ว แม่ผมก็เก่งแล้ว เพราะฉะนั้นผมอยู่แบบอนาถามาตั้งแต่เกิด เราไม่เคยลืมหรอกภาพบรรยากาศเหล่านี้ ผมเชื่อว่าทุกวิกฤตคือโอกาส พอมีวิกฤตก็จะมีโอกาสใหม่เสมอ และอีกหลักหนึ่งที่ใช้อยู่เสมอ คือ ความพยายามไม่เคยทรยศใคร เราต้องมีความพยายามอยู่เสมอ เพราะมันจะไม่ทรยศกับความสำเร็จของเราณวัฒน์ อิสรไกรศีล ทิ้งท้ายไว้แบบนั้น ส่วนก้าวต่อไปของเขาจะเป็อย่างไร คงต้องจับตามองกันต่อไป

 

 

ติดตาม คมชัดลึก คลิก

Line: https://lin.ee/qw9UHd2

YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

 

คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565 ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote  ในครั้งนี้

รู้พร้อมกันที่ คมชัดลึก ทุก Platform

(https://awards.komchadluek.net/#)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ