คอลัมนิสต์

ทำไม "ท้าวเวสวัณ" หรือ ท้าวเวสสุวรรณ ถึงเป็นตำนานคนไทย ในยุคข้าวยากหมากแพง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ท้าวเวสวัณ" มักถูกอัญเชิญมาอยู่ในวัดแทบทุกวัดตามความเชื่อที่เริ่มมาตั้งแต่อดีต และหากย้อนตำนานก็พบว่า ท่านเป็นเทพในตำแหน่ง "เทวาธิบดี" ในขั้น "จาตุมหาราชิกา" ที่ใครๆก็มักจะขอพรให้เกิดความร่ำรวยมั่งคั่ง มีโชคมีลาภกับตนเองอย่างสม่ำเสมอ

คนไทยยุคข้าวยากหมากแพง ค่าแรงถูก ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก "ท้าวเวสวัณ" (ชื่อเดิมตามตำนาน) หรือที่เรารู้จักในปัจจุบันคือ "ท้าวเวสสุวรรณ" เทพระดับ "จาตุมหาราชิกา" ตำแหน่ง "เทวาธิบดี" ที่ถูกอัญเชิญมาอยู่ในวัดทั่วไปเพื่อเป็นที่พึ่งชาวพุทธ ที่วิงวอนขอให้รวย ถูกหวย รางวัลใหญ่ๆ หรือเลขท้ายก็ยังดี เพราะเงินทองหายาก ของก็แพง บทบาทในไทยของท้าวเวสวัณ โด่งดังในช่วง 3-5 ปีมานี้
วันนี้ผมขอเล่าตำนานท่านท้าวจากสวรรค์แต่มาช่วยคนไทยให้แฟนๆ ทราบว่า ใครคือ "ท้าวเวสวัณ" ผู้ทรงอิทธิพล
ข้อมูลเรื่องนี้ ผมเอามาจากวรรณกรรมเรื่อง "วิมุตติรัตนมาลี" โดย พระพรหมโมลี (เจ้าคุณ วิลาศ ญาณวโร ป.ธ. 9 อดีตเจ้าอาวาสวัดยานนาวา มรณภาพหลายปีแล้ว) ผู้ชนะเลิศรางวัล วรรณกรรมไทย ชั้นที่ 1 ประเภทร้อยแก้ว จากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พุทธศักราช 2515 ซึ่งตำนานท้าวเวสวัณเทวาธิบดี อยู่ที่หน้า 307
เรื่องมีอยู่ว่าภิกษุรูปหนึ่ง บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน อยู่ในขั้นแก่กล้า จนมีญาณ ซึ่งเป็นวิปัสสนูปกิเลสเกิดในดวงใจ ทำให้คิดว่ามีปัญญากล้าหาญ กำหนดบทพระกรรมฐานได้คล่องอย่างน่าแปลกใจ ทำให้อยากพูดอยากสอน ทั้งๆ ที่วิปัสสนาจารย์บอกว่าห้ามพูด

 


ในค่ำวันนั้น ท่านนั่งพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ชายคนหนึ่งมีอาชีพขึ้นตาล เอาน้ำตาลสด มาขายยังชีพ เห็นภิกษุหนุ่มหลายวันแล้ว อยากถวายน้ำตาลสดแต่ไม่กล้า เพราะตลอดเวลานั้น ภิกษุหน่มเคร่ง ขรึม ไม่ผ่อนคลายเลย แต่วันนี้ท่านมีหน้าตาอิ่มเอิบ ไม่เหมือนวันที่ผ่านมา จึงสำรวมกาย น้อมนำน้ำตาลสดไปถวาย และบรรยาย คุณสมบัติว่าดื่มแล้วชื่นใจ เพราะมีรสหวาน เป็นน้ำปานะอย่างดี
ภิกษุหนุ่มดื่มก็รู้สึกตามที่ชายนั้นบอก จึงอยากเทศน์อานิสงส์ให้ฟ้ง  เพื่ออนุโมทนา แต่ลืมคำสั่งอาจารย์ว่าห้ามพูดเสียสิ้น

ท่านนึกได้ว่าเคยอ่าน คัมภีร์สุมงคลวิลาสินี ทีฆนิกายอัฐกถา ว่าการถวายน้ำปานะนั้นอานิสงส์ ไม่เฉพาะถวายพระกรรมฐาน ที่กำลังบำเพ็ญวิปัสสนานี้ แต่เลี้ยงคนในศาสนาอื่น หรือคนอื่นๆ ก็มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่เช่นกัน
ท่านยกตัวอย่างท้าวเวสวัณ เจ้านายของผี เป็นเทวาธิบดี ปกครองเทพธานีทิศอุดร ณ สรวงสวรรค์ ชั้นจาตุมหาราชิกา มีอำนาจเหนือบรรดาผีและเทวดาทั้งหลาย ก็เนื่องด้วย การให้น้ำอ้อยเป็นทานแก่คนทั้งหลาย ท่านขยายความว่าเมื่อพระพุทธองค์ยังมิได้อุบัตินั้น โลกจึงว่างจากพุทธศาสนา
ครั้งนั้น มีพราหมณ์ นามกรว่า "กุเวร" มีอาชีพทำไร่อ้อย และคั้นนำอ้อยขาย จนมีฐานะดี มีใจเมตตา จึงจัดสร้างที่พักคนเดินทาง โดยมีน้ำอ้อยบริการฟรีแก่คนเดินทางทั่วไปด้วย

 


จากกุศล การให้น้ำอ้อยเป็นทาน หลังจากถึงมรณกรรม ไปเกิดในสวรรค์ ชั้นจาตุมหาราชิกา มีนามปรากฏว่า "ท้าวกุเวรเทพบุตร" ต่อมาได้รับความไว้วางใจ  จึงยกฐานะและตำแหน่ง เป็นอธิบดีแห่งเทพ ปกครองเทพธานี ทางทิศอุดร หรือทิศเหนือ มีอำนาจเหนือบรรดาเทพทั้งหลาย มีนามาภิไธยใหม่ว่า  "ท้าวเวสวัณเทวาธิบดี" หนึ่งในท้าวมหาราชทั้งสี่

ปรากฏว่าเป็นเทวาธิบดีที่มี รัศมีมาก มียศมาก นอกจากปกครองทิศเหนือแล้ว ยังมีอำนาจเหนือยักษ์และบรรดาผีๆ ทั้งมวล ซึ่งบรรดาผีๆๆ ทั้งหลายไม่ว่า สถิต ณ แห่งใดในโลกมนุษย์ ต่างก็เกรงกลัว ท่านท้าวเวสวัณ ทั้งนั้น
ภิกษุหนุ่ม เล่าอานิสงส์ ถวายน้ำปานะ จนลืมว่าพระวิปัสสนาจารย์เตือนไม่ให้พูด แล้วสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพระวิปัสสนาจารย์ ที่เดินทางมาถึงที่บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน แล้วถูกเทศนากัณฑ์ใหญ่ จึงหันมาทำวิปัสสนา อันเป็นหน้าที่ของตนต่อไป
ส่วนท้าวเวสวัณ ที่ถูกอัญเชิญมาสถิต ณ วัดต่างๆ ในไทยนั้น มีทั้งขนาดใหญ่ประทับในวัด โดยทำหน้าที่อวยชัยให้พรให้ผู้มาวิงวอนขอให้ถูกหวย ส่วนขนาดพกพา ช่วยให้ผู้ศรัทธาอัญเชิญขึ้นคอ เป็นเครื่องลาง ของขลัง ช่วยให้แคล้วคลาดจากนานาภัย
 
ส่วนวัดต่างๆ ก็พยายามสร้างเทวาธิบดีขึ้นมา ถ้าไม่มีท่าน ชาวบ้านอาจเหงาก็ได้
พุทธกับพราหมณ์ ต่างพึ่งพากันเช่นนี้แล

เรื่อง : เปรียญ12

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ