เวทีประชาธิปไตย "ชัชชาติ" ไฟเขียวเปิดพื้นที่รองรับม็อบ คิดบวกเหมือนดนตรีในสวน แต่โลกอาจไม่สวย ธรรมชาติม็อบต้องกดดันรัฐ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
เวทีประชาธิปไตย “ชัชชาติ” ไฟเขียวเปิดพื้นที่ชุมนุมรองรับสารพัดม็อบ ปูทางสู่การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
“ชัชชาติ” คิดบวก แต่ธรรมชาติม็อบ โลกไม่สวย อาจเมินพื้นที่ของ กทม. เพราะการชุมนุมต้องกดดันรัฐบาล ไม่ใช่เวทีไฮด์ปาร์ค
เป็นที่ฮือฮาทั้งประเทศ เมื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง จัดให้มีสถานที่เพื่อใช้สำหรับการชุมนุมสาธารณะ 7 แห่ง ประกอบด้วย ลานคนเมือง เขตพระนคร, ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง,ที่สาธารณะใต้สะพานรัชวิภา (ใกล้ซอยวิภาวดีรังสิต 36) เขตจตุจักร,ลานจอดรถหน้าสำนักงานเขตพระโขนง เขตพระโขนง,ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เขตมีนบุรี,ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ และสวนมณฑลภิรมย์ เขตตลิ่งขัน
เหตุผลที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดพื้นที่รองรับม็อบ ก็เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี
ประเด็นเนื้อหาการชุมนุม เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วน กทม.ดูแลความสงบเรียบร้อยในแง่การจราจร ขยะ
“เป็นการอินโทรสู่การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประชาชนสร้างความไว้ใจ สามารถแสดงความเห็นได้ เหมือนงานดนตรีในสวนที่คนมาเยอะ ขออย่ากังวล” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
ดังนั้น กลุ่มทะลุฟ้า จึงประเดิมการชุมนุมเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ลานคนเมือง เพื่อทำกิจกรรมฉลองวันชาติ คณะราษฎรยังไม่ตาย (นะ) ในวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย.2565
- ‘ม็อบโหนชัชชาติ’
“ชัชชาติ” เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ได้ไม่ถึงสัปดาห์ แนวร่วมกลุ่มทะลุแก๊ส ก็จัดกิจกรรมเดินไล่ตู่ วันที่ 11 มิ.ย.2565
ติดตามกระแสโซเชี่ยลเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/komchadluek/
ว่ากันว่า กลุ่มมวลชนอิสระมีแรงจูงใจจากชัยชนะของชัชชาติ จึงฟื้นการชุมนุมไล่ตู่อีกครั้ง ถือว่าการชุมนุมเป็นภาคต่อของชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ของฝ่ายประชาธิปไตย
อีกด้านหนึ่ง กลุ่มมวลชนอิสระหรือกลุ่มทะลุแก๊ส ก็เชื่อผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะไม่ขวางการชุมนุม และเปิดให้มีการชุมนุมโดยเสรี
อย่างไรก็ตาม ชัชชาติ ก็ระมัดระวังตัว เพราะรู้ดีว่า มวลชนสองขั้ว ต่างฝ่ายต่างใช้โซเชียลถล่มโจมตีกัน
วันที่ 14 มิ.ย.2565 ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จึงดำริที่จะจัดหาสถานที่ของ กทม. สำหรับจัดชุมนุมไว้ให้ผู้ที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ไม่ได้บังคับให้ชุมนุมที่นี่ ให้เป็นทางเลือก
พลันที่แนวคิดเรื่องจัดหาสถานที่ชุมนุม ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีปฏิกิริยาจากทั้ง 2 ขั้ว โดยฝ่ายม็อบไล่ตู่ มองว่า เหมือนถูกต้อนเข้าสู่เวทีไฮด์ปาร์ค ไม่กดดันรัฐบาล และอีกขั้วก็โจมตีชัชชาติหนุนม็อบอนาธิปไตย
ขณะที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวคิดชัชชาติ อย่างเช่น บก.ลายจุด หรือสมบัติ บุญงามอนงค์ สนับสนุนการเปิดพื้นที่ลานคนเมืองให้กลายเป็นเวทีไฮปาร์คของ กทม. จุดศูนย์รวมของประชาชนและประชาธิปไตย
- ‘พ่อเมืองโลกสวย’
ดังที่ทราบกัน “ชัชชาติ” เป็นผู้ว่าฯ มหาชน ไม่ใช่ตัวแทนของกลุ่มการเมืองขั้วใดขั้วหนึ่ง การเปิดพื้นที่การชุมนุม จึงอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับแกนนำม็อบแนวฮาร์ดคอร์
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปรียบการเปิดพื้นที่การชุมนุม 7 แห่ง เหมือนงานดนตรีในสวน “...คนมาเยอะ ขออย่ากังวล ถ้าไม่ดี กทม.จะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง จะมีการประสานกับตำรวจให้ประนีประนอม”
ชัชชาติ พยายามมองกลุ่มทะลุแก๊สแบบคิดบวก แต่ในความเป็นจริง คนทั่วไปมีภาพจำเกี่ยวกับกลุ่มนี้คือ ความรุนแรง
“เมืองไทยต้องเดินหน้าด้วยการคิดบวก อย่าไปคิดว่าทะลุแก๊สจะทำโน่นทำนี่ ฝากทุกคนมาแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างมีความสุข สนุก เคารพซึ่งกันและกัน” ชัชชาติมองการชุมนุมทางการเมืองแบบโลกสวย
ชัชชาติรู้ว่า ธรรมชาติของม็อบนั้นคุมยาก จึงเปิดทางถอยให้ตัวเองว่า หากการเปิดพื้นที่ชุมนุมแล้วมีปัญหา ก็จะสั่งยกเลิก
ติดตามข่าวคมชัดลึกอื่นๆได้ที่ https://www.komchadluek.net/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง