เพลงปลุกระดม "ทักษิณ" คนแดนไกล ไม่อยากเหมือนปรีดี
ดูไบเรคคอร์ดภูมิใจเสนอ "ทักษิณ" ปล่อยเพลงคนแดนไกล กลยุทธ์เสริมเพื่อไทยแลนด์สไลด์ คนแต่งเพลงปั่นกระแสพาทักษิณกลับบ้าน ไม่ต้องเหมือนรัฐบุรุษปรีดี คอลัมน์... ท่องยุทธภพ โดย... ขุนน้ำหมีก
ค่ายดูไบเรคคอร์ด "ทักษิณ" ปล่อยซิงเกิลใหม่เพลงคนแดนไกล คนแต่งเพลงตั้งใจปลุกกระแสพาทักษิณกลับบ้านอีกครั้ง ไม่ต้องเหมือนรัฐบุรุษปรีดี
เพลงปูพรมแลนด์สไลด์ "ทักษิณ" งัดทุกกลยุทธ์เสริมแคมเปญครอบครัวใหญ่ ที่มีอุ๊งอิ๊งเป็นผู้นำ เหมือนทำสงครามครั้งสุดท้าย
ค่ำวันที่ 10 พ.ค.2565 ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ มาพบกับเอฟซีทางแคร์คลับเฮาส์ ในหัวข้อระบอบทักษิณในมัลติเวิร์สของความจน โดยช่วงต้นมีการเปิดตัวซิงเกิลใหม่เพลง "คนแดนไกล"
ทักษิณเล่าเบื้องหลังการทำเพลงชุดนี้ว่า ใช้เวลา 8 ชั่วโมงกับการร้อง 2 เพลง ทำอะไรก็เป็น ยกเว้นร้องเพลงแย่ที่สุด เอาดีทางนี้ไม่ได้ จะมาเป็นนักร้องตอนแก่คงจะไม่ไหว
2 เพลงที่ว่านี้คือ "เกิดมาเป็นนักสู้" และ "คนแดนไกล" แต่งโดย สุรักษ์ สุขเสวี ย้อนไปเมื่อ 15 มี.ค.2565 ในแคร์คลับเฮาส์ ทักษิณได้นำเสนอซิงเกิ้ลเพลงเกิดมาเป็นนักสู้ ซึ่งการบันทึกเสียงที่นครดูไบ ได้ทำเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา
เพลงเกิดมาเป็นนักสู้ บอกชัดว่า ทักษิณไม่ยอมแพ้ และส่งสัญญาณถึงกองเชียร์ว่า ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น ส่วนเพลงคนแดนไกล เป็นเรื่องคนคิดถึงบ้าน และอยากกลับมากราบแผ่นดินอีกครั้ง
แคร์คลับเฮาส์ครั้งล่าสุด ทักษิณระมัดระวังตัวสูง ไม่พูดเรื่องสถานการณ์การเมืองร้อนๆ โดยเฉพาะประเด็นยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ปั่นกระแสล้มประยุทธ์ ด้วยการดึง ร.อ.ธรรมนัส และพรรคเล็กเข้ามาร่วมมือกับฝ่ายค้าน
บังเอิญว่า ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งนักข่าวให้ทราบว่า ร.อ.ธรรมนัสโทรมาบอกแล้ว ไม่ไปดินเนอร์กับฝ่ายค้าน ทำเอายุทธพงศ์ ออกอาการฉุน ต้องออกมาขู่บิ๊กป้อมทำนองว่า ครอบงำพรรคเศรษฐกิจไทย
"เดิมพันชื่อเสียง"
สำหรับ 2 เพลงใหม่ของ "ทักษิณ" สร้างสรรค์โดย สุรักษ์ สุขเสวี อดีตนักแต่งเพลงฝีมือดีของค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีผลงานเพลงดังที่คุ้นหูมากมาย อาทิ วิมานดิน, คู่แท้, นิยามรัก, แทนคำนั้น, ยอม ฯลฯ
ตอนที่ปล่อยเพลงเกิดมาเป็นนักสู้ สุรักษ์ สุขเสวี ได้โพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าที่มาของการสร้างงานเพลงเกิดมาเป็นนักสู้ "ผมนิยมยกย่องท่านทักษิณ ชินวัตร มาตั้งแต่วันที่เริ่มเข้าสู่วงการเมือง จะได้รับข่าวสารของท่านมาจากทางไหน หรือเลือกแต่จะเสพข่าวในทางด้านดีของท่าน ก็แล้วแต่ทุกคนจะคิด.."
ครั้นมีการปล่อยซิงเกิลเพลงคนแดนไกล สุรักษ์ ก็โพสต์เฟซบุ๊กว่า "..ผมเรียนกับท่านทักษิณว่าในความคิดของผม เวลาคนที่พูดถึงท่านด้วยคำนี้ เขาไม่ได้พูดเพราะรู้สึกว่าท่านน่าสงสาร แต่ตรงกันข้ามกันเลย เพราะคำว่าคนแดนไกลนี้ กลับหลอกหลอนและทิ่มแทงใจคนการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับท่าน เพราะสิ่งที่ท่านคิดและสื่อสารออกมาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ รู้จริงและทำได้จริง และมันเป็นสิ่งที่ฝ่ายตรงข้าม..พวกเขาทำไม่ได้และทำไม่เป็น"
นักเพลงมืออาชีพแสดงจุดยืนชัดเจนว่า ยืนข้างทักษิณ และหยิบยืมถ้อยวลีที่ฝ่ายตรงข้ามชอบพูดถึงมาสร้างงานเพลงใหม่
'"โทนี่-ปรีดี"
นับแต่ "ทักษิณ" ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน ก็มีผู้คนนำเรื่องราวของเขาไปเปรียบเทียบกับปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส ที่ต้องลี้ภัยอยู่ในต่างแดนเหมือนกัน
สุรักษ์ สุขเสวี คนแต่งเพลงคนแดนไกล ได้บอกเล่าไว้อีกตอนหนึ่งว่า "..จินตนาการส่วนตัวของผมในการแต่งเพลงนี้ แต่เชื่อว่าคงจะตรงกับใจของคนไทยมากมาย คือผมอยากให้ท่านได้กลับมาอยู่กับลูกกับหลาน ได้มีโอกาสพบเจอใกล้ชิดกับคนที่รักและคิดถึงท่าน ด้วยการกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม (ที่ไม่ได้แต่งตั้งโดยคณะปฏิวัติ).."
ดังนั้น การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งหน้านี้ ทักษิณจึงส่งลูกสาวคนเล็กลงสนาม เพราะเป็นเดิมพันครั้งสุดท้าย หากชนะแลนด์สไลด์ก็กลับบ้านแบบเท่ ๆ
"ผมไม่อยากให้ท่านเหมือนท่านปรีดี พนมยงค์ ในมุมหนึ่ง ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นรัฐบุรุษ แต่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศจนถึงวันสิ้นอายุขัย" สุรักษ์ เขียนตรงไปตรงมา
ถ้าจำกันได้ ปลายปี 2555 คณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กล่าวว่า ได้เขียนบันทึกส่วนตัวถึงทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถ้าอยากเป็นรัฐบุรุษ ต้องรู้จักคำว่าเสียสละ แม้ว่าจะไม่กลับประเทศ ก็สามารถเป็นรัฐบุรุษได้เช่นกัน เหมือนปรีดี พนมยงค์ ที่ทำงานเพื่อประเทศโดยที่ไม่เคยกลับประเทศ เพียงเพราะอยากให้บ้านเมืองสงบ
เวลาเดียวกัน นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ตอบคำถามสื่อเรื่องทักษิณ ควรเดินทางกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นพ.ประเวศ กล่าวว่า บางคนถ้ากลับมาจะทำให้ยุ่ง ซึ่งต้องดูอย่างปรีดี พนมยงค์ ที่ไม่มีคดีอะไร แต่เลือกจะไม่เดินทางกลับมา เพราะหากกลับมาห่วงจะเกิดความขัดแย้ง
มุมมองของทักษิณกับปรีดี ในสายตาของสุรักษ์ ก็เหมือนคนเสื้อแดง หรือเอฟซีเพื่อไทย ที่เฝ้ารอการกลับเมืองไทยอีกครั้ง อันต่างไปจากทัศนะของคณิต ณ นคร และ นพ.ประเวศ วะสี