ก้าวข้าม "ทักษิณ" แต่ไม่พ้นอุ๊งอิ๊ง ญาติกาธิปไตย

 

แทงใจดำ "ทักษิณ" วลีข้ามไม่พ้นครอบครัวชินวัตร หลุดจากปากอภิสิทธิ์ โยงอุ๊งอิ๊ง หากเป็นนายกฯ อาจมีวิกฤต ดาวดังเพื่อไทยดาหน้าออกมาโต้เผ็ดร้อน 

ธาตุแท้ "ทักษิณ" หนีไม่พ้นความคิดแบบเถ้าแก่ใหญ่ เพื่อไทยจึงกลายเป็นพรรคครอบครัว หรือญาติกาธิปไตย(Cronyismocracy) มืออาชีพอยู่ยาก ต้องเผ่นหนีไปตั้งพรรคใหม่ 

วิวาทะข้ามขั้วยังไม่จบ อันเนื่องจาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านทางช่องยูทูบสภาที่ 3 ว่าด้วยเรื่องอุ๊งอิ๊ง และครอบครัวชินวัตร

จริง ๆ แล้ว อภิสิทธิ์พูดว่า การที่ประชาชนจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ที่อาจมี แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะทุกคนต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนอยู่แล้ว 
 

 

อภิสิทธิ์แค่เตือนว่า ถ้าแพทองธาร บริหารประเทศแล้วนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ให้บุคคลในครอบครัวและพวกพ้อง ทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ตลอดจนกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลทั้งหลาย รวมทั้งองค์กรอิสระก็อาจเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารเหมือนกับในอดีตได้ 

กรณีอภิสิทธิ์กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยว่า ก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตรนั้น เป็นการสะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนมากที่มองเห็นว่า พรรคเพื่อไทยมีบุคลากรมากมาย รวมทั้งจาตุรนต์ ฉายแสง ที่อยู่ในสถานะที่จะนำพาพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองได้มากขึ้น

ไม่ใช่แค่อภิสิทธิ์เท่านั้น พลันที่มีการเสนอชื่อ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็มีเสียงวิจารณ์ประเด็นทักษิณวางตัวทายาทเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั่วบ้านทั่วเมือง

เหนืออื่นใด ทักษิณก็เคยพูดผ่านคลับเฮาส์ว่า หากอุ๊งอิ๊งได้เป็นนายกฯ ก็ไม่กลัวการรัฐประหาร เพราะมีเครื่องบินส่วนตัว และบ้านหลายหลังอยู่ในต่างประเทศ

    
‘ครอบครัวชินวัตร’
นับแต่อุ๊งอิ๊งปรากฏตัวในพรรคเพื่อไทย "ทักษิณ" ก็พูดถึงลูกสาวคนเล็กในแคร์คลับเฮาส์อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีเสียงสะท้อนทั้งบวกและลบ

อย่างวันที่ 30 มี.ค.2565 ในรายการแคร์คลับเฮาส์ มีคนถามเรื่องภูมิคุ้มกันทางการเมืองของแพทองธาร โทนี่หรือทักษิณ ตอบว่าอยู่ที่ประชาชน จะยอมให้มีการรัฐประหารอีกหรือไม่
 

 

"ผมคิดว่าไม่ง่าย เพราะในพรรคจะต้องคิดว่าเสนอนายกฯ เป็นใคร หากเกิดแพทองธารเป็นแคนดิเดตนายกฯ แล้วเกิดประชาชนเลือกมาได้เป็นจริง หากกลัวจะมีชะตากรรมเหมือนผมและปู ผมต้องถามประชาชน 16 ปีช้ำพอหรือยัง ระบบพังไป เศรษฐกิจพัง ครอบครัวพังไป เป็นหนี้เป็นสินจากการล้มลุกคลุกคลานจากรัฐประหาร"

 

สำหรับตัวทักษิณเองก็ไม่กลัวการยึดอำนาจ "ผมเป็นพ่อที่รักลูก ให้ความอบอุ่นกับลูก และพร้อมปกป้อง ดังนั้น ไม่มีปัญหา เครื่องบินส่วนตัวก็มี บ้านอยู่หลายประเทศ ไม่เคยกลัว ผมเป็นคนที่ไม่กลัว ดังนั้นอย่ามาขู่ เรื่องกลัว ไม่มีกลัว"

ทักษิณอธิบายเรื่องการวางตัวทายาทการเมืองว่า "หลักการของผมคือแล้วแต่ลูก...ลูกรู้สึกว่าอยากสานเจตนารมณ์ที่พอช่วยชาวบ้านให้พ้นจากความยากจน"

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2565 ทักษิณพูดในแคร์คลับเฮ้าส์อีกครั้งเกี่ยวกับอนาคตของลูกสาวว่า "..ถามว่าอุ๊ง อิ๊งเหมาะจะเป็นนายกฯไหม ผมว่าลูกไม้คงหล่นไม่ไกลต้น แต่ผมคงยังไม่ฝันไปไกลขนาดนั้น..."

 

‘ผู้มีบารมีนอกพรรค’
สไตล์การทำงานการเมืองของ "ทักษิณ" ไม่ต่างจากการเป็นนักธุรกิจที่กล้าได้และกล้าเสีย จึงชนะเลือกแบบแลนด์สไลด์มา 3 ครั้ง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ เมื่อเจอการรัฐประหารยึดอำนาจในปี 2549 และปี 2557

กว่า 20 ปีที่ผ่านมานี้ ตระกูลชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 3 คนคือ ทักษิณ ชินวัตร, สมชาย วงศ์สวัสดิ์” และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องเผชิญวิบากกรรมใกล้เคียงกัน และทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่ได้กลับประเทศไทย
ระหว่างใช้ชีวิตในต่างประเทศ ทักษิณก็ไม่เคยปล่อยวาง ยังเป็นผู้มีบารมีนอกพรรค ตั้งแต่สมัยพรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย

อย่างเช่นวันที่ 14 เม.ย.2565 แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้พานักการเมืองเพื่อไทยไปรดน้ำอวยพรทักษิณและยิ่งลักษณ์ ที่บ้านพักในดูไบ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ อาทิ ปรีชาพล พงษ์พานิช,พวงเพ็ชร ชุนละเอียด,วิชาญ มีนชัยนันท์ และ วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล 

มีข้อน่าสังเกตว่า กลุ่มคนเหล่านี้เป็นแกนนำเพื่อไทย และผู้ทำงานอยู่เบื้องหลังอุ๊งอิ๊ง นี่เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า ทักษิณยังมีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย