ลูกไม้ไกลต้น "ปริญญ์" ถอดหัวโขน "ปชป." ฝ่าพงหนาม

มนุษย์การเมืองชื่อ “ปริญญ์” วัย 40 ปีต้นๆ ผงาดขึ้นชั้นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย และรองหัวหน้าพรรค ปชป. มีหรือใครจะไม่โจษขาน

 

“ปริญญ์” แบกชื่อเสียงของบิดา-ศุภชัย พานิชภักดิ์ เข้าสู่ถนนการเมือง ท่ามกลางความคาดหวังของพรรค และกองเชียร์ ปชป.

 

ด่านทดสอบ “ปริญญ์” เจอปัญหาส่วนตัวที่ต้องเคลียร์ ในฐานะปุถุชนคนเดินดิน เขาตัดสินใจ "ลาออก" จากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เพื่อพิสูจน์ความจริงในกระบวนการยุติธรรม

 

อันสืบเนื่องจากษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า มีรองหัวหน้าพรรค ลวนลามหญิงสาวที่มาปรึกษาความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ โดยฝ่ายหญิงไม่สมยอม และมีการแจ้งความดำเนินคดี

ล่าสุด บ่ายวันที่ 14 เม.ย.2565 "ปริญญ์" ได้ออกมาแถลงข่าว เริ่มต้นจากการปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง และแสดงความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจนี้ พร้อมกับได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

 

“ผมยังช็อกและตกใจมาก ยืนยืนไม่ใช่คนแบบนั้น และไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนคุณพ่อคุณแม่นั้น คุณพ่อคุณแม่ก็รักลูก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ขอชี้แจงกับตำรวจดีกว่า”

 

เมื่อปลายเดือน มี.ค.2565 คณะกรรมการบริหารพรรค ปชป. มีมติแต่งตั้งให้ "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และส.ก. เนื่องจากเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ของพรรค และเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย

 

ช่วงก่อนสงกรานต์ ปริญญ์ และสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงพื้นที่หาเสียงในทุกเขตเลือกตั้ง และวางกลยุทธ์หาเสียง เพื่อเร่งเก็บแต้มให้ทันผู้นำกลุ่มอย่างชัชชาติ

 

แล้วช่วงประชาชนฉลองปีใหม่ไทย ทนายคนดังก็เปิดเกมแฉรองหัวหน้าพรรคลวนลามสาวอายุ 18 ปี ทำเอาอุณหภูมิการเมืองที่พรรค ปชป.ร้อนฉ่า

 

• ‘อเวนเจอร์ปริญญ์’

ชื่อ “ปริญญ์” ปรากฏในพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 15 พ.ค.2562 หลังจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 พร้อมประกาศว่า ยุคต่อไปต้องเป็นยุคของอเวนเจอร์ ซูเปอร์ฮีโร่ของพรรค ต้องจับมือเป็น ทีมอเวนเจอร์ประชาธิปัตย์

"ปริญญ์ พานิชภักดิ์" วัย 40 ปีต้นๆ มีชื่อเป็นหัวหน้าทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจ หรือเศรษฐกิจทันสมัย ควบตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค คน ปชป.จำนวนหนึ่งต่างสงสัยว่า เขามีดีอย่างไรจึงได้ผงาดเหนือ "กรณ์ จาติกวนิช" ที่รับบทแม่ทัพเศรษฐกิจของพรรค ในยุคอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค

 

ผู้อาวุโสของพรรคบางคนบอกว่า "ปริญญ์" ได้เปรียบตรงที่มีนามสกุล "พานิชภักดิ์" จึงเปรียบเสมือนใบเบิกทางชั้นดี และได้รับความไว้วางใจจากแกนนำพรรคยุคจุรินทร์

 

"ปริญญ์" เป็นลูกชายคนโตของ "ดร.ซุป-ศุภชัย พานิชภักดิ์" อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเศรษฐกิจหลายสมัยของพรรค ปชป. ตลอดจนอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO)

 

วัยเด็ก ปริญญ์เรียนจบจากโรงเรียนชาร์เตอร์เฮาส์ สกูล ในเมืองเซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ และเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัย London School of Economics (L.S.E.) ที่อังกฤษ จากนั้น "ปริญญ์" ได้ทำงานอยู่ในแวดวงเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุนมาร่วม 2 ทศวรรษ ทั้งที่ลอนดอน ฮ่องกงและกรุงเทพ

 

ช่วง 4-5 ปีมานี้ "ปริญญ์" ได้ช่วยงานสังคมและภาครัฐมากขึ้น จากการเป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) กรรมการบริหาร และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)

 

อีกด้านหนึ่ง คนไทยส่วนใหญ่เริ่มรู้จัก "ปริญญ์" ในช่วงที่เขานำร้านเป็ดย่างชื่อดังในกรุงลอนดอน โฟร์ซีซั่นส์ มาเปิดสาขาในไทย เนื่องจากเขาสนิทสนมกับ"ปีเตอร์ ลัม" ลูกชายเดวิด ลัม เจ้าของร้านเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นส์ ต้นตำรับลอนดอน

 

• ‘พ่อคือไอดอล’

หลังได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ปชป. “ปริญญ์” ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า มีพ่อ-ดร.ซุป เป็นไอดอล พ่อสอนให้มีสติ อยู่กับปัจจุบัน แต่ไม่เคยคิดจะเจริญรอยตามเส้นทางการเมืองเหมือนพ่อ กระทั่งวันหนึ่ง เขาตัดสินใจเข้ามามีส่วนร่วมเข้ามาเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมเศรษฐกิจของพรรค ปชป.

 

“ผมมีความผูกพันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อครั้งที่ช่วยคุณพ่อ (ศุภชัย พานิชภักดิ์) เดินหาเสียงในเขตหนองจอก บางกะปิ มีนบุรี ในปี 2526 ที่ท่านลงสมัคร ส.ส.เป็นครั้งแรก” ปริญญ์เล่าความหลัง

 

"ปริญญ์" ไม่คาดคิดมาก่อนว่า จะได้มีโอกาสก้าวเข้ามาทำงานการเมืองเต็มตัวในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ปชป.

 

“ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร 73 ปีของพรรคไม่เคยมีแบบนี้ บางคนบอกว่ายังเป็นไดโนเสาร์ แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย เขาเปลี่ยนไปแล้ว แม้แต่คุณจุรินทร์ ยังกล้าให้ผมมาเป็นรองหัวหน้าพรรค ฯ คนแรกที่ในประวัติศาสตร์ประชาธิปัตย์ที่จากเอกชนโดดเข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรคฯ”

 

ด้วยเหตุนี้ "ปริญญ์" มีความภาคภูมิใจมาก และชื่นชม "หัวหน้าอู๊ดด้า" เป็นคนทันสมัยและยุคใหม่อย่างแท้จริง เพราะไม่ใช่มีแค่ประสบการณ์ที่ทํางานมายาวนาน ยังเพียบพร้อมทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ

 

“ผมเป็นคนแรกที่เป็นแบบนั้นและทางพรรคให้อิสรภาพในการทำงานเต็มที่ ถ้าคุณขยันทำงานและไม่โกงกิน ทำงานให้เต็มที่ เราก็ทำงานเต็มที่ได้”

 

นับจากนี้ไป "ปริญญ์" ก็ต้องเข้าสู่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม เขาเลือกที่จะรักษาพรรคเอาไว้ ด้วยการลาออกจากทุกตำแหน่ง และพร้อมเผชิญหน้ากับความจริง