เด็กไม่รู้ไม่เข้าใจ "ทักษิณ" สอน "สามนิ้ว" ไม่ควรปฏิรูปสถาบัน

สามนิ้วไม่พอใจสิ่งนี้ “ทักษิณ” สอนคนรุ่นใหม่ ไม่ควรกดดันปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ถ้าได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย รัฐบาลที่ดี พวกเราก็มีอนาคต

 

เกิดใต้ร่มพระบารมี “ทักษิณ” บอกรับใช้เจ้านายมาตั้งแต่ก่อนเล่นการเมือง มีแต่พวกไอโอ พวกมโนที่คอยจ้องทำลายตัวเขา ด้วยวาทกรรมล้มเจ้า

 

แกนนำสามนิ้วสวน “ทักษิณ” ชี้เรื่องจะปฏิรูปสถาบันหรือไม่ จะไม่พูดไม่ถกเถียงอีกแล้ว เพราะคนรุ่นใหม่ตกผลึกร่วมกันแล้ว

 

คืนวันอังคารที่ 12 เม.ย.2565 โทนี่ วู้ดซั่ม หรือทักษิณ ชินวัตร มาพบกับแฟนๆ ในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ตามปกติ โดยเปิดรายการด้วย MV เพลง “เกิดมาเป็นนักสู้” ขับร้องโดยโทนี่ และผลงานการประพันธ์ของ สุรักษ์ สุขเสวี และมี ฐปณีย์ เอียดศรีไชย จาก The Reporters เป็นแขกรับเชิญ

การพูดคุยในคลับเฮาส์ครั้งล่าสุด โทนี่หรือทักษิณ ได้ขอแทรกเรื่องที่อยากพูดมากก็คือ ประเด็นขบวนการไอโอ ที่จ้องโจมตีตัวเขาด้วยวาทกรรมล้มเจ้า โดยทักษิณยืนยันความจงรักภักดี และเสนอคนรุ่นใหม่ไม่ควรมุ่งไปที่เรื่องปฏิรูปสถาบัน หากเราได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย และรัฐบาลที่ดี พวกเราก็มีอนาคต

 

แค่ข้ามคืน อานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ฟังทักษิณพูดในคลับเฮาส์ จึงโพสต์เฟซบุ๊คว่า “เรื่องควรปฏิรูปสถาบันหรือไม่ ผมจะไม่พูด ไม่ถกเถียงอีก มันเสียเวลา ผมคิดว่าคนรุ่นใหม่ตกผลึกร่วมกันแล้ว”

 

ผู้ใช้เฟซบุ๊ค Thanapol Eawsakul บก.ฟ้าเดียวกัน ได้โพสต์สรุปจากที่ทักษิณพูดในคลับเฮาส์ว่า “...ไม่เข้าใจทำไมเยาวชนคนรุ่นใหม่ถึงต้องการจะปฏิรูปสถาบัน เพราะปัญหาการเมืองไทยไม่ใช่เรื่องสถาบัน แต่เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ แค่ทำให้กลับไปเป็นรัฐธรรมนูญ 2540 ก็จบแล้ว แถมยกตัวอย่างประสบการณ์การทำงานรับใช้สถาบันในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ว่าไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย”

 

• ‘สอนหลานสามนิ้ว’

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ทักษิณ” พูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ เพียงแต่ครั้งนี้ เขาได้อธิบายความแบบยาวๆ โดยไม่สนใจว่า มวลชนสามนิ้วจะพอใจหรือไม่

ต้นปี 2564 ในแคร์คลับเฮาส์ มีคนทางบ้านเข้ามาถามเรื่องเด็กรุ่นใหม่จะเชื่อมั่นระบบการเมืองอย่างไร ทักษิณตอบว่า “ผมว่าน่าจะผลักดันแก้รัฐธรรมนูญดีกว่า รัฐบาลจะดีหรือเฮงซวยอยู่ที่รัฐธรรมนูญ…เรามาทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยและเป็นของประชาชนดีกว่า” โดยเลี่ยงจะพูดถึงข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯของกลุ่มราษฎร

 

คืนวันอังคารที่ผ่านมา แยม-ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ถามเรื่องที่ทักษิณบอกว่าจะกลับประเทศไทยในปีนี้ ทักษิณบอกว่า “ผมไม่อยากพูดเยอะ กลัวจะเป็นประเด็น พูดไว้ยังไง ใจก็ยังไม่ได้เปลี่ยน...เป็นฝันของผม แต่ก็มีความตั้งใจอยู่ด้วย ที่มีความปรารถนาอยากให้ฝันเป็นจริง”

 

แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่ง ทักษิณได้พูดเรื่องที่อัดอั้นในใจ เพราะมีพวกไอโอเอาเรื่องเก่าๆมาโจมตีตัวเขาไม่เลิกรา โดยบอกว่า เขาเกิดที่บ้านนอก ได้เข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อพระองค์ตามเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปที่ร้านผ้าไหมของตระกูลชินวัตร อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

 

ทักษิณอธิบายว่า เราได้รัฐบาลที่รูปแบบของการได้มาเป็นรัฐบาล มันไม่ดี แล้วบริหารยังไม่เก่ง แล้วก็ยังคอรัปชั่น ตามโลกไม่ทัน ทำให้เด็กไม่มีอนาคต เด็กก็เลยไปโทษว่าเกี่ยวกับสถาบันฯ ซึ่งความจริงสถาบันฯไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย

 

“เด็กไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็คิดว่าต้องปฏิรูปสถาบันฯ ซึ่งจริงๆแล้ว ผมอยากแนะนำว่า ควรปฏิรูประบอบประชาธิปไตย ด้วยการแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ยกตัวอย่างรัฐธรรมนูญ 2540..”

 

ตอนท้ายของแคร์คลับเฮาส์วันปีใหม่ไทย แยม ฐปนีย์ กล่าวว่า ยังไง ในวันข้างหน้า คนไทยก็ต้องมาพูดถึงข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ ทักษิณตอบว่า สถาบันฯ ต้องปรับตัวไปตามกาลเวลา ทุกประเทศทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้ ลองไปย้อนดูประวัติศาสตร์โลก สถาบันฯ ปรับตัวอยู่แล้ว

 

“ไม่ใช่หน้าที่ของเราจะไปยุ่งกับท่าน เราก็ไม่ควรไปกดดันท่าน ท่านอยู่เหนือการเมือง มีแต่พรรคการเมืองบางพรรคพยายามดึงท่านลงมายุ่งกับการเมือง..” ทักษิณกล่าว

 

สำหรับข้อเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ทักษิณเห็นว่า ควรมีคณะกรรมการพิจารณากรณีจะดำเนินคดีกับผู้ใด ไม่ใช่ให้ใครที่ไหนไปแจ้งความจับเหมือนทุกวันนี้

 

• ‘ลูกไม้ใต้ต้น’

สงกรานต์ปีนี้ “ทักษิณ” และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปักหลักอยู่ที่ดูไบ โดยเอม และอุ๊งอิ๊ง ได้พาหลานๆ ไปเยี่ยมคุณตาคุณยาย และฉลองปีใหม่ไทย

 

ในแคร์คลับเฮาส์ ก็มีคนถามเรื่องอนาคตทางการเมืองของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งทักษิณตอบว่า "...ถามว่าอุ๊งอิ๊งเหมาะจะเป็นนายกฯไหม ผมว่าลูกไม้คงหล่นไม่ไกลต้น แต่ผมคงยังไม่ฝันไปไกลขนาดนั้น..”

 

ทักษิณอธิบายต่อว่า “เอาจริงๆนะ อุ๊งอิ๊งเนี่ยนะ เขาเดินตามผมตั้งแต่ 8 ขวบ ตั้งแต่ยุคพลังธรรม มีชาวบ้านถึงขนาดเอาพวงมาลัยดาวเรืองมาคล้องคออุ๊งอิ๊ง เขาเดินสำรวจลงพื้นที่กับผมตั้งแต่เด็ก เห็นผมอยู่กับชาวบ้าน เห็นผมมีความสุขกับชาวบ้าน เขาเห็นและเรียนรู้มาตลอด ผมว่า ลูกไม้คงหล่นไม่ไกลต้นหรอก แต่ผมคงยังไม่ฝันไปไกลขนาดนั้น”

 

อย่างไรก็ตาม ทักษิณไม่ได้ขยายความประโยคที่ว่า “..ผมคงยังไม่ฝันไปไกลขนาดนั้น” เหมือนอดีตนายกฯทักษิณยังขอรอดูจังหวะและโอกาสทางการเมืองเสียก่อน