ส้มมาแรง "พิธา" เหนือ "อุ๊งอิ๊ง" ดับฝันค่ายดูไบ

14 ล้านเสียงไม่ง่าย “พิธา” มาแรงแซง “อุ๊งอิ๊ง” นายกฯในดวงใจชาวบ้านผ่านนิด้าโพล พลังส้มเติบโตพลังแดงอ่อนแรงตามกาลเวลา

 

แม้วมนต์เสื่อม “พิธา” เหนือกว่า “อุ๊งอิ๊ง” กล่องดวงใจชินวัตร ย้อนดูคะแนนเก่า เพื่อไทยหายไปกว่าครึ่ง ก้าวไกลสะสมแต้มนิวโหวตเตอร์

 

วันที่ 27 มี.ค.2565 นิด้าโพลเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2565 (วันที่ 10-15 มี.ค.2565) พบว่า ร้อยละ 27.62 ยังหาบุคคลที่เหมาะสมให้เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้

สำหรับบุคคลที่ประชาชนเห็นว่าเหมาะสมเป็น "นายกฯ" อันดับ 1 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 13.42 อันดับ 2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 12.67 และอันดับ 3 แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 12.53

 

ด้านพรรคการเมือง มีประชาชนร้อยละ 28.86 ระบุยังไม่สนับสนุนพรรคใดเลย ส่วนที่ชื่นชอบอันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 25.89 และพรรคก้าวไกล ร้อยละ 16.24 สำหรับพรรคอื่นๆ มีความนิยมอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 8

 

จากนิด้าโพลล่าสุด มองในตะกร้าคะแนนฝ่ายประชาธิปไตย คะแนนนิยมของพิธาเหนือกว่าแพทองธาร แต่คะแนนนิยมในตัวพรรคระบุว่า เพื่อไทยยังดีกว่าก้าวไกล

 

ดังนั้น การที่ตระกูลชินวัตร จะดันอุ๊งอิ๊งมากระชากเรตติ้งเหมือนสมัยยิ่งลักษณ์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวันนี้มีพรรคก้าวไกลเป็นคู่ต่อกรที่น่ากลัว แถมเครื่องจักรสีส้มกำลังทำงานอย่างขันแข็ง

 

• ‘สายล่อฟ้า’

ตั้งใจชน “พิธา” กลยุทธ์วัดกระแสมวลชน ด้วยการโยนอุ๊งอิ๊งลงสนามเร็วกว่ากำหนด วันนี้จึงขอหยุดไว้ที่หัวหน้าครอบครัว ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ยังมีเวลาพอที่จะประเมินผลจากการทดสอบยกแรก

บรรดานักเลือกตั้งระดับขาใหญ่ ต่างมองว่า เกมหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็แค่เกมสับขาหลอกของ ทักษิณ เพื่อปั้นกระแสนารีแลนด์สไลด์ ส่งสัญญาณไปถึง ส.ส.บ้านใหญ่ที่ทิ้งเพื่อไทยไปสังกัดพลังประชารัฐ และภูมิใจไทย เมื่อการเลือกตั้งสมัยที่แล้ว

 

ชั่วโมงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้แกร่งเหมือนเดิม แต่ ส.ส.ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ที่ทิ้งเพื่อไทยไป ก็ยังไม่คิดจะย้ายกลับ หรือบางคนที่คิดจะย้ายหนี 3 ป.ก็มองไปที่พรรคภูมิใจไทยมากกว่า

 

เหนืออื่นใด การแยกตัวออกไปตั้งพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ ก็มีผลต่อสมรภูมิเมืองหลวง กรณีการุณ โหสกุล คงไม่ใช่คนสุดท้ายที่จะไปตามคุณหญิงหน่อยไปสร้างพรรคใหม่

 

รวมถึงพรรคสร้างอนาคตไทย ที่มีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นจุดขาย ยังเป็นทางเลือกในสถานการณ์การเมือง 2 ขั้ว และการประกาศไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำให้พรรคนี้มีเรตติ้งขึ้นมาบ้าง

 

ตรงกันข้าม การเปิดตัว "อุ๊งอิ๊ง" กลับกลายเป็นสายล่อฟ้า ทำให้สุเทพ เทือกสุบรรณ และสื่อฝ่ายจารีตได้จังหวะขุดคุ้ยวีรกรรมในอดีตของตระกูลชินวัตร และวาทกรรมระบอบทักษิณ กำลังตามมาหลอกหลอนพรรคเพื่อไทย

 

• ‘สิ้นมนต์ขลัง’

ไม่น่าแปลกใจที่ “พิธา” จะมีความนิยมเหนือกว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ "อุ๊งอิ๊ง" เนื่องจากพรรคก้าวไกลเติบโตตามโครงสร้างประชากรไทย นิวโหวตเตอร์ส่วนใหญ่ยังเทใจเลือกสีส้ม เหมือนสมัยที่ธนาธร จึงรุ่งเรือง นำพรรคอนาคตใหม่ลงสนาม

นับแต่ทักษิณ ชินวัตร สร้างบ้านหลังแรกคือ พรรคไทยรักไทย ผ่านมาถึงพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย มีข้อมูลการเลือกตั้งเชิงเปรียบเทียบที่น่าสนใจ

 

การเลือกตั้ง ส.ส. 6 ม.ค.2544 ทักษิณนำทัพไทยรักไทย กวาดไป 11,634,495 คะแนน หลังจากทักษิณนั้น ไล่ควบรวมพรรค จนทำให้ไทยรักไทยโตก้าวกระโดด

 

การเลือกตั้ง ส.ส. 6 ก.พ.2548 ทักษิณสมัยที่ 2 ได้สร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ ไทยรักไทยโกยแต้มไปได้ 18,993,073 คะแนน ทักษิณตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

 

การเลือกตั้ง ส.ส. 23 ธ.ค.2550 หลังรัฐประหาร 2549 ทักษิณปักหลักอยู่ต่างประเทศ มอบให้สมัคร สุนทรเวช นำทัพพลังประชาชน ได้ 12,338,90 คะแนน สะท้อนทักษิณยังอยู่ในใจคนรากหญ้า

 

การเลือกตั้ง ส.ส. 3 ก.ค.2554 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลุยสมรภูมิการเมือง นารีขี่ม้าขาวสร้างปรากฏการณ์เพื่อไทยแลนด์สไลด์ กวาดทั้งประเทศได้ 15,752,470 คะแนน บริบทการเมืองยุคนั้น มีปรากฏการณ์แดงทั้งแผ่นดิน และคนเสื้อแดงเป็นกองหนุนสำคัญที่ทำให้เกิดกระแสนารีขี่ม้าขาว

 

การเลือกตั้ง ส.ส. 24 มี.ค.2562 ทักษิณเล่นใหญ่ไฟกระพริบ ตั้งพรรคไทยรักษาชาติ แต่เจออุบัติเหตุการเมือง ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยแต้มลดเหลือ 7,881,006 คะแนน

 

ครอบครัวทักษิณเคยโตสูงสุดถึง 18 ล้านเสียงเมื่อปี 2548 แต่ปี 2563 กลับลดเหลือแค่ 7 ล้านเสียง ด้วยเหตุปัจจัยหลักๆคือ การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่(พรรคก้าวไกล) และ ส.ส.บ้านใหญ่ทิ้งเพื่อไทย ไปสังกัดพลังประชารัฐ

 

ดังนั้น การประกาศแคมเปญทวงคืน 14 ล้านเสียง พร้อมให้ "อุ๊งอิ๊ง" เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จึงถูกมองว่าแค่เกมสับขาหลอก เพราะในความเป็นจริง เพื่อไทยไม่สามารถทำแต้มได้ทะลุเป้าแน่นอน