คอลัมนิสต์

ดีกันครับนาย "เนวิน" สัมพันธ์ลึก "ทักษิณ" จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปมอนุทินอุ้มอุ๊งอิ๊ง สะท้อนสัมพันธ์ "เนวิน" กับ "ทักษิณ" คลี่คลายไปในทางบวก ดังสำนวนการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ย้อนอดีตชินวัตร-ชิดชอบ จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

มายาการเมือง “เนวิน” อาจารย์ใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน ลดขัดแย้งเช่นเดียวกับคนแดนไกล ทักษิณที่เคยส่งสัญญาณปรองดอง

 

หัวหน้าอนุทินชี้ “เนวิน” อายุมากขึ้น เวลาเปลี่ยน ปมบาดใจกับนายใหญ่ก็คลี่คลาย ดังสำนวนที่ว่าการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

 

ควันหลงจากการเปิดตัว "อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร" เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็มีนักข่าวนำเรื่องของอุ๊งอิ๊งไปสอบถามอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลทำนองว่า อาหนูอุ้มหลานอุ๊งอิ๊ง

จริงๆแล้ว อนุทินเคยให้สัมภาษณ์มาหลายครั้งว่า โดยส่วนตัวเขาไม่ได้มีปัญหากับทักษิณ และยังให้ความเคารพอดีตนายกฯ เหมือนเดิม

 

อนุทินบอกว่า อย่าไปดู "อุ๊งอิ๊ง" แค่ว่าเป็นลูกสาวทักษิณ แต่ต้องมองว่าเขาเป็นรุ่นใหม่ ความรู้ดี ครอบครัวดี ความตั้งใจจะมารับใช้บ้านเมือง เขาตั้งใจจะมาเป็นทางเลือกรับใช้ชาติบ้านเมือง คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือประชาชน จะได้มีทางเลือกเยอะ ทุกคนต้องแข่งขันกัน ขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ สุดท้ายผู้ตัดสินใจคือประชาชน

 

คำถามที่อนุทินคาดไม่ถึง กรณีปมค้างคาใจระหว่างทักษิณ ชินวัตร กับเนวิน ชิดชอบ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตอบชัดว่า ส่วนตัวมองว่าไม่ได้มีอะไร ที่เป็นข่าวเป็นการวิเคราะห์และประเมินของสื่อ ของคนที่อยู่นอกเวที คนที่อยู่ในเวทีการเมืองเขาบอกแล้วว่าไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร

 

“ผมว่ากาลเวลามันก็..คนก็อายุมากขึ้น อะไรมากขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรกัน เท่าที่ผมทราบไม่มีการพบปะกัน ไม่มีการพูดคุยอะไรกัน”

 

ถ้าจำกันได้ ปลายปีที่แล้ว โทนี่ วู้ดซั่ม หรือทักษิณ ชินวัตร เคยถูกถามผ่านคลับเฮาส์ เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเนวิน ชิดชอบ โทนี่ตอบสั้นๆ ว่า “คุณเนวินมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง ก็รู้จักกัน แต่การเมืองก็ทำห่างเหิน”

  • ‘ชินวัตร-ชิดชอบ’

หลังปราชัยคาสนามเลือกตั้งปี 2554 “เนวิน” พยายามลดการเผชิญหน้ากับตระกูลชินวัตร ด้วยการเปลี่ยนสไตล์การทำงานการเมืองของคนภูมิใจไทย เน้นประนีประนอมมากกว่าบู๊ล้างผลาญ

เนวิน ครูใหญ่การเมืองของอนุทินและศักดิ์สยาม

 

ปลายเดือน ต.ค.2564 โทนี่หรือทักษิณ ได้สื่อสารผ่านแคร์คลับเฮาส์ในหัวข้อ “วันนี้ประยุทธ์ พรุ่งนี้….ใคร” โดยตอนท้ายมีผู้ฟังถามทักษิณในคลับเฮาส์ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับเนวิน

 

“คุณเนวินมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง..ก็รู้จักกันแต่การเมืองก็ทำห่างเหิน” โดยทักษิณ รำลึกความหลังสมัยสภาผู้แทนฯ ช่วงปี 2512-2514 เวลานั้น เลิศ ชินวัตร บิดาของทักษิณ เป็น ส.ส.เชียงใหม่ และชัย ชิดชอบ บิดาของเนวิน เป็น ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้งคู่ต่างเป็น ส.ส.อิสระ จึงได้ร่วมงานกันในนามกลุ่ม ส.ส.อิสระ

 

“ผมเรียกพ่อเนวินว่าอา รู้จักพ่อเนวิน(กำนันชัย) ก่อนเจอเนวิน ตอนหลังมาก็ตอนที่อยู่ไทยรักไทย ก็สนิทกัน ขยันขันแข็ง”

 

หลังเลือกตั้งปี 2544 ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนกำนันชัยและเนวิน ยังสังกัดพรรคชาติไทย ผ่านไปปีเศษ กำนันชัยจึงเอ่ยปากกับทักษิณว่า “อาขอฝากลูกชายไปทำงานกับท่านนายกฯด้วยนะ”

 

ปี 2545 ทักษิณตั้งเนวินเป็น รมช.เกษตรฯ ตามมาด้วย รมช.พาณิชย์ เพียงไม่กี่ปี เนวินก็กลายเป็นขุนพลคู่บารมีหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และนำพาพรรคพลังประชาชนสู้รบ จนได้ตั้งรัฐบาลสมัคร-รัฐบาลสมชาย

 

บทเรียนการเลือกตั้งปี 2554 ทักษิณปั้นยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ในเวลา 40 กว่าวัน ภูมิใจไทยพ่ายยับและบีบให้เนวินต้องไปเป็นฝ่ายค้านอยู่หลายปี ฉะนั้น เนวินจึงไม่ประมาทฝีมือนายเก่า และคงไม่อยากเป็นฝ่ายค้านในสมัยหน้า

 

  • ‘บทเรียนเนวิน’

ปลายปี 2551 “เนวิน” ได้นำ ส.ส. 23 คน ในนามกลุ่มเพื่อนเนวิน รวมกับกลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน 8 คน เข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ ปฏิบัติการแหกค่ายนายใหญ่ ทำให้เกิดวลี “มันจบแล้วครับนาย”

 

สืบเนื่องจากวันที่ 2 ธ.ค.2551 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งให้ยุบ 3 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ด้วยข้อกล่าวหากระทำการที่เข้าข่ายทุจริตการเลือกตั้ง ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 พรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

 

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหาร พลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล จากรัฐบาลพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 

เลือกตั้งปี 2554 เนวินนำภูมิใจไทยลงสนามแบบมวยไฟท์เตอร์ชนกับเพื่อไทย และเป็นปฏิปักษ์กับเครือข่ายคนแดนไกล จึงประสบความปราชัยยับเยิน

 

ก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งปี 2562 เนวินปรับภาพลักษณ์ภูมิใจไทย ให้เป็นพรรคทางสายกลาง ดัน อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ลดการเผชิญหน้ากับนายใหญ่

 

กติกาเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 พรรคภูมิใจไทย ได้อานิสงส์เต็มๆ เพราะทุกคะแนนไม่ตกน้ำ ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 12 ที่นั่ง และ ส.ส.39 ที่นั่ง (ไม่นับรวมงูเห่า) รวม 51 ที่นั่ง ต่างจากปี 2554 ภูมิใจไทย ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5 คน และ ส.ส.เขต 34 ที่นั่ง

 

สถานการณ์ในวันนี้ ภูมิใจไทยได้เตรียมการรับมืออุ๊งอิ๊งแลนด์สไลด์ไว้นานแล้ว แม้อนุทินจะให้สัมภาษณ์ทำนองอุ้มหลานอุ๊งอิ๊ง แต่หัวคะแนนสีน้ำเงินในพื้นที่ก็เล่นขยายข่าวเรื่องอุ๊งอิ๊งเป็นสายล่อฟ้า และจะมีชะตากรรมไม่ต่างจากยิ่งลักษณ์

 

คาดว่าในสงครามเลือกตั้ง ค่ายบุรีรัมย์คงต้องงัดประเด็นอุ๊งอิ๊งจะมีจุดจบไม่ต่างจากพ่อทักษิณ และอาปูมาตีโต้กระแสนารีขี่ม้าขาวภาค 2

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ