คอลัมนิสต์

แยกสลาย "ธรรมนัส" ต่ออายุ "3 ป." ใครหลอกลูกน้อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกมอำนาจ "ธรรมนัส" เจอแผนแยกสลาย ยื้อระบอบ "3 ป." ฝ่าด่านซักฟอก ปลายทางที่ประชุมเอเปก จับตาวิกฤติเดือน พ.ค. ใครลวงใครหลอก ได้รู้กัน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

3 ป.ยื้ออยู่ในอำนาจ “ธรรมนัส” เหมือนเดินไปตายดาบหน้า ปั้นพรรคเศรษฐกิจไทย ในวันที่ไม่มีหัวโขนก็ไม่ง่าย ไปไหนมาไหนก็ดูเหงาๆ

 

พรรคอิสระแบบ “ธรรมนัส” ฟังดูเท่ ได้ใจกองเชียร์ แต่การเมืองเรื่องอำนาจ ผู้กองคนดังอาจจะต้องเผชิญการตามเช็คบิลคดีค้างเก่า

 

ส.ส.พปชร.ที่เคยเดินตาม “ธรรมนัส” ก็เลือกฝ่ายถืออำนาจ ยามนี้ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน อดอยากปากแห้ง ทำงานในพื้นที่ลำบาก

 

เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2565 แฟนเพจเฟซบุ๊คพรรคเศรษฐกิจไทย เปิดตัวด้วยภาพข่าวการทำกิจกรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต 1 และจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา เขต 3 พร้อมด้วย ธนพร ศรีวิราช ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วงโควิดระบาด ในเขต อ.จุน, อ.ปง และ อ.เชียงคำ

 

แน่นอน การลงพื้นที่ของ ร.อ.ธรรมนัส ในวันที่ไม่มีหัวโขน รมช.เกษตรฯ จึงดูไม่คึกคัก และมีสภาพไม่ต่าง ส.ส.ทั่วไปที่ไปแจกของชาวบ้าน

อย่างวันที่ 3 มี.ค.2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ลงพื้นที่พบประชาชนและมอบถุงยังชีพที่ อบต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ปรากฏว่า ไม่มี ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ออกมาต้อนรับแม้แต่คนเดียว ต่างจากวันที่ ร.อ.ธรรมนัส ไป จ.นราธิวาส เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

 

แม้แต่กำนันฉอย สมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี ที่เคยเดินตาม ร.อ.ธรรมนัส สมัยอยู่ในพลังประชารัฐ ก็ไม่โผล่มาที่ อบต.บ้านเก่า นัยว่าช่วงหลัง กำนันฉอยไปเดินตามเสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

 

การทำกิจกรรมในนามพรรคเศรษฐกิจไทยที่คลองเตย ร.อ.ธรรมนัส ก็ใช้บริการ “เฮียหมู-เฮียหมู” สองพี่น้องที่ร่วมทำธุรกิจด้วยกันมา จัดการเรื่องระดมคนมารับของแจก ดูเผินๆคล้ายเป็นเครือข่ายของพรรคผู้กอง แต่จริงๆแล้ว สองพี่น้องทำงานรับใช้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

 

อย่างไรก็ตาม ร.อ.ธรรมนัส ยังใช้โซเชียลเล่นเกมข่าวสาร ส่งสัญญาณไปยังผู้ถืออำนาจเป็นระยะๆ เช่นการโพสต์เรื่องพรหมพินาศ 4 หนทางไปสู่ความวิบัติคือ 1.หลงอำนาจ 2.ฉ้อราษฎร์บังหลวง 3.หลอกลวงลูกน้อง 4.ยกย่องคนเลว

 

  • ‘แยกสลายสหายผู้กอง’

พรรคเศรษฐกิจไทยของ “ธรรมนัส” ยังรอการประชุมใหญ่ และกองเชียร์ก็เฝ้ารอการเปิดตัวผู้ที่จะมาร่วมงานกับผู้กองว่า จะดีเด่นดังสมราคาคุยหรือไม่

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีบัญชาให้จัดประชุมใหญ่ปรับโครงสร้างพรรคที่โรงแรมแคนทารี ใจกลางเมืองโคราช ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ หลังพี่น้อง 3 ป.ได้ร่วมรับประทานอาหารร่วมกันที่บ้านป่ารอยต่อ โดยอาหารเที่ยงมื้อนั้น ก็ทำให้มีรายงานข่าว “3 ป.รอมชอม ประยุทธ์ขออยู่ยาว” หรือ “ประยุทธ์ส่งสายตรงคุม พปชร.”

 

การเลือกที่ จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่จัดประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ แกนนำพรรคบางคนบอกว่า สมัยหน้าสนามโคราช จะมี ส.ส.16 คน พปชร.จึงต้องมาประกาศปักธงชิงพื้นที่ข่าว ด้านหนึ่ง สะท้อนว่า พล.อ.ประวิตร ยังให้ความสำคัญแก่ วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ดูแล ส.ส.นครราชสีมา 5 คน

 

ดังที่รู้กัน ส.ส.นครราชสีมา 2 คนในซุ้มวิรัช คือ ทัศนาพร เกษเมธีการุณ และเกษม ศุภรานนท์ สังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย แม้ส่วนตัว วิรัชจะสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส แต่การที่ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ สวมหัวโขน รมช.คมนาคม ทำให้วิรัชยังไม่ตัดสินใจ เลือกข้างธรรมนัสเต็มตัว

ร.อ.ธรรมนัส กลับพะเยา แจกถุงยังชีพชาวบ้าน

 

ที่สำคัญ การเข้าสู่สมรภูมิศึกซักฟอกกลางสภาฯ จำเป็นจะต้องดึงเสียงจากพรรคเศรษฐกิจไทย อย่างน้อย 5-6 เสียงให้หนุน พล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้น พล.อ.ประวิตรจึงต้องพึ่งพาวิรัช ด้วยประการฉะนี้

 

  • ‘ศึกซักฟอกชี้ชะตา’

แค้นนี้ต้องชำระ “ธรรมนัส” รู้ดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมให้อภัยต่อเหตุการณ์กบฏในสภาฯ เมื่อกลางปีที่แล้ว ผู้กองจึงตัดสินใจขอแยกตัวออกมาสร้างพรรคเศรษฐกิจไทย โดยการรู้เห็นเป็นใจของน้องชาย ป.พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์

 

สื่อทุกสำนักวิเคราะห์ตรงกันว่า การก่อเกิดของซุ้มธรรมนัส จะทำให้รัฐบาลประยุทธ์อยู่ยาก และสุ่มเสี่ยงที่นายกฯ ประยุทธ์ อาจต้องยุบสภาในเดือนพฤษภาฯ ก่อนศึกซักฟอกจะเริ่มขึ้น

 

ดังนั้น จึงมีความพยายามแก้เกมซุ้มธรรมนัส ด้วยการผนึกกำลังของพรรคร่วมรัฐบาล จึงมีประเด็น 260 เสียงของพรรคภูมิใจไทย และเหนืออื่นใด พล.อ.ประวิตร ต้องเร่งสร้างความเป็นปึกแผ่นของพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งพรรคเล็ก 14 เสียงที่ต้องดึงมาไว้ข้างรัฐบาลให้ได้

 

ว่ากันว่า "พี่น้อง 3 ป." จะมีความสัมพันธ์ไม่เหมือนเก่า แต่การรักษาฐานอำนาจไว้ จำเป็นต้องสร้างภาพให้เห็นถึงความกลมเกลียว เพื่อให้รัฐบาลประยุทธ์ อยู่ยาวจนครบเทอม

 

เบื้องต้น พล.อ.ประยุทธ์จะต้องอยู่ไปจนถึงการเป็นเจ้าภาพเอเปก ซึ่งใกล้กับช่วงที่รัฐบาลจะครบเทอม 23 มี.ค.2566

 

ดังนั้น ไทม์ไลน์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ประกอบด้วยช่วงปลายเดือน พ.ค. เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และนายกเมืองพัทยา,เดือน ส.ค. พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูก 2 ฉบับ และเดือน พ.ย. การประชุมผู้นำเอเปก

 

เฉพาะหน้า "การอภิปรายไม่ไว้วางใจ" ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเดือน มิ.ย. หลังจากฝ่ายค้านจะยื่นญัตติใน พ.ค. รวมถึงการยื่นตีความตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีในเดือน ส.ค.นี้

 

ปฏิบัติการแยกสลายสายผู้กองธรรมนัส ของฝ่ายผู้ถืออำนาจ ไม่ว่าจะเป็น 16 เสียง พรรคเศรษฐกิจไทย และ 14 เสียงพรรคขนาดเล็ก จะต้องทำงานอย่างเข้มข้นในช่วงเดือน พ.ค.นี้

 

เหนืออื่นใด ผู้กองเมืองพะเยาในวันนี้ ไม่ใช่เจ้าของสวนกล้วยเหมือนในอดีต ผู้ที่จะทำหน้าที่บริหารกล้วยจะเปลี่ยนไปอยู่ในฝั่งผู้ถืออำนาจ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ