
ราชครูรีเทิร์น "ปองพล" ผนึก "แรมโบ้" เพื่อลูกชาย
ตระกูลราชครูยังอยู่ "ปองพล" หวนคืนสังเวียน จับมือ "แรมโบ้" ช่วยปรพล ปั้นพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีเสี่ยจ้อน คุมที่มั่นใหญ่อยู่ที่ อบจ.สระบุรี คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
ราชครูรุ่น 3 “ปองพล” หวนคืนสังเวียน จับมือ “แรมโบ้อีสาน” ลุยพรรครวมไทยสร้างชาติ ดัน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัย
ที่มั่นเดิม “ปองพล” ยังมีเสี่ยจ้อน ทายาทราชครูรุ่น 2 เดช บุญ-หลง เป็นนายก อบจ.สระบุรี สมัยที่แล้ว ปั้น ส.ส.พลังประชารัฐ ได้ 1 ที่นั่ง
รวมไทยสร้างชาติเข็น “ปองพล” เพื่อลบคำปรามาสพรรคแรมโบ้ หลังมีข่าวผู้ใหญ่สั่งเบรก เพราะเสกสกลโอเวอร์รีแอ็ก อ้างชื่อคนดังจนปั่นป่วน
เงียบหายไปพักหนึ่ง เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ออกมาให้ข่าว ปองพล อดิเรกสาร สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค เมื่อปลายเดือน ก.พ ที่ผ่านมา
ปองพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี 4 สมัย อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง วางมือทางการเมืองไปหลายปีแล้ว เหลือเพียงราชครู รุ่น 4 อย่าง ปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส. สระบุรี ที่กระโจนเข้าพรรคพลังประชารัฐ และเพิ่งลาออกมาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
ปรพล อดิเรกสาร น่าจะเป็นคนแรกๆ ที่ตอบรับคำเชิญชวนของแรมโบ้อีสาน เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในการมาร่วมกันก่อร่างสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติ
- ‘ที่มั่นสระบุรี’
จะว่าไปแล้ว “ปองพล” ในฐานะราชครู รุ่น 3 ยังมีที่มั่นการเมืองอยู่ใน จ.สระบุรี โดยลูกชาย ปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี เป็นผู้ดูแลพื้นที่อยู่
ช่วงเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 ปาล์ม หรือปรพล อดิเรกสาร จับมือ สัญญา บุญ-หลง (เวลานั้นดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครนายก) ในภารกิจพลิกฟื้นฐานการเมืองของตระกูลอดิเรกสาร ให้มีที่อยู่ที่ยืนในสระบุรี ซึ่งประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง เมื่อ สมบัติ อำนาคะ ได้รับเลือกเป็น ส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ
ปลายปี 2563 เสี่ยจ้อน สัญญา บุญ-หลง อดีตนายก อบจ.นครนายก หวนคืนถิ่นเก่าลงสมัครนายก อบจ.สระบุรี และได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย เมื่อนักการเมืองทุกพรรคในสระบุรี รวมใจหนุนเสี่ยจ้อน
สัญญา บุญ-หลง เป็นลูกชายเดช บุญ-หลง นักธุรกิจการเมืองที่ใกล้ชิด พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร ตั้งแต่สมัยทำธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ด้านหนึ่ง เดช บุญ-หลง เป็นนักการเมืองสายราชครู ที่ร่วมก่อตั้งพรรคชาติไทย และหิ้วกระเป๋ามาลงสมัคร ส.ส.นครนายก โดยอาศัยฐานการตระกูลอดิเรกสาร ในสระบุรีเป็นตัวช่วย
หลังเดช บุญ-หลง จากไปเสี่ยจ้อน ก็สานต่องานการเมือง และได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.นครนายก 2 สมัยติดต่อกัน ก่อนจะขยับมานั่งเก้าอี้นายก อบจ.สระบุรี เพื่อพลิกฟื้นฐานการเมืองราชครู
- ‘เพื่อราชครูรุ่น 4’
เหตุที่ “ปองพล” ต้องหวนคืนสังเวียน คงห่วงลูกชาย ปรพล อดิเรกสาร ที่ต้องไปบุกเบิกพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงต้องออกแรงช่วย เรียกความเชื่อมั่นของผู้คนกลับมา หลังปล่อยให้แรมโบ้เปิดการแสดงมากเกินไป
ปองพลไม่ใช่นักการลายคราม ตกกระแส และไร้ฐานการเมือง แต่การที่เสี่ยจ้อน สัญญา บุญ-หลง ยึด อบจ.สระบุรี ได้เมื่อปีก่อน จึงทำให้ตระกูลอดิเรกสาร มีที่อยู่ที่ยืน
พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร เป็นผู้นำตระกูลอดิเรกสาร เข้าสู่เส้นทางการเมืองสระบุรีครั้งแรกในปี 2495 แต่ช่วงที่ถือได้เป็นการขับเคลื่อนทางการเมืองจริงๆ จะอยู่ในช่วงปี 2500-2550 นอกจาก พล.ต.อ.ประมาณ ก็ยังมีทายาทที่ลงเล่นการเมือง ทั้งปองพล, พศ และวีระพล จนมาถึงรุ่นหลาน-ปรพล
ยุคทองของพรรคชาติไทย ตระกูลอดิเรกสาร ได้ยึดกุมการเมืองระดับชาติและท้องถิ่นใน จ.สระบุรี แถมยังแผ่ขยายไปยัง จ.นครนายก เมื่อเดช บุญ-หลง ได้เป็น ส.ส.นครนายก ปี 2535 แต่หลังการเลือกตั้งปี 2550 ตระกูลอดิเรกสาร ก็เหลือเพียง ปรพล อดิเรกสาร คนเดียวที่ยังเป็น ส.ส.อยู่
การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคมและ การเมืองของสระบุรี มีผลต่อการเกาะกลุ่มการสร้างฐานอำนาจทางการเมืองของตระกูลอดิเรกสาร นักการเมืองหน้าใหม่ในสระบุรี ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาททางการเมืองในระดับชาติมากขึ้น
การเลือกตั้งปี 2562 ปรพลจับมือเสี่ยจ้อนเพื่อจัดทีมลงสมัคร ส.ส.สระบุรี ในนามพลังประชารัฐ ผลการเลือกตั้ง พลังประชารัฐ ได้ 2 ที่นั่ง จากทั้งหมด 3 ที่นั่ง และมี ส.ส.สระบุรี สายตรงของอดิเรกสาร อยู่คนหนึ่ง
ส่วนการลงสมัครนายก อบจ.สระบุรี ของเสี่ยจ้อน สัญญา บุญ-หลง ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้ามา 1 ปีและได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น
ฐานการเมืองท้องถิ่นสระบุรี คือความหวังของปองพล-ปรพล ที่จะสามารถทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.สระบุรี ในสีเสื้อรวมไทยสร้างชาติ