กลัวพลังดูด "ทักษิณ" ดิ้นยกสุดท้าย พ่ายเที่ยวนี้ไม่ได้
จับตาเกมใหม่ "ทักษิณ" ปลดล็อคครอบงำพรรค คนแดนไกลกังวลพลังดูด กลัว ส.ส.ยกขบวนหนี แถมเลือกตั้งใหญ่ก็กลัวไม่แลนด์สไลด์ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
หนีไม่พ้นธนาธิปไตย “ทักษิณ” ยังนอนผวา เพราะเจอพลังดูดจากพรรคขาใหญ่ ถึงขั้นลุกขึ้นมาโวยกลางคลับเฮาส์
จุดแข็งจุดอ่อนเพื่อไทยก็คือ “ทักษิณ” ปรับโครงสร้างพรรคกี่ครั้งยังหนีเงานายใหญ่ไม่พ้น แต่หากไม่มีแบรนด์คนแดนไกล ก็ไปต่อยาก
เสี่ยงยุบพรรค “ทักษิณ” เจอการร้องเรียนเรื่องครอบงำพรรค แกนนำเพื่อไทยจึงชงแก้กฎหมายลูก ประเด็นคนนอกครอบงำพรรค
วันที่ 24-25 ก.พ.2565 ที่ประชุมรัฐสภา เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่เตรียมใช้ในการเลือกตั้ง ซึ่งมี ส.ส.เข้าชื่อเสนอรวม 10 ฉบับ และที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ การแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และมาตรา 29 ว่าด้วยข้อห้ามพรรคการเมืองให้คนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ครอบงำ ชี้นำกิจการของพรรค
ว่ากันตามจริง มีพรรคการเมืองหลายพรรค มีผู้บารมีนอกพรรค ไม่เฉพาะพรรคเพื่อไทย อย่างพรรคภูมิใจไทย มีคนนอกที่ไม่อยู่ในพรรคเช่นกัน
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นแก้ไข ม.28 และ ม.29 ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมาก และจะชี้แจงหลักการและเหตุผลที่เราเสนอให้มากที่สุด เพราะถือว่าเป็นประโยชน์กับพรรคการเมือง
แน่นอน พรรคเพื่อไทยย่อมตกเป็นเป้าโจมตี ในฐานะที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อคนในพรรคเพื่อไทยอย่างสูง
‘กลัวพลังดูด’
ยุคสมัยหนึ่ง “ทักษิณ” และพรรคไทยรักไทย ได้ชื่อว่าเป็นพรรคที่ทรงพลัง สามารถดึงดูดพรรคความหวังใหม่ ,พรรคเสรีธรรม และพรรคชาติพัฒนา ให้ยุบพรรคและควบรวมกับไทยรักไทย
ทักษิณหรือโทนี่ จากเมืองไทยไปเกือบ 20 ปี การเมืองไทยก็ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นในคลับเฮาส์ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2565 ทักษิณจึงโวยวายเรื่องพลังดูด
“ผมได้ยินว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน โดนวัคซีนไล่ฉีดกันเป็นแถว 30 ล้าน 20 ล้าน ฉีดกันใหญ่ โอ้โห.. จะเตรียมย้ายพรรค ผมเตือนไว้นะ วันก่อน มี ส.ส.เพื่อไทยไปร่วมประชุมกับพรรคฝ่ายรัฐบาลอยู่ ผมได้ยิน รู้ชื่อด้วย จ่ายคนละ 2 แสน รายเดือน เอาตังค์ที่ไหนมา”
เรื่องที่ทักษิณพูดในคลับเฮาส์ ก็ไม่ต่างจากบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เคยโอดครวญว่า เจอพายุลูกใหญ่จนแทบพรรคชาติไทยจะสูญพันธุ์ในการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2548
ลึกๆแล้ว ทักษิณเองคงสั่นไหวในความรู้สึก ถึงกับพูดว่า “ผมอยู่ดูไบรู้หมด วันนี้ที่บอกว่า เอารายชื่อไปโชว์นายกฯ เท่านั้นเท่านี้ ก็จริงนะ ก็จิ้มไปเยอะ”
ในวันที่แบรนด์ทักษิณเสื่อมมนต์ขลังไปเยอะ ส.ส.เพื่อไทยจำนวนไม่น้อย ต่างขวนขวายหาทางไป เพราะอย่าลืมว่า กลุ่มบ้านใหญ่ที่ทิ้งไปพลังประชารัฐ ก็ยังไม่คิดหวนกลับเพื่อไทย
‘ตัวอย่างเมืองช้าง’
ตามนิสัย “ทักษิณ” ไม่ยอมถอยง่ายๆ คำพูดที่ว่า “ผมอยู่ดูไบรู้หมด..” จึงต้องหาทางสกัดไม่ให้เลือดไหล
อย่างเมื่อวันที่ 20 ก.พ.2565 มีงานฉลองมงคลสมรส บุตรสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ กับบุตรชาย สวาป เผ่าประทาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่ไร่ STK ฟาร์ม ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีรัฐมนตรีพรรคภูมิใจ และ ส.ส.หลายพรรคมาร่วมงานนับร้อยคน
วันนั้น ช่วงการถ่ายภาพหมู่ ส.ส.ในงานก็เห็นภาพ อนุทิน ชาญวีรกูล หยอกล้อกับ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เนื่องจาก ส.ส.รายนี้ตกเป็นข่าวเรื่องจะย้ายมาอยู่ค่ายสีน้ำเงิน
ย้อนไปปี 2562 วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.สุรินทร์ ได้พบกับครูมานิตย์ สังข์พุ่ม, ตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล และคุณากร ปรีชาชนะชัย 3 ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อันเป็นที่มาของข่าวลือย้ายพรรค
ตอนหลังคนในเมืองช้าง ก็เพ่งเล็งไปที่ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม และ ตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล ซึ่งเป็น ส.ส.สมัยแรกพร้อมกัน ในสีเสื้อไทยรักไทย ฤดูเลือกตั้ง 2544
อย่างไรก็ตาม สนามเลือกตั้งสุรินทร์ ทำให้พรรคภูมิใจไทยผิดหวังมาแล้ว 2 ครั้ง เพราะคนเมืองช้างไม่เลือกแบรนด์เนวิน และยังภักดีกับแบรนด์ทักษิณ
ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม และ ตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล จึงยังไม่ตัดสินใจ ซึ่ง ส.ส.หลายคนของเพื่อไทย ก็คงอยู่ในอาการประมาณนี้เหมือนกัน