คอลัมนิสต์

หอมหวาน "อนุทิน-ทักษิณ" ภาพหลอนเขย่าเรือเหล็กลุงตู่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้อนสัมพันธ์หวานชื่น "อนุทิน-ทักษิณ" บนเส้นทางธุรกิจการเมือง เนวินดันเสี่ยหนูเป็นหัวหน้าพรรค ลบภาพเก่าล้มนายใหญ่ ปั้นแบรนด์พรรคตัวแปร คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

กี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม “อนุทิน-ทักษิณ” ความสัมพันธ์ส่วนตัวยังแน่นแฟ้น แม้บนถนนการเมืองจะอยู่คนละพรรค

 

บนเส้นทางธุรกิจ “อนุทิน-ทักษิณ” คล้ายกัน ต่างได้ประโยชน์จากโครงสร้างการเมืองแบบอุปถัมภ์ และทั้งคู่เข้ามาเล่นในเกมอำนาจที่ซับซ้อนซ่อนปม

 

นี่คือสะพานเชื่อม “อนุทิน-ทักษิณ” นับแต่วันที่เนวินดันเสี่ยหนูเป็นหัวหน้าพรรค ก็รีแบรนด์ภูมิใจไทย จากพรรคมีขั้วมีสี กลายเป็นพรรคตัวแปร

 

ด้วยบทวิเคราะห์การเมืองของโทนี่ หรือทักษิณ ชินวัตร ผ่านแคร์คลับเฮาส์ เรื่องชะตากรรมรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งอาจมีรายการไฮแจ็คตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพรรคภูมิใจไทย ประกาศกุม 260 เสียงค้ำเก้าอี้นายกฯประยุทธ์

วันที่ 17 ก.พ.2565 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ต้องเจอคำถามเรื่องคำเตือนทักษิณ โดยอนุทิน กล่าวว่า “ท่าน(ทักษิณ ชินวัตร) เป็นอดีตผู้บังคับบัญชา มีบุญคุณกับผมมาก จึงไม่ขอกล่าวถึง แต่เคารพท่านตลอด”

 

จะว่าไปแล้ว ทุกครั้งที่เสี่ยหนูให้สัมภาษณ์สื่อ และมีการถามถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ได้รับฟังคำตอบทำนองนี้ ครั้งหนึ่ง เสี่ยหนูเคยโชว์ห้องทำงาน บนอาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ ยังมีภาพทักษิณที่ผนังห้อง

 

ช่วงรัฐบาล คสช. อนุทินเก็บตัวเงียบ เวลานั้นก็ยังมีข่าวว่า เขาดอดเดินทางไปต่างประเทศเพื่อพบนายใหญ่ หรือผู้ใหญ่ที่ยังรักกันดีอยู่เดิมเสมอ โดยเขาออกมาแจงรัวๆว่า เป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มีต่อกัน โดยไม่มีทั้งผลประโยชน์ทางการเมืองและทางธุรกิจ

 

‘ก้าวแรกไทยรักไทย’

รอยแค้นคลี่คลายไปตามกาลเวลา สายสัมพันธ์ “อนุทิน-ทักษิณ” ลบภาพภูมิใจไทยพรรคเนรคุณออกไป และมีการสร้างแบรนด์ใหม่ กลายเป็นพรรคที่เข้าได้กับทุกขั้ว

สมัยทักษิณ ชินวัตร เริ่มเล่นการเมือง อนุทิน ชาญวีรกูล ยังดูแลกิจการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งบิดาของเสี่ยหนู คือ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ได้เข้าสู่ถนนการเมืองเต็มตัวช่วงหลังพฤษภาทมิฬ 2535

 

ปี 2539 สมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต เสี่ยหนูเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร โดยช่วงนั้น ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีช่วยคลัง

 

ระหว่างนั้น เสี่ยหนูได้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีอยู่หลายกระทรวง ตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศ ถึงกระทรวงพาณิชย์ ช่วงรอยต่อรัฐบาล พล.อ.ชวลิต กับ ชวน หลีกภัย

 

ปี 2544 อนุทินได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย และได้เป็นกรรมการที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ 1 เสี่ยหนูได้เป็น รมช.สาธารณสุข ก่อนจะโยกไปเป็น รมช.พาณิชย์ แล้วกลับมาเป็น รมช.สาธารณสุขอีกครั้งตอนปี 2548

 

นัยว่า สมัยไทยรักไทย เสี่ยหนูสนิทสนมกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ เคยเป็น รมว.สาธารณสุข และเมื่อปีก่อน ก็ยังพูดถึงเจ้านายเก่าว่า “ผมกับคุณหญิงสุดารัตน์ สายสัมพันธ์ไม่มีจืดจาง เพราะเคารพนับถือกันมาตลอด”

 

‘ก้าวที่สองภูมิใจไทย’

หลังการเลือกตั้ง 2562 ช่วงที่มีการจับขั้วตั้งรัฐบาล คอการเมืองจับจ้องไปที่ “อนุทิน-ทักษิณ” กองเชียร์เสื้อแดงอยากให้ภูมิใจไทยพลิกขั้วมาจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย แต่ครูใหญ่เนวิน เลือกที่จะเปิดดีลกับพี่น้อง 3 ป.

 

ปี 2555 อนุทินหลุดพ้นจากบ้านเลขที่ 111 จึงเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยต่อจากบิดา ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ต่อมา ในการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2557 เสี่ยหนูได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 แต่เลือกตั้งเป็นโมฆะ

 

ปี 2561 อนุทินเริ่มขยับขับเคลื่อนพรรคภูมิใจไทย ด้วยการล้างภาพแบรนด์เก่าที่ประสบความล้มเหลวจากเลือกตั้ง 2554 โดยเนวิน ชิดชอบ ก็พยายามใช้กีฬาลูกหนังเจาะตลาดคนรุ่นใหม่

 

แต่ภาพจำในตลาดการเมือง คำว่า คนทรยศนายใหญ่ ยังฝังลึกอยู่ในหัวของคนรากหญ้าอีสานและเหนือตอนบน อนุทินจึงต้องเข้าไปปรับแก้ตรงจุดนี้

 

ช่วงหาเสียง เสี่ยหนูจึงเร่งสปีดทำสงครามข่าวสาร ขายความเป็นพรรคตัวแปร ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้ง ระหว่างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นพรรคการเมืองที่มีความเป็นอิสระ

 

ตลอดช่วงเวลาในการร่วมรัฐบาลประยุทธ์ ภาค 2 อนุทินและแกนนำพรรคภูมิใจไทยก็ตอกย้ำคำว่า พรรคตัวแปร อยู่ข้างไหน ข้างนั้นก็ได้เป็นรัฐบาล

 

ดังนั้น การสะสมกำลังเพิ่มเติมจนกลายเป็นพรรคใหญ่อันดับ 2 รองจากพรรคพลังประชารัฐ จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย รวมถึงการวิเคราะห์อุบัติเหตุทางการเมืองในช่วงเดือน พ.ค.2565

 

สโลแกน มีรูมีหนู ของอนุทิน ยังคงมีความหมายอยู่เสมอ เพราะที่ไหนมีโอกาส ที่นั่นมีอนุทิน และครูใหญ่ชื่อเนวิน

logoline