มีรูมีหนู "อนุทิน" มีดีลใหม่ พร้อมสละเรือเหล็ก
รัฐบาลง่อยเปลี้ยเสียขา "อนุทิน" สบช่องงัดกลยุทธ์มีรูมีหนู ที่ไหนมีโอกาสก็พร้อมเสียบ เปิดดีลใหม่มองข้ามช็อตไปถึงเลือกตั้งครั้งหน้า คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก
เกมวัดใจ “อนุทิน” สร้างปรากฏการณ์บอยคอตการประชุมคณะรัฐมนตรี อ้างพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชน แถมลูกพรรคภูมิใจไทยท้าให้ยุบสภา
เรือเหล็กใกล้จม “อนุทิน” คงประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะยื้อไปได้สักกี่น้ำ หัวหน้าค่ายสีน้ำเงิน จึงเดินเกมรุกตามกลยุทธ์มีรูมีหนู ที่ไหนมีโอกาส ที่นั่นมีอนุทิน
ข่าวดีลลับหนาหู “อนุทิน” เพราะช่วงเวลาฮันนีมูนจบไปนานแล้ว จากนี้เป็นเรื่องเกมอำนาจใหม่ จึงมีข่าวผู้มีบารมีนอกพรรคเจรจากับคนแดนไกล
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พยายามชี้แจงว่าความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง หลัง 7 รัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย ไม่เข้าร่วมประชุม ครม. ในวาระโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีท่าทีใดๆต่อประเด็นรถไฟฟ้าสีเขียว แต่สวนกระแสด้วยถ้อยแถลงเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพ APEC 2022 “ผมรอที่จะต้อนรับผู้นำ APEC ทุกท่านสู่ประเทศไทยในเดือน พ.ย.นี้”
5 ปีที่แล้ว อนุทิน ชาญวีรกูล ได้จัดพิมพ์หนังสืออัตชีวประวัติตัวเองชื่อ “มีรู..มีหนู” โดยความหมายของชื่อหนังสือนั้นหมายถึงว่า ที่ไหนมีโอกาส ที่นั่นมีอนุทิน
อนุทินมองเห็นโอกาส จากความปั่นป่วนในพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาล จึงฉวยจังหวะรุกขอปลดล็อกกัญชา ก็ได้ตามที่หวัง หากเกิดยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ภูมิใจไทยก็จะนำเรื่องกัญชาไปหาเสียงต่อ ตามแคมเปญใหม่ พูดแล้วทำ
‘การเมืองกัญชา’
นับแต่เข้าร่วมรัฐบาลประยุทธ์ “อนุทิน” พยายามผลักดันนโยบายกัญชาเสรีให้ออกมาเป็นรูปธรรม แต่ก็เจอหลายด่านสกัด โดยเฉพาะคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด
กระทั่งต้นปีนี้ พรรคภูมิใจไทยออกแรงกระทุ้งเรื่องชาวบ้านปลูกกัญชาแล้วถูกจับ พล.อ.ประยุทธ์จึงส่งสัญญาณไปถึงคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด และมีการปลดล็อกกัญชาพ้นจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5
จากนั้น อนุทินได้ยื่นร่างกฎหมายกัญชา เข้าสู่สภาเพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาให้ทันกับการบังคับใช้
แม้การปลูกกัญชาจะต้องได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข แต่การผลักดันนโยบายกัญชาจนเห็นผลเป็นรูปธรรม ถือว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
มีข้อสังเกตว่า ค่ายภูมิใจไทยรุกหนักเรื่องกัญชา ในห้วงเวลาที่พรรคพลังประชารัฐแตกแยก มีกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส แยกตัวออกไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย
‘ขั้วที่สาม’
ค่ายสีแดงกับค่ายสีน้ำเงินเหมือนกันตรงที่มีผู้มีบารมีนอกพรรค “อนุทิน” มารับไม้ต่อเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในจังหวะที่มีการปรับภาพลักษณ์ โดยสลัดจากขั้วความขัดแย้งออกมาเป็นพรรคทางเลือก
ภูมิใจไทยถือกำเนิดมาจากพรรคพลังประชาชน หลังมีกรณียุบพรรค ผู้ก่อการคือ เนวิน ชิดชอบ ซึ่งวันนี้ถอยไปอยู่แถวหลัง เป็นอาจารย์ใหญ่ของค่ายสีน้ำเงิน จึงถูกประทับตราเป็นพรรคเนรคุณ
เมื่ออนุทินก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ก็พยายามลบแบรนด์เดิม ที่ถูกผูกติดกับขั้วประชาธิปัตย์ และสร้างแบรนด์ใหม่ที่ไม่เป็นศัตรูกับใคร
“คนที่จะเชื่อมสองขั้วคือคนกลาง พรรคคือคนกลางทางการเมือง พรรคไม่ใช่คู่ขัดเเย้งเเละพร้อมโน้มน้าวทุกฝ่ายให้เห็นประโยชน์ของประเทศ” นี่คือคำพูดของอนุทิน เมื่อปี 2562
เมื่อถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาลประยุทธ์ เกมการเมืองเรื่องต่อรอง ภูมิใจไทยก็เลือกข้าง 3 ป. และได้กระทรวงเกรดเออย่างคมนาคม และสาธารณสุข ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของผู้มีบารมีนอกพรรคอยู่แล้ว
แม้จะต้องแลกมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรุ่นใหม่ว่า ภูมิใจไทยเป็นนั่งร้านเผด็จการ แต่ก็คุ้มเกินคุ้มสำหรับนักเลือกตั้งที่มีประสบการณ์โชกโชน
มาถึงวันนี้ สถานการณ์ในกลุ่มพี่น้อง 3 ป.ก็ไม่เป็นปึกแผ่น และพรรคพลังประชารัฐก็ระส่ำระสาย มีหรือผู้มีบารมีนอกพรรคภูมิใจไทย จะไม่เดินเกมต่อรองและกดดันในห้วงวาระสุดท้ายของรัฐบาลผสม