คอลัมนิสต์

พปชร.ร่วง "สุชัชวีร์" ได้แต้มสู้ชัชชาติ-วิโรจน์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ปชป.รอดจากหลักสี่เอฟเฟกต์ "สุชัชวีร์" สบช่อง พปชร.ร่วง ลุงตู่หล่น สะสมแต้มหวังไปทาบชัชชาติ ที่จะเจอวิโรจน์ ก้าวไกลพร้อมชนพร้อมแบ่งแต้ม คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ด่านทดสอบหลักสี่ “สุชัชวีร์” รอดตัวไป เพราะค่าย ปชป.ไม่ส่งผู้การแต้มลงสนาม แต่คงเหนื่อยสาหัส เมื่อเห็นแต้มเพื่อไทยชนะขาด

 

ชัชชาติออกนำไปก่อน “สุชัชวีร์” มาทีหลังใช้ลูกขยันลุยพื้นที่ และรอดูกลยุทธ์กระชากเรตติ้ง ทำได้ก็มีลุ้น แต่ถ้าไม่โดนก็ดับ

 

ผลเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ พรรคก้าวไกลไม่แผ่ว “สุชัชวีร์” อาจแอบหวังให้คู่แข่งฝ่ายประชาธิปไตยตัดแต้มกันเอง

 

พลันที่พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศงดส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเขต 9 หลักสี่-จตุจักร หลายคนนึกถึงใบหน้าของ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรค ปชป. เพราะหากพรรคส่ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่เคยได้ 1.6 หมื่นคะแนนในการเลือกตั้ง 2562 แล้วเกิดแพ้แบบย่อยยับขึ้นมา ย่อมเขย่าขวัญ ดร.เอ้ อย่างแน่นอน

 

อีกด้านหนึ่ง ปชป.ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ก็คงสรุปบทเรียนจากการแข่งขันในสนามหลักสี่ ทั้งจากผู้ชนะและผู้แพ้ เพื่อนำมาปรับใช้ในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ชัยชนะของเพื่อไทยคงสร้างความมั่นใจให้ทีมงานชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มากขึ้น ขณะที่พรรคก้าวไกลก็ใจชื้นที่คะแนนปี 2562 ยังไม่หายไปไหน

 

ที่เสียหายหนักคือ พรรคพลังประชารัฐ สะท้อนว่าคะแนน ปชป.ที่โดนกระแสลุงตู่แบ่งแต้มไปนั้น อาจกำลังจะกลับมาที่เดิม

 

ฝ่ายประชาธิปไตย อย่างชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กับวิโรจน์ ลักขณาอดิศร คงห้ำหั่นกันดุเดือด ส่วน สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ก็พยายามทำคะแนนที่หายไปกลับคืนมา และสมมติว่า พลังประชารัฐไม่ส่งผู้ว่าฯ กทม. ค่าย ปชป.ก็พอจะยิ้มออก

 

‘ปชป.มีโอกาสฟื้น’

“สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” จะมีโอกาสชนะหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวแปรพลังประชารัฐ หรือกระแสลุงตู่ เพราะไปย้อนดูผลคะแนนเลือกตั้งปี 2562 เฉพาะสนามกรุงเทพมหานคร

 

พรรคอนาคตใหม่ ได้ อนาคตใหม่ 804,272 คะแนน ส.ส. 9 คน, พลังประชารัฐ ได้ 791,893 คะแนน ส.ส.12 คน (ลบออก 1 คน) ,เพื่อไทย 604,699 คะแนน ส.ส.9 คน(เพิ่ม 1 คน) และ ปชป. 474,823 ไม่ได้ ส.ส.

คะแนนกว่าครึ่งหนึ่งของพลังประชารัฐ มาจากแฟนคลับ ปชป. ที่นิยมชมชอบแคมเปญความสงบจบที่ลุงตู่ และไม่พอใจแคมเปญของอภิสิทธิ์

 

สำหรับการเลือกตั้งปี 2554 ปชป.ได้ 1,356,672 คะแนน ส.ส. 23 คน และเพื่อไทย1,246,057 คะแนน ส.ส.10 คน ซึ่งปีโน้น ยังไม่มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่

 

ดร.เอ้ หรือ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) อาจเปิดตัวช้ากว่าคู่แข่งตัวเต็ง อาจต้องพึ่งพาฐานเสียงของ ปชป.มากหน่อย

 

ลำพังวัดการหยั่งเสียงผ่านโพลหลายสำนัก ดร.เอ้คะแนนนิยมเป็นรองชัชชาติ หลายช่วงตัว ดังนั้น ดร.เอ้ชนะก็ต้องปลุกกระแสสปิริตชาว ปชป.ในเมืองหลวงให้กลับมา


‘ตัดเชือกสีส้ม’

อีกช่องทางหนึ่งที่ “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ค่าย ปชป.จะเบียดขึ้นมาได้ ก็คือ การแข่งขันกันดุเดือดของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

 

ไม่ว่า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะประกาศว่า ลงรับสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ แต่ชื่อของชัชชาติ ถูกผูกโยงกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และมีแนวโน้มว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่จะส่งผู้สมัคร ส.ก.ครบทุกเขต

 

นั่นเท่ากับเพื่อไทยหนุนชัชชาติไปโดยปริยาย และฝ่ายตรงข้าม ย่อมจะจับชัชชาติ ไปอยู่ในขั้วประชาธิปไตยหรือขั้วเดียวกับสีส้ม พร้อมหาทางโยงชัชชาติเข้าหาทักษิณ ชินวัตร และม็อบราษฎร

 

ส่วน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล อาจสร้างความผิดหวังให้กับกองเชียร์สีส้มจำนวนหนึ่ง เนื่องจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคตั้งสเปคไว้สูงมาก แต่พอกลายเป็นชื่อวิโรจน์ ก็มีเสียงบ่นเล็กๆ


สมัยวิโรจน์ เป็น ส.ส.ออกแนวบู๊ล้างผลาญ เมื่อลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็ชูสโลแกน หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ ซึ่งสอดรับกับบุคลิกปะฉะดะของเขา

 

ดังนั้น การแย่งคะแนนกันเองในฝ่ายประชาธิปไตย ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะชัชชาติ ไม่ใช่ผู้สมัครอิสระเพียวๆ หากแต่คลุกคลีอยู่กับเพื่อไทยมาหลายปี และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยด้วย

 

ถ้า สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ค่าย ปชป.งัดกลยุทธ์โดนใจชาวบ้านในโค้งสุดท้าย สถานการณ์การแข่งขันก็พลิกผันได้ตลอดเวลา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ