คอลัมนิสต์

เสือแค้นรอขย้ำ "ประยุทธ์" ฉากสุดท้ายพี่น้อง 3 ป.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรือเหล็ก 3 ป.รออับปาง "ประยุทธ์" เผชิญวิกฤตธรรมนัส พี่ใหญ่แอบซ้อนแผนดันพรรคเศรษฐกิจไทยเป็นเรือธงสมัยหน้า พลังประชารัฐรอวันปิดฉาก คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

เกือบ 8 ปี บนเส้นทางอำนาจ “ประยุทธ์” เดินทางมาพร้อมพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผ่านยุค คสช. มาถึงยุคนักเลือกตั้ง ส่อเค้าเรือเหล็ก 3 ป.จะอับปาง

 

กลเกมผู้กองธรรมนัสเล่นงาน “ประยุทธ์” สะบักสะบอมมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ต้องอาศัยบารมีบิ๊กป้อม หลอมรวมนักเลือกตั้งร้อยซุ้มพันก๊ก มาถึงปีนี้คงไปต่อลำบาก

 

พรรคใหม่ธรรมนัสส่งสัญญาณ “ประยุทธ์” กับสองพี่ใหญ่คงได้เวลาแยกทางกันเดิน หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า

 

หลังเหตุแผ่นดินไหวในพรรคพลังประชารัฐ สปอตไลท์การเมืองก็สาดจับไปที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งกำลังก่อการตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย และเล่นเกมต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี

วันที่ 20 ม.ค.2565 วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ในเวลานี้นายกรัฐมนตรีเหนื่อย รัฐบาลมีความสุ่มเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุการเมือง เรื่องจำนวน เสียง ส.ส. ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต้องรีบแก้ แต่แก้อย่างไร ตนไม่รู้

 

รองนายกฯวิษณุ ยังย้อนคำพูดเมื่อสองปีที่แล้ว รัฐบาลไม่ใช่เรือเหล็ก แต่เป็นเรือลำเล็ก และสนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อใน ไม่ได้มาจากฝ่ายค้าน

 

ค่ำวันเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ได้เดินทางไปเข้าพบหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งคาดว่าเป็นการหารือถึงปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐ

 

พล.อ.ประยุทธ์ มีทางเลือกไม่มากนักในสถานการณ์พรรคแตก เสียงแตก ไม่ยุบสภาก็ลาออก หรือหาทางประนีประนอม ปรับ ครม. เสนอเก้าอี้รัฐมนตรีให้กลุ่มธรรมนัส

‘จุดแตกหัก’

ดังที่รู้กัน สงครามเย็นในพลังประชารัฐ ได้เกิดขึ้นหลังศึกซักฟอกกลางปีที่แล้ว แม้ “ประยุทธ์” ต้องการจัดการกลุ่มกบฏให้เด็ดขาก แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังอุ้ม ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

 

เหตุการณ์ก่อกบฏ ได้ทำให้เกิดรอยร้าวภายในพี่น้อง 3 ป. ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงออกผ่านสื่อหลายครั้ง เพื่อย้ำความสัมพันธ์ของอดีตนายทหารที่มาจากบูรพาพยัคฆ์ ว่า “เหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน ร่วมเป็นร่วมตายกันมา ใครก็ทำลายไม่ได้ แม้มีคนเสี้ยมให้แตกกัน...”

 

ถ้าย้อนไปดูสาเหตุแห่งการก่อกบฏนั้น น่าจะมาจาก ร.อ.ธรรมนัส อดีตนายทหารรุ่นน้อง มีบุคลิกใจถึง พึ่งได้ จึงรวบรวมไพร่พลไว้พอสมควร ทั้งที่อยู่ในพรรคพลังประชารัฐ และต่างพรรค โดยเฉพาะกลุ่มพรรคเล็ก ต้องการให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี

 

ว่ากันว่า ตอนนั้น ร.อ.ธรรมนัส พุ่งเป้าไปที่ตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย เนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย ตกเป้าโจมตีจาก ส.ส.กลุ่มใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรคไม่ได้ประโยชน์อันใดเลย จากการที่บิ๊กป๊อกคุมมหาดไทย

 

นัยว่า ประมุขบ้านป่ารอยต่อก็แอบหนุนข้อเสนอของธรรมนัส แต่ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เล่นด้วย จึงเกิดเหตุการณ์ก่อกบฏกลางสภาฯ

 

‘ร้อยซุ้มพันธุ์นักเลือกตั้ง’

เนื่องจาก “ประยุทธ์” ลอยตัวเหนือพรรคพลังประชารัฐมาแต่แรก จึงฝากผีฝากไข้ไว้ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำให้เกิดเสียงนินทาว่า นายกรัฐมนตรีเหินห่างจาก ส.ส.พลังประชารัฐ

 

จริงๆแล้ว นับแต่วันก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ ไม่ต่างจากพรรคสหประชาไทย หรือพรรคสามัคคีธรรม มาถึงวันนี้ พลังประชารัฐก็กำลังย่ำรอยเดิมของพรรคทหารในอดีต

 

เกือบ 6 เดือนที่พรรคพลังประชารัฐ เผชิญหน้ากับการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบ ระหว่างกลุ่มไม่เอาธรรมนัส กับกลุ่มธรรมนัสและพันธมิตร

 

หัวขบวนฝ่ายไม่เอาธรรมนัส ประกอบด้วย สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ,สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ,สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ฯลฯ

 

เหตุพ่ายเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพรและสงขลา กลายเป็นจุดปะทุความขัดแย้งอีกรอบ เมื่อเสี่ยเฮ้งเปิดเกมรุกขับเลขาธิการพรรค ธรรมนัสกลับมาด้วยแผนเหนือเมฆ ประกาศพาพลพรรคออกไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย

 

แล้วความวุ่นวายก็มาเยือนรัฐนาวาประยุทธ์ เรือเหล็กที่ลอยลำกลางทะเล ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2557 ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เรือใกล้อับปาง เพราะสนิมเกิดแต่เนื้อในตน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ