คอลัมนิสต์

พ่ายยับ "พิธา" คนใต้สอนบทเรียนส้มสุดขั้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลือกตั้งซ่อมปักษ์ใต้ "พิธา" ปราชัยผิดคาด ทั้งสนามชุมพร-สงขลา คะแนนอนาคตใหม่หายไป 60% คนใต้สอนบทเรียนส้มสุดขั้ว ไม่ปรับตัว เสียหายหนักกว่านี้ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

แพ้สองสนามรวด “พิธา” ปลุกขวัญสมาชิกพรรคก้าวไกล เดินหน้าหาเสียงต่อ วัดใจคนกรุงเทพฯ ที่สนามหลักสี่ ปลายเดือน ม.ค.นี้

 

คนใต้ได้ให้บทเรียนแก่ “พิธา” เนื่องจากผลคะแนนที่ชุมพรและสงขลา ไม่เข้าเป้า แถมเปรียบเทียบกับคะแนนสมัยพรรคอนาคตใหม่ ปี 2562 คะแนนหายไปเกินครึ่ง

 

พรรคก้าวไกลยุค “พิธา” ถูกคนใต้บางกลุ่มจัดไปอยู่ในปีกซ้ายสุดโต่ง และเป็นแนวร่วมของขบวนการปฏิรูปสถาบันฯ ความนิยมจึงลดฮวบฮาบ

 

กลางดึกคืนวันที่ 16 ม.ค.2565 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมส่วนตัว pita.ig หลังจากทราบผลการเลือกตั้งที่ภาคใต้ “ลุยต่อที่จตุจักรหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ไม่ได้หวั่นไหวกับความพ่ายแพ้ แต่กลับเข้มแข็งกว่าเดิม”

 

ช่วงหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร และสงขลา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมด้วยชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และอำนาจ สถาวรฤทธิ์ ที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล รวมถึง ส.ส.ดาวสภาอย่าง อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ,รังสิมันต์ โรม, เบญจา แสงจันทร์ ต่างลงไปช่วยหาเสียงในพื้นที่กันอย่างคึกคัก

พรรคก้าวไกลคงไม่คาดหวังถึงขั้นชนะเลือกตั้ง แต่ต้องการปักธงความคิด อย่างน้อยควรได้คะแนนประมาณ 2 หมื่นคะแนนต่อเขต เพราะฐานเดิม ปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ ทำไว้เฉลี่ยหมื่นคะแนน

 

‘ชุมพรพ่ายยับ’

บทเรียนงูเห่าสีส้ม “พิธา” จึงต้องมีการกลั่นกรองผู้สมัคร ส.ส. โดยยึดเรื่องจุดยืนและอุดมการณ์การเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่คว้าใครก็ได้มาสมัครเหมือนสมัยพรรคอนาคตใหม่

 

สนามชุมพร เขต 1 พรรคก้าวไกล เลือก วรพล อนันตศักดิ์ วัย 25 ปี เป็นตัวแทนของเยาวชนคนรุ่นใหม่ มีพื้นเพเป็นชาว ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ลงเลือกตั้งซ่อมชุมพร เขต 1

 

วรพลร่วมงานมาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างเครือข่ายของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ และอดีตผู้ประสานงานประจำจังหวัดชุมพร นอกจากนี้ วรพลยังเป็นนักกิจกรรมรณรงค์ในพื้นที่ภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเลือกตั้งทั่วไป 24 มี.ค.2562 ชาญวิทย์ ใจสว่าง ลงสนามเขต 1 ชุมพร พรรคอนาคตใหม่ ได้ 10,347 คะแนน แต่เลือกตั้งซ่อม วรพล อนันตศักดิ์ ได้ 3,582 คะแนน หายไปจากเดิม 6 พันกว่าคะแนน

 

ตอนหาเสียง วรพลชูธงเฉดสีเดียวกับขบวนการสามนิ้ว แถมเจอคู่แข่งไปขุดโพสต์เก่าๆในเฟซบุ๊คมาขยายผล ทำให้มีกระแสต้านในเชิงลึก และไม่น่าแปลกใจที่วรพลได้แค่ 3 พันคะแนน

 

‘สงขลามือขวาพิธา’

สนามเลือกตั้งซ่อมสงขลา พรรคก้าวไกลคาดหวังไว้สูงพอควร เนื่องจากตัวผู้สมัคร ส.ส.เป็นมือขวา “พิธา” และมีประสบการณ์การเมืองภาคประชาชนมายาวนาน

พิธา ล่องใต้หาเสียงหนักแต่ก็พลาดเป้าไปเยอะ

ธิวัชร์ ดำแก้ว อดีตผู้ช่วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกวางโพสิชันนิ่งในเวทีเลือกตั้งซ่อม เขต 6 สงขลา เป็นมือขวาพิธา เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากคนรุ่นใหม่ในพื้นที่

 

หนุ่มชาว อ.สะเดาคนนี้ เป็นนักกิจกรรมมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเป็นกรรมการบริหาร สนนท.ในปี 2552 และเป็นเลขาธิการศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (YPD) กระทั่งมีพรรคก้าวไกล ธิวัชร์ได้เข้ามาร่วมทำงานในฐานะผู้ช่วยของพิธา

 

ฉะนั้น ขบวนการภาคประชาชนและเอ็นจีโอในภาคใต้ จึงช่วยหาเสียงและคาดหวังว่า ธิวัชร์น่าจะได้ 2 หมื่นคะแนนขึ้นไป

 

ตอนเลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ส่ง สัมพันธ์ ละอองจิตต์ ลงสนามเขต 6 สงขลา ได้ 11,966 คะแนน ส่วนธิวัชร์ ดำแก้ว ได้ 5,427 คะแนน สร้างความผิดหวังให้กับกองเชียร์สีส้มเป็นอย่างมาก

 

ความปราชัยทั้งชุมพรและสงขลา สะท้อนการทำงานของพรรคก้าวไกลในวันนี้ ทำให้หลายฝ่ายเปรียบเทียบกับพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ 2 ปีก่อน ที่มีความสดใหม่และมีความหลากหลาย ผู้คนจึงตอบรับค่อนข้างดีในภาคใต้

 

หาก “พิธา” ไม่สรุปบทเรียนจากชุมพรและสงขลา ยังเดินหน้าชูธงส้มจ๋า คู่ขนานขบวนการสุดโต่ง ต้นทุนเดิม 8 ล้านเสียง อาจจะหายไปเกินครึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ