เจาะลึก ปชป.ชนะ "เลือกตั้งซ่อม" ชุมพร-สงขลา ขณะที่พลังประชารัฐสะดุดล้มพ่าย
วิเคราะห์เจาะลึก ประชาธิปัตย์คว้าชัยได้ ส.ส.ทั้งสองเขต ทั้งในพื้นที่สงขลาและชุมพร เหตุใดพลังประชารัฐเกิดเครื่องสะดุด ทั้งที่ส่งธรรมนัสลงกรำศึก "ฐานเสียง -นโยบายของพรรค - อุดมการณ์ทางการเมือง" อะไรที่สามารถเอาชนะใจคนภาคใต้ได้ในที่สุด ติดตามได้ที่เจาะประเด็นร้อน
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.65 เวลาประมาณ 22.00 น. ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลาและส.ส.ชุมพร เขต 1 จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบว่าในพื้นที่เขต 1 ชุมพร นั้นพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนรวมอยู่ที่ 49,014 คะแนน พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนรวมอยู่ที่ 32,281 พรรคกล้าได้คะแนนรวมอยู่ที่ 7,591 คะแนน พรรคก้าวไกล ผลคะแนนรวมอยู่ที่ 3,582 คะแนน พรรคไทยศรีวิไลย์ คะแนนรวมอยู่ที่ 507 คะแนน
ส่วนพื้นที่เขต 6 สงขลานั้น ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนรวมอยู่ที่ 45,576 คะแนน พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนรวมอยู่ที่ 40,531 พรรคก้าวไกล ผลคะแนนรวมอยู่ที่ 5,427 คะแนน พรรคกล้า ผลคะแนนรวมอยู่ที่ 1,350 คะแนน และ พรรคพลังสังคม คะแนนรวมอยู่ที่ 123 คะแนน
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช วิเคราะห์ภาพรวม การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 6 สงขลา และ เขต 1 ชุมพร กับ "คมชัดลึก" โดยเฉพาะการลงพื้นที่หาเสียงของ 2 พรรคการเมืองใหญ่อย่าง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ พรรคประชาธิปัตย์ ที่กลายเป็นคู่แข่งขันกันในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เป็นการหาเสียงที่ดุเดือดเข้มข้นมาก เนื่องจากเป็นพรรคร่วมและ พรรคพลังประชารัฐต้องการเปิดพื้นที่การเมืองในภาคใต้ ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องการรักษาฐานภาคใต้เอาไว้ ต้องตรึงคะแนนเสียงเอาไว้เพราะเป็นพื้นที่สำคัญ ทำให้เห็นภาพการแข่งขันกันทางการเมืองของทั้งสองพรรคสูงมาก
ดังนั้น ในเวทีการปราศรัยหาเสียงในพื้นที่สงขลาและชุมพร ทั้งสองพรรคจึงมีประเด็นโต้ตอบกันอย่างรุนแรงและดุเดือดมาก เห็นได้จากการหยิบยกประเด็นเรื่องของคนรวย และเรื่องเงิน มากล่าวถึง โดยพรรคพลังประชารัฐเน้นว่าจะสามารถช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี การอยู่ดี กินดี นโยบายโครงการคนละครึ่ง หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มุ่งเน้นให้เลือกคนที่มีอุดมการณ์ คนที่อยู่ในพื้นที่ รับรู้และข้าใจปัญหาของประชาชน อยู่เคียงข้างประชาชนอย่างแท้จริง จึงจะสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้
แต่ในที่สุดผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการก็ปรากฏออกมาแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้งสองเขต
ปัจจัยสำคัญชนะเลือกซ่อม เขต 6 สงขลา
โดยในพื้นที่สงขลา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ คุณสุภาพร กำเนิดผล หรือ คุณน้ำหอม ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะ ก็เนื่องมาจากเพราะมีฐานเสียงสำคัญจากการเมืองระดับพื้นที่เพราะคุณสุภาพร ไม่ใช่คนหน้าใหม่ แต่เคยเป็นรองนายกฯ อบจ.สงขลามาก่อน และเป็นคนที่สัมผัสพื้นที่มายาวนาน ในการเมืองท้องถิ่น การได้รู้จักชาวบ้านในพื้นที่ก็เป็นจุดแข็ง และการชูประเด็น ส.ส.หญิงคนแรกของสงขลา ก็อาจมีส่วนช่วยด้วย
นอกจากนี้ คุณสุภาพรยังเป็นภรรยาของอดีตนายกฯ อบจ.สงขลา หรือ “นายกชาย” นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และเพิ่งรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุมการเลือกตั้งพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งนายกชาย เป็นคนที่คุมฐานเสียงที่ จ.สงขลาได้อยู่ไม่น้อย จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมถึงกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นที่ยอมรับของคนภาคใต้อยู่แล้ว
พปชร.แพ้เพราะอะไร
ส่วนปัจจัยที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐ พ่ายแพ้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ในทั้ง 2 เขตเลือกตั้งนั้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ ได้ปราศรัยหาเสียงเน้นให้คนภาคใต้เลือกคนรวย ซึ่งประเด็นนี้คนภาคใต้ไม่เอาด้วย เขาไม่เอาคนรวย แต่เขาต้องการคนที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง ประเด็นนี้อาจจะเป็นส่วนสำคัญให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะ
“ผมว่าคนภาคใต้โดยลักษณะทางสังคมวิทยา จะชอบคนซื่อสัตย์ ตรงไป ตรงมา และ ร.อ.ธรรมนัส ปราศรัยแบบนี้จึงเป็นผลลบกับผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ และเป็นการไปเพิ่มคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์”
ฉะนั้น การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะในพื้นที่สงขลา สะท้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงตรึงพื้นที่ได้ เพราะที่ผ่านมาพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ก็พ่ายแพ้ให้กับพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา และในการเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์ก็พ่ายแพ้ให้กับพรรคพลังประชารัฐไปหลายพื้นที่ด้วยกัน ชัยชนะครั้งนี้ก็จะช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ครองพื้นที่ภาคใต้ และกลับมาฟื้นฟูพรรคในพื้นที่ภาคใต้ได้อีกครั้ง
ปัจจัยสำคัญปชป.ชนะเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต1 ชุมพร
สำหรับพื้นที่เลือกตั้งจังหวัดชุมพร ที่ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ และสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างพรรคพลังประชารัฐได้นี้ รศ.ดร.ยุทธพร วิเคราะห์ว่า พื้นที่ชุมพรนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบอยู่แล้วเพราะมีฐานสำคัญกล่ม "พลังชุมพร" ซึ่งก็คือกลุ่มตระกูล "จุลใส" ที่คุมการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น และยังมีส.ส.ในเครือข่ายของตระกูลนี้ด้วยอีกทั้ง ที่นั่งเดิมนี้ก็เป็นของคุณ ลูกหมี-ชุมพล จุลใส และ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นญาติกันด้วย ดังนั้น เครือข่ายตระกูล “จุลใส” จึงมีกระบวนการขับเคลื่อนที่มีอิทธิพลเยอะมาก มีความเหนียวแน่นในพื้นที่มาก ผนวกกับความเป็นพรรคประชาธิปัตย์และตัวของนายอิสรพงษ์ด้วย จึงมีความได้เปรียบมากกว่าและนำมาสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ในที่สุด
“พรรคประชาธิปัตย์ยังครองเสียงชุมพรได้ สะท้อนว่าความนิยมในชุมพรยังมีอยู่ เพราะชุมพรเป็นพื้นที่เกรด A และบ่งบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงสามารถรักษาที่มั่นได้ ซึ่งมีผลต่อการเมืองภาคใต้ อนาคตของภาคใต้ การฟื้นฟูความนิยมในภาคใต้ ที่เขาครองกันมานานถึง 30 ปี ในยุคสมัยคุณชวน หลีกภัย เป็นต้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีพรรคกิจสังคม พรรคพลังใหม่ พรรคชาติไทยก็เคยมีส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้”
รศ.ดร.ยุทธพร ยังชี้ประเด็นเพิ่มเติมด้วยว่า อีกปัจจัยที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ได้ระดมแกนนำของพรรคมาช่วยในการปราศรัยหาเสียง ซึ่งก็มีส่วนช่วยได้มาก แม้จะไม่โดดเด่นและได้รับความนิยม ความเชื่อมั่น ความเชื่อถือ เหมือนแกนนำในอดีตของพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง คุณชวน หลีกภัย คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน คุณสุรินทร์ มาศดิตถ์ และคุณไตรรงค์ สุวรรณคีรี คุณวิทยา แก้วภราดัย คุณสุธรรม แสงปทุม ที่มีความคลาสสิกมากกว่าขุนพลรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ให้ คุณไตรรงค์ มาช่วยปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคด้วย นี่ก็อาจเป็นอีกจุดสำคัญที่ช่วยทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐแพ้การเลือกตั้งในพื้นที่เขต 1 ชุมพร ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐมีฐานเสียงที่ยังมีไม่มากพอเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ และนี่เป็นการบ่งบอกถึงฐานเสียงเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกลุ่มตระกูล "จุลใส" นั้น ยังเป็นกลุ่มการเมืองที่ประชาชนชาวชุมพรมอบความไว้วางใจให้จนส่งผลทำให้ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้