คอลัมนิสต์

"ทักษิณ"- พัลลภ คนกันเอง สัญญาณเตือนถึง เพื่อไทยกำลังโดน"รุกฆาต"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่วู้ดซัม สร้างความสัมพันธ์กลุ่มนั้นกลุ่มนี้โดยเลือกใช้คนเพื่อให้ตนถึงเป้าหมายทางการเมือง แต่ทว่ายามใดที่คนคนนั้นด้อยค่าหมดราคา คนแดนไกลก็พร้อมเขี่ยทิ้งอย่างไร้เยื่อใยและกำลังส่งผลร้ายมาถึงเพื่อไทย ติดตามเจาะประเด็นร้อน โดย เมฆาในวายุ

 

จังหวะของ"โทนี่ วู้ดซั่ม" ในวันนี้คงสภาพเดียวกับลีลาของ"ทักษิณ  ชินวัตร" เมื่อวันวานบนเวทีการเมืองคือ"มีสีสัน/มีผลกระทบ/มีแต้มต่อในบางจังหวะและบางครั้งก็โดนลบเหลี่ยมเสียเชิงไปแบบคาดไม่ถึง...."


แต่เหตุบ้านการเมืองช่วงนี้ชี้ชัดแล้วว่า "คนแดนไกล" พร้อมที่จะบัญชาการเกมการเมืองทั้งบนดินและใต้ดินเกี่ยวกับพรรคที่ตัวเองหนุนตั้งแต่ "ไทยรักไทย -พลังประชาชน -เพื่อไทย หรือจะนับรวมไทยรักษาชาติและเพื่อธรรมไปด้วยก็ได้"

 

ชายคนนี้ตราบจนสิ้นลมนั้น เชื่อเลยว่า"ไม่วางมือทางการเมือง"เป็นแน่แท้ แม้เจ้าตัวเคยลั่นวาจา"เลิกเล่นการเมือง"ไว้แล้วก็ตามในหลายปีก่อน แต่สุดท้ายใครๆก็รู้กันทั่วเมืองว่า "คนแดนไกลยังหลงในมนต์การเมืองและห่วงโซ่อำนาจ" เพราะแม้ตัวเองจะคุมเกมไม่ได้ แต่สายเลือดโดยตรงคือ "พานทองแท้ และแพรทองธาร ชินวัตร" ก็ถูกส่งมาเป็นตราประทับด้วยการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย  ส่วน"ทายาททางอ้อม"นั้นก็ถูกส่งมาร่วมเวทีการเมืองหลากรุ่น อาทิ "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์และครอบครัว/พายัพ ชินวัตรและครอบครัว/ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร/ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ "
 

ส่วนกลไกในพรรคนั้น "บริวารแวดล้อมของคนแดนไกลมีหลากชีวิต-หลายมุ้ง" หากใครฝ่าฝืนก็จะโดน"ลงทัณฑ์"หรือบางคนที่รับแนวนโยบายไม่ได้ก็ต้อง"ย้ายบ้านไปเสี่ยงชีวิตเอาเอง"  เพราะตอนนี้แม้แต่คนเก่าแก่หลายคนที่เคยร่วมงานกับคนแดนไกลและคณะ แม้บางคราวไปด้วยกันไม่ได้ก็แยกตัว แต่สุดท้ายก็คัมแบ็กรังเก่าในยามนี้และมีอีกหลายชีวิตที่จ่อจะกลับมาร่วมวงไพบูลย์กับเพื่อไทย

 

แต่ตอนนี้บางคำตอบที่เคยอำพรางไว้ก็โดนเผยให้สังคมค้นพบแล้วว่า "ใครหลายคน"ที่เคยโดนมารยาร้อยเล่มเกวียนของโทนี่ วู้ดซัมหลอกใช้ และเมื่อคราวสิ้นราคาก็โดนสลัดทิ้งอย่างไร้เยื่อใย  

 

 กรณี"พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี" คือ ตัวอย่างล่าสุด  โดยอดีตแกนนำ จปร.7คนนี้ ประกาศลาออกจากพรรคเพื่อไทยเป็นคนล่าสุด  ซึ่งพล.อ.พัลลภ ระบุว่า" ไม่ทราบสาเหตุและไม่แจ้งล่วงหน้า  ทราบตอนที่พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่ประจำปีที่จ.ขอนแก่น  ผมตั้งใจไปร่วมงาน แต่ลูกน้องโทรศัพท์แจ้งว่าถูกลบชื่อออก   และได้โทรศัพท์สอบถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทราบว่า ทักษิณให้ปลด ซึ่งงงมาก เพราะไม่ได้ทำอะไรให้..."

 

"ไม่ต่อสายคุย เพราะทราบว่าเขา(ทักษิณ)เป็นคนสั่งปลด พูดไปไม่มีประโยชน์  เมื่อปลดแล้วคือเขาไม่อยากได้เราก็แค่นั้น เขาเป็นเจ้าของพรรค แต่ก็ยังสงสัยว่าผมไปทำอะไร หากปรับทัพใหม่ เอาเด็กเข้ามา ผมไม่ว่าอะไร แต่นี่เอาผมออกคนเดียว ส่วนเหตุผลคงเป็นเรื่องในอดีต ที่เขาทำชั่วไว้เรื่องหนึ่งตอนเป็นนายกฯ และผมต้องรับผิดชอบ ผมจึงได้รับคำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ตั้งแต่นั้นจึงขัดใจ แต่งงว่า ทำไมมาปลดตอนนี้"   วรรคทองของ พล.อ.พัลลภ 


การเปิดเกมนี้ของพล.อ.พัลลภ  มองแล้วน่าจะเป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองอีกระลอกที่ใครบางคนหวังยืมไปใช้ปิดกล่อง   แต่หากไล่เรียงดีๆแล้วการที่จะล้มคนแดนไกลและพรรคเพื่อไทยให้ได้แบบหมัดเดียวน็อคนั้นต้องขยายผลให้ชัดเจนกว่านี้ ชนิดที่เรียกว่า"ปฏิเสธไม่ได้+ของกลางคามือ"

 

อย่าลืมว่าเกมสุ่มเสี่ยงในห้วงก่อนหน้านี้ที่ "โทนี่ วู้ดซั่ม" โดนลากว่ามีส่วนบงการพรรคเพื่อไทยนั้น "วิฑูรย์ งามบุตร" อดีตผู้แทนฯเมืองอุบลราชธานี จากพรรคประชาธิปัตย์ก็บอกชัดว่า ได้หารือกับ"เกรียง กัลป์ตินันท์" แกนนำพรรคเพื่อไทยภาคอีสาน โดยมีการหารือการมาร่วมงานกับเพื่อไทย และต่อสายตรงคุยกับคนแดนไกล เพื่อรับประกันว่า หากอดีตผู้แทนฯคนอุบลฯคนนี้พร้อมคณะย้ายมาร่วมงานกับเพื่อไทยด้วยนั้น  ตำแหน่งส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับไม่ต่ำกว่าลำดับที่30 แต่สุดท้ายดีลนี้ก็ล้มไป 

 

หรือแม้แต่งานเลี้ยงฉลองวันเกิด"เกรียง"ที่ย่านเหม่งจ๋ายเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คนแดนไกลได้ออนไลน์มาหยอกเย้าและให้กำลังใจคนร่วมงาน โดยคำถามหนึ่งที่"เกรียง"หยอดคนแดนไกลไปว่า"ขอให้คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ไหมเพราะจะเป็นแม่เหล็กดูดคนเก่าแก่กลับมา?" โดยคนแดนไกลตอบมาทำนองว่า " คุณหญิงพจมานไม่ชอบการเมืองที่สุด มีอายุมากเกินไป ปัจจุบันถึงเวลาและโอกาสของคนรุ่นใหม่แล้ว แต่อาจเป็นประธานที่ประชุมได้"

 

สามเรื่องข้างต้นที่คนแดนไกลเกี่ยวพันนั้น แน่นอนว่าบรรดานักร้องการเมืองขยับทันควัน (แม้บางเรื่องก็อาจเข้าเค้า บางเรื่องก็ไม่เข้าประเด็น แต่ที่แน่ๆต้องมีพยานหลักฐานแน่นพอที่จะบ่งชี้ได้ว่าคนแดนไกลมีส่วนบงการพรรคอย่างแท้จริง) เพราะการใช้ชื่อของคนแดนไกลมาเป็นหมากหนึ่งบนกระดานการเมืองมีสองนัยยะคือ

1.เพื่อไทยได้ประโยชน์ เพราะ"ตัวจริง-เสียงจริง"ในเพื่อไทยดีลเองกับคนการเมือง

 

 2.เพื่อเคลื่อนเกม "ยุบเพื่อไทย" เพื่อมิให้ภาวะ"แลนด์สไลด์"ตามคำฟุ้งของคนแดนไกลนั้นขยับ  แต่จะเล็งเห็นผลแล้วบรรลุวัตถุประสงค์ได้หรือไม่นั้นก็ต้องตามกันต่อไป  

 

แน่นอนว่าเลือกตั้งครั้งหน้า ส.ส.เขต400คน ปาร์ตี้ลิสต์ 100คนกับบัตรเลือกตั้งสองใบนั้น คนแดนไกลอ่านหมากแล้วว่า  ฐานคะแนนของเพื่อไทยนั้น ภาคอีสาน-ภาคเหนือตอนบนคือขุมกำลังหลัก บนโอกาสลุ้นเข้าวินคือ 70-80 เปอร์เซ็นต์  ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางบางส่วนคือพื้นที่60:40 (แปลว่ามีลุ้นชนะมากกว่าแพ้) ภาคตะวันออก+ภาคตะวันตก+ภาคกทม.นั้นตั้งราคาไว้ที่50:50  ส่วนพื้นที่แทบลุ้นไม่ขึ้นคือภาคใต้  แม้ใครบางคนจะโต้แย้งว่าการชนะ/แพ้ในระบบเขตนั้น ขึ้นอยู่กับผู้สมัคร-นโยบายพรรค-ฐานเสียงเดิมที่สะสมไว้-กระแสการเมืองในตอนนั้นก็ตาม

 

แต่คนแดนไกลและทีมงานที่คลุกคลีตัวเลข-สถิติเกี่ยวกับโพลราวยี่สิบปีจะไม่รู้เลยหรือว่า 400 เขตนั้น เพื่อไทยเข้าวิน-ได้ลุ้น-หวังเบียด-หมดสิทธิในเขตใดบ้าง   ส่วนระบบปาร์ตี้ลิสต์นั้น  คนแดนไกลมีชั่วโมงบินที่น่าจะอ่านออกแล้วว่า บางเขตนั้นชาวบ้านอาจหย่อนบัตรให้ส.ส.พรรคอื่นๆได้อันดับหนึ่ง  แต่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์น่าจะเทให้เพื่อไทย  และตัวเลขส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเพื่อไทยน่าจะแตะ1ใน3 หรือ 1ใน 4 จาก 100 ชีวิต แต่ต้องอยู่ที่สูตรผสมเพื่อให้คนการเมืองที่ต้องมีหน้าใหม่-หน้าเก่ามาคละเคล้ากันไปให้ลงตัว

 

ยิ่งมีกระแสข่าวลอยลมมาหลากทิศว่า ในวันข้างหน้า บางพรรคบนเรือเหล็กยามนี้อาจจะแตะมือกับเพื่อไทยตั้งรัฐบาล รวมทั้งบางขั้วในพลังประชารัฐก็พร้อมฝืนมติพรรค-ขัดคำสั่ง3ป.สวิงมายังขั้วเพื่อไทยโดยอ้างเป็นไปตามเสียงข้างมากและเป็นความต้องการของประชาชน

 

ทำนายการเมืองไว้กับสิ่งที่คนแดนไกลประเมินและวางแผนไว้บ้างแล้วกับหมากการเมืองว่า"จะสำเร็จ"  แต่ปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้และอาจจะส่งผลกับความฝันของคนแดนไกลให้ปลิวหายและทำให้คนการเมืองขั้วเพื่อไทยถึงฆาตก่อนเวลาอันควรทั้งที่ฝ่ายตัวเองเปิดเกมรุกบนกระดานการเมืองหรือไม่นั้น

คำตอบเดียวคือ ความคิด -จิตใจ-การกระทำ- วาจารวมทั้งบริวารแวดล้อมของคนแดนไกลนั่นเอง

logoline