คอลัมนิสต์

อ่านเกม "ธรรมนัส" สู้พรรคทักษิณ ซ่อนสูตรลับคนละครึ่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ก่อนเปลี่ยนศักราช "ธรรมนัส" กางยุทธศาสตร์เลือกตั้ง รู้เขารู้เรา รู้จักทักษิณดี เอาชนะได้ จึงซ่อนสูตรลับคนละครึ่ง ไม่หวั่น พท.แลนด์สไลด์ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ไม่กลัวเพื่อไทยแลนด์สไลด์ “ธรรมนัส” อ่านขาด พลพรรคทักษิณ ชินวัตร มีดีแค่เหนือตอนบนและอีสานเหนือ

 

แม่ทัพลุงป้อม “ธรรมนัส” มั่นใจเหนือตอนล่าง หลีกทางที่อีสาน ภาคกลางเรื่องของบ้านใหญ่ ลุยภาคใต้ห้ำหั่นกับ ปชป. และภูมิใจไทย

 

มองข้ามช็อต “ธรรมนัส” ขอเดินเกมคนละครึ่งกับทักษิณ หวังเปลี่ยนกระดานอำนาจ หลังเลือกตั้งสมัยหน้า

 

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้ง และอนาคตพรรคพลังประชารัฐ กล่าวโดยสรุป ผู้กองเมืองพะเยา ไม่หวั่นแคมเปญเพื่อไทยแลนด์สไลด์

 

ในฐานะอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย “ธรรมนัส” เคยช่วยคนดูไบหาเสียงเลือกตั้งมาหลายสมัย จึงกุมสภาพพื้นที่ความนิยมทักษิณของชาวบ้านได้ทะลุปรุโปร่ง

 

‘เหนือหารสอง’

“ธรรมนัส” กางแผนที่เลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.อยู่ในทุกภาค รวมถึง กทม. ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส.ส.หนาแน่นในภาคอีสานตอนเหนือ และภาคเหนือตอนบน ไม่มี ส.ส.ภาคใต้

สำหรับภาคเหนือตอนบน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พยายามจะยกผลคะแนนเลือกตั้ง จ.พะเยามาให้เห็นว่า ตัวเขาสู้เพื่อไทยได้สบายนั้น ในความเป็นจริง คนพะเยาก็รู้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ผู้กองคนดังชนะ

 

ส่วนผลเลือกตั้งลำปางไม่ใช่ตัวชี้วัดอะไร เป็นเรื่องเกมลับนอกสนาม เมื่อพินิจ จันทรสุรินทร์ ถอนตัวไม่ลงสมัคร ส.ส.ในนาทีสุดท้าย ชัยชนะจึงเป็นของธรรมนัส

 

ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัสและพลังประชารัฐ คงยากจะเบียดแทรกเข้าไปในสนามเชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ลำพูน, แพร่ และน่าน

 

ทักษิณ ชินวัตร ก็รู้สภาพดี จึงพยายามต่อสายหากลุ่ม ส.ส.พลังประชารัฐ ในภาคเหนือตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวราเทพ รัตนากร และกลุ่มบ้านใหญ่เมืองตาก เพื่อดึงคนเก่ากลับเพื่อไทย

 

เลือกตั้งสมัยหน้า สังเวียนภาคเหนือน่าจะเข้าข่ายโครงการคนละครึ่ง ระหว่างทักษิณกับธรรมนัส

 

‘ยึดสมรภูมิใต้’

จุดอ่อนของพลังประชารัฐ และ “ธรรมนัส” คือภาคอีสาน ขนาดเอกราช ช่างเหลา มือขวาผู้กองยังต้องส่งลูกชายคนเล็ก และคนสนิทไปสังกัดค่ายสีน้ำเงิน

ร.อ.ธรรมนัส บอกกับนักข่าวว่า สำหรับสังเวียนอีสาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้แบ่งโซนให้หัวหน้าภาคแต่ละคนไปดูแล และมอบผู้ใหญ่ไปคุมอีกที

ร.อ.ธรรมนัส และภรรยา ลงพื้นที่พะเยา

พักหลัง ร.อ.ธรรมนัส ล่องใต้ถี่ขึ้น เพราะทราบดีว่า กลุ่มแกนนำพลังประชารัฐภาคใต้เปลี่ยนยกทีม โดยทีมเพื่อน ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่ง สว. และ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ก็โบกมือลา พปชร.

 

ส.ส.ใต้ 13 คนของพลังประชารัฐนั้น ได้มาเพราะกระแสลุงตู่เป็นสำคัญ แต่ ร.อ.ธรรมนัส กลับมองว่า กระแสนั้นวูบไหว จึงเน้นปั้นตัวบุคคลที่มีฐานมวลชน โดยพุ่งเป้าไปนักการเมืองท้องถิ่น

 

ปลายปีที่แล้ว “ธรรมนัส” สนับสนุนทีมนายก อบจ. และ ส.อบจ.หลายจังหวัดในภาคใต้ ผลปรากฏว่า มีทีมที่ประสบชัยชนะยึด อบจ.ได้ 2 แห่งคือ สุราษฏร์ธานี และระนอง รวมถึงการดึงตระกูลธรรมเพชรแห่งพัทลุง เข้ามาอยู่ในค่าย พปชร.

 

ฉะนั้น สมรภูมิภาคใต้สมัยหน้า จึงขับเคี่ยวกันแค่ 3 พรรคคือ ประชาธิปัตย์,พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย โดยมีพรรคประชาชาติ แทรกเข้ามาได้เฉพาะพื้นที่ปลายด้ามขวาน

 

ภาพรวม “ธรรมนัส” คงประเมินว่า ค่ายทักษิณคงได้เก้าอี้ ส.ส.ไม่ต่างจากสมัยที่แล้ว โอกาสที่จะใช้นโยบายคนละครึ่ง ระหว่างพลังประชารัฐกับเพื่อไทย ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ