คอลัมนิสต์

ขุดรากถอนโคน "กัญชาลาว" นายกฯพันคำ ดับฝันสายเขียว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ยุทธการทลายแหล่งปลูก "กัญชาลาว" ดับฝันสายเขียว พันคำ วิพาวัน นายกฯฝั่งซ้าย เอาจริง ประกาศการปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติอันเร่งด่วน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ยุทธการขุดรากถอนโคน “กัญชาลาว” คือวาระแห่งชาติอันเร่งด่วน ตำรวจแขวงบอลิคำไซได้ดำเนินมาตรการตัดฟันต้นกัญชาและเผาทิ้งต่อเนื่อง

 

ดับฝันสายเขียว “กัญชาลาว” ไม่เสรีเหมือนข่าวร่ำลือ รัฐบาลฝั่งซ้ายสั่งทลายแหล่งปลูกกัญชาที่ใหญ่ที่สุด ใน 3 เมืองของแขวงบอลิคำไซ

 

ไม่มีนายทุนหรือนักการเมืองคนใดอุ้ม “กัญชาลาว” เมื่อพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด

 

พ.อ.กงจัน ไซปันยา ผู้บัญชาการตำรวจแขวงบอลิคำไซ เปิดเผยว่า นับแต่ปลายเดือน พ.ย. จนถึงเดือน ธ.ค.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจแขวง สมทบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอัยการแขวง ได้เข้าทำลายไร่กัญชาของประชาชนที่ลักลอบปลูกในพื้นที่ห่างไกล ในเขตเมืองคำเกิด, เมืองเวียงทอง และเมืองไซจำพอน รวมเนื้อที่ไร่กัญชาที่ถูกทำลาย 700 กว่าไร่ และตัดฟันกัญชาประมาณ 2 แสนต้น พร้อมจุดไฟเผาทิ้งทันที

 

กัญชายังเป็นยาเสพติดที่รัฐบาลลาว ดำเนินการปราบปรามมาโดยตลอด และไม่เคยมีนโยบายกัญชาเสรี เหมือนที่คนไทยบางกลุ่มเคยป่าวประกาศไว้

ดังนั้น “กัญชาลาว” จึงไม่เสรี ใครมีกัญชาไว้ครอบครองจะถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และรัฐบาลลาวก็ไม่เคยมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนปลูกกัญชาเหมือนข่าวลือข้ามโขง

 

‘กัญชาบอลิคำไซ’

เมื่อพูดถึง “กัญชาลาว” ที่ได้รับความนิยมในตลาดค้ายาเสพติด ก็ต้องยกให้กัญชาที่ปลูกใน 3 เมืองคือ เมืองคำเกิด, เมืองเวียงทอง และเมืองไซจำพอน แขวงบอลิคำไซ เนื่องจากภูมิประเทศของ 3 เมืองดังกล่าว จัดเป็นเขตภูดอย ติดพรมแดนลาว-เวียดนาม มีอากาศหนาวเย็น

 

ด้านหนึ่ง ชาวบ้านที่ปลูกกัญชา ส่วนใหญ่จะเป็นชาวม้ง และมีคนลาวลุ่มอยู่บ้าง โดยจะมีกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดมาซื้อไปทำกัญชาอัดแท่ง ก่อนจะส่งข้ามโขงผ่าน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

 

เฉพาะเมืองเวียงทอง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกัญชาที่ดีที่สุด และกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดมีความต้องการสูง ชาวบ้านบางกลุ่มจึงปลูกกัญชากันเป็นล่ำเป็นสัน

หลังการประชุมใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ท่านทองลุน สีสุลิด ได้รับเลือกเป็นประธานประเทศ สปป.ลาว ได้นำเสนอการปราบปรามยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติอันเร่งด่วน พร้อมกับมอบให้รัฐบาล ภายใต้การนำของ ท่านพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดทุกชนิด

 

กองบัญชาการตำรวจแขวงบอลิคำไซ จึงขานรับวาระแห่งชาติว่าด้วยการปราบปรามยาเสพติด ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงค้นหาพื้นที่เป้าหมายใน 3 เมือง และทำลายไร่กัญชาแบบถอนรากถอนโคน

 

‘ข่าวลือสายเขียว’

สองปีที่แล้ว ในหมู่สายเขียวเมืองไทยกล่าวขวัญถึง “กัญชาลาว” เยอะมาก มีข่าวลือนักการเมืองไทยไปจ้างปลูกกัญชาในลาว และข่าวรัฐบาลลาว ไฟเขียวตั้งโรงงานผลิตยารักษามะเร็งจากกัญชา

การทำลายไร่กัญชาที่เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ

ประกอบกับช่วงนั้น รัฐบาลประยุทธ์มีการแก้ไขกฎหมายยาเสพติด เพื่อนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ท่านทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีลาวสมัยนั้น ได้สั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ทำหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงป้องกันความสงบ และกระทรวงป้องกันประเทศ เพื่อทำความเข้าใจตรงกันสำหรับเรื่องกัญชา

 

1.มอบให้กระทรวงการต่างประเทศ ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องกัญชารักษาโรค ให้ละเอียดเสียก่อน จึงรายงานรัฐบาลรับทราบ

 

2.มอบให้กระทรวงป้องกันประเทศ และกระทรวงป้องกันความสงบ นครหลวงเวียงจันทน์ และบรรดาแขวง เอาใจใส่สกัดกั้นการลับลอบปลูกกัญชา และซื้อขายกัญชา ในห้วงเวลาที่ไม่มีกฎหมายรับรอง

 

3.ห้ามบุคคล นิติบุคคล เคลื่อนไหวทำกิจกรรมใดๆ เกี่ยวกับกัญชา และสิ่งที่ผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด

การทำลายไร่กัญชาที่เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ

สรุปว่า รัฐบาลลาวยังถือว่า กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และสั่งการให้แขวงปราบปรามการลักลอบปลูกกัญชา และซื้อขายกัญชา

 

แม้จะมีข้อเสนอสร้างโรงหมอรักษาโรคมะเร็งด้วยยาพื้นเมืองที่สกัดจากกัญชาเมื่อปี 2561 รัฐบาลลาวก็ไม่อนุญาตตามคำขอดังกล่าว

 

มาถึงปีนี้ การปราบปรามยาเสพติดกลายเป็นวาระแห่งชาติอันเร่งด่วน จึงได้เห็นยุทธการทลายแหล่งปลูกกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองลาว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ