คอลัมนิสต์

คลายปมลึกแผนฝึกคอบร้าโกลด์ 65 โดย รามจักร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

การฝึกคอบร้าโกลด์ ยังมีปมลึก จากการพบปะกันระหว่างผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯและไทย ก็ได้เปิดเผยข่าวว่าสหรัฐฯต้องการให้ไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ในการต่อต้านกับภัยคุกคามในภูมิภาคนี้ ซึ่งความหมายชัดชี้ไปที่ประเทศจีน ติดตามที่เจาะประเด็นร้อน โดย รามจักร

 

หลังสหรัฐฯประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เพื่อต่อต้านรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือแล้ว ก็ได้เพิ่มการกดดันทางการทหารในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

โดยเฉพาะความต้องการที่จะเข้ามามีบทบาทในกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเป็นศูนย์กลางของอินโด-แปซิฟิก โดยมีไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนอีกทีหนึ่ง


การขยายสถานกงสุลที่เชียงใหม่อย่างลึกลับและมีขนาดใหญ่โตลำดับต้นของโลกเกินความจำเป็นที่จะใช้ในการออกวีซ่าหรือการทำงานด้านวัฒนธรรม จนเป็นที่หวั่นเกรงว่าจะใช้เป็นศูนย์ข่าวกรองและปฏิบัติการทางการทหาร จากนั้นก็มีการขยายสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเทพฯที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับสถานทูตในเยอรมันซึ่งใช้เป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มนาโต้


ในขณะที่บุคคลสำคัญแทบทุกระดับของสหรัฐฯพากันหลั่งไหลเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อพบปะหารือกับฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายทหารอย่างต่อเนื่อง


กระทั่งล่าสุดการพบปะกันระหว่างผู้บัญชาการทหารสูงสุดของสหรัฐฯและไทย ก็ได้เปิดเผยข่าวว่าสหรัฐฯต้องการให้ไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ในการต่อต้านกับภัยคุกคามในภูมิภาคนี้ ซึ่งความหมายชัดชี้ไปที่ประเทศจีน

 

เป็นสถานการณ์เดียวกันกับที่สงครามกลางเมืองในพม่า ซึ่งอยู่ในเทศกาลหน้าแล้งและกองทัพพม่าโดยการช่วยเหลือด้านอาวุธจากรัสเซียและอิหร่าน ได้เคลื่อนพลเข้าต่อตีกับกองกำลังของฝ่ายอองซาน ซูจี โดยเฉพาะในแนวด้านตะวันออกของแนวท่อแก๊สพม่า-จีนจากยะไข่-ยูนนาน ซึ่งพม่าได้ขอให้จีนส่งกำลังทหารหนึ่งแสนคนเข้ามาดูแลท่อแก๊สนี้เพื่อไม่ให้ถูกวินาศกรรม


และแล้วเมื่อต้นสัปดาห์นี้ก็มีข่าวว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จะมีการฝึกคอบร้าโกลด์ในประเทศไทยระหว่างสหรัฐฯกับไทยและมิตรประเทศ โดยสหรัฐฯจะส่งกำลังทหารกว่า 10,000 คนพร้อมอาวุธหนักและชีปนาวุธรวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากเข้ามาใช้ในการฝึกด้วย และข่าวนี้ก็แพร่หลายทั่วไปโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มภูมิภาคซึ่งสนใจผลกระทบที่กำลังทหารจำนวนมากเคลื่อนเข้ามาในพื้นที่นี้
 

แต่ก่อนมาการฝึกคอบร้าโกลด์ สหรัฐฯจะส่งกำลังเข้ามาฝึกโดยทั่วไปแล้วไม่ถึง 1,000 คน มีบางปีเท่านั้นที่เกิน 1,000 คนเล็กน้อย ยกเว้นในปี 2557 ซึ่งเกิดวิกฤติทางการเมืองในประเทศไทย สหรัฐฯได้ส่งกำลังเข้ามาฝึกถึง 4,000 คนซึ่งนับว่ามากที่สุดแล้ว


ดังนั้น ข่าวการจัดส่งกำลังทหารกว่าหมื่นคนและอาวุธหนักจำนวนมากเข้ามาฝึกคอบร้าโกลด์ในปีนี้ จึงถูกประชาชนไทยจับตาด้วยความระแวดระวัง ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ก็จับตาอย่างใกล้ชิด
 เพราะเมื่อสหรัฐฯส่งกำลังทหารเข้ามากว่าหนึ่งหมื่นคน ประเทศไทยก็ย่อมต้องส่งทหารเข้าร่วมการฝึกในระดับที่ใกล้เคียงกัน

 

เมื่อรวมกับกำลังทหารจากมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกด้วยแล้ว ยอดรวมของกำลังทหารที่ฝึกซ้อมรบในประเทศไทยก็ย่อมมีจำนวนกว่าระดับสองหมื่นคน มากกว่ากำลังทหารของสหรัฐฯในอิรักและซีเรีย และต้องนับว่ามีกองกำลังทหารสหรัฐฯและประเทศที่เข้าร่วมในประเทศไทยมากที่สุดนับตั้งแต่สงครามเวียดนามสิ้นสุดลง
 

การที่มีทหารเข้ามาฝึกซ้อมรบในขณะที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศและการเสริมกำลังทางทหารในภูมิภาคนี้อย่างไม่หยุดยั้งนั้น ย่อมทำให้ทั้งรัสเซีย อิหร่าน จีน เกาหลีเหนือ รวมทั้งประเทศอาเซียนที่มีพื้นที่ติดกับประเทศไทย ไม่ว่าพม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ก็ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อความมั่นคงของประเทศของตนและย่อมทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคนี้สูงขึ้นโดยมีไทยเป็นศูนย์กลางของความตึงเครียดนั้น
 

ประวัติศาสตร์สงครามได้บอกไว้อย่างชัดเจนว่ากำลังทหารจำนวนมากที่เผชิญหน้าในสภาพที่มีความตึงเครียดเช่นนี้ อาจนำไปสู่สงครามที่ไม่คาดฝันได้
 

ยกตัวอย่างในยุคสงครามเซ๊กเพ็กในยุคสามก๊ก โจโฉยกกองทัพร้อยหมื่นไล่ตามตีกองทัพของเล่าปี่จากเมืองซินเอี๋ย-อ้วนเซีย เพื่อปราบเล่าปี่ให้ราบคาบ ในยามนั้นขงเบ้งได้วางแผนดึงกองทัพกังตั๋งเข้ารบกับโจโฉ เพื่อความปลอดภัยและการถนอมกำลังให้กับกองทัพเล่าปี่
 ขงเบ้งจึงกำหนดแผนการถอยทัพมุ่งโฉมหน้าไปยังเมืองกังเหล็ง โดยปล่อยข่าวว่าเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ มีผู้คนพรักพร้อม มีเสบียงอาหารที่ใช้สอยได้สิบปี และจะใช้เมืองกังเหล็งเป็นฐานที่ตั้งทำสงครามเชิงรับกับโจโฉ
 

โจโฉทราบข่าวก็ต้องการทำลายกองทัพเล่าปีเสียก่อนที่จะตั้งตัวได้ในเมืองกังเหล็ง จึงเร่งการตามตีโดยมิได้คำนึงว่าเมืองกังเหล็งนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนกับเมืองกังตั๋ง ซึ่งทางฝ่ายกังตั๋งได้ยินข่าวศึกเอิกเกริกอยู่ฝั่งเหนือแม่น้ำแยงซี จึงต้องสั่งเตรียมพร้อมรบเคลื่อนกำลังมาตั้งรับตลอดแนวฝั่งแม่น้ำแยงซี เตรียมพร้อมทั้งทัพบกและทัพเรือเพื่อป้องกันเมืองกังตั๋ง
 

ขงเบ้งนำทัพเล่าปี่ถอยหนีมาถึงเมืองกังเหล็งแล้วก็ลงเรือรบที่นัดหมายเล่ากี๋ให้มารับ หนีไกลไปตั้งหลักอยู่ที่เมืองกังแฮ ในขณะที่กองทัพของโจโฉและกองทัพของเมืองกังตั๋งตั้งเผชิญหน้าตรึงกำลังกันอยู่ และในที่สุดก็บานปลายกลายเป็นสงครามเซ๊กเพ็กที่โจโปแตกทัพเรือเสียไพร่พลไปหลายร้อยหมื่น
 

แต่ทว่าเมืองกังเหล็งก็พินาศวายวอดไปด้วยภัยสงคราม ดังนั้น คนไทยทั้งประเทศจึงต้องตั้งความระแวดระวังป้องกันบ้านเมือง อย่าให้มีสภาพเหมือนเมืองกังเหล็งเลย
 

ที่สำคัญกำลังทหารของรัสเซีย จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ พม่า ลาว และกัมพูชา ในปัจจุบันนั้นเหนือกว่ากองทัพกังตั๋งในยุคสามก๊กมากมายนัก มีหรือที่เมืองกังเหล็งจะไม่วอดวายกลายเป็นจุล
 ใครชักศึกเข้าบ้านในครั้งนี้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ