คอลัมนิสต์

"เลือกตั้งซ่อมชุมพร" พลังประชารัฐ ชักเข้า-ชักออก

"เลือกตั้งซ่อมชุมพร" พลังประชารัฐ ชักเข้า-ชักออก

24 ธ.ค. 2564

ประชุม3ครั้ง กรรมการบริหารพลังประชารัฐ แค่ตัดสินใจส่งผู้สมัคร "เลือกตั้งซ่อมชุมพร" สะบัดหนาว สะบัดร้อนไปทั้งพรรค

\"เลือกตั้งซ่อมชุมพร\" พลังประชารัฐ ชักเข้า-ชักออก

 

ดูเหมือนเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่าจะให้ความสำคัญกับเสียงเรียกร้องของสมาชิกพรรคในพื้นที่จังหวัดชุมพร จนนำมาสู่การตัดสินใจส่งชวลิต อาจหาญ ลงสู้ศึกเลือกตั้งเขต1 อีกครั้ง หลังจากถูกตัดหางมาก่อนหน้านี้   
การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งที่2 ที่รัฐสภามีมติส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 6สงขลาไม่ส่งเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ชุมพรได้รับการอธิบายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเกิดจากการพูดคุยกับ ชุมพล จุลใส อดีต สส.ที่ถูกสอยจะย้ายมาอยู่พลังประชารัฐในครั้งหน้า แต่ว่ามีข้อมูลใหม่ทำให้ต้องตัดสินใจทบทวนว่าเขาจะมาตามคำสัญญาหรือไม่ เพราะตระกูลจุลใส แนบชิดอยู่กับเลขาฯกปปส. และการไม่ส่งผู้สมัครที่มีคะแนนเกือบชนะลงแข่งขันเหมือนทิ้งโอกาสครั้งสำคัญในการแย่งชิงพื้นที่จากเจ้าถิ่น

\"เลือกตั้งซ่อมชุมพร\" พลังประชารัฐ ชักเข้า-ชักออก

ส่วนการเปิดตัวผู้อำนวยการเลือกตั้ง ทั้งที่ชุมพรและสงขลา ถูกตั้งข้อสังเกตว่าพลังประชารัฐส่งสุชาติ ชมกลิ่น และ สันติ พร้อมพัฒน์ ไปฆ่า ในพื้นที่ ที่ใครๆก็ดูออกว่าไม่มีทางชนะ เรื่องนี้ได้รับคำอธิบายว่าการมอบหมายในลักษณะนี้ เป็นเรื่องปกติที่เคยเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งซ่อมหลายๆครั้งที่ผ่านมา  หากใครยังจำได้ว่าการลงพื้นที่ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี      
ก่อนหน้านี้ทั้งสุชาติ และ สันติ ร่วมอยู่ในบรรดา รัฐมนตรี ที่ไปคอยให้การต้อนรับเกือบทุกพื้นที่เป็นแก๊งค์ 6 รัฐมนตรี ที่พลเอกประยุทธ์ เรียกเข้าพบในห้วงแห่งการรบช่วงชิงการนำ แย่งชิงอำนาจภายในพรรคพลังประชารัฐ เมื่อเดือนตุลา ก่อการรัฐประหารหัวหน้าพรรคแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในการล็อบบี้กรรมการบริหาร ซึ่งเป็นสูตรในการจัดการแก๊งค์สี่กุมารก่อนหน้านี้

กำหนดการรับสมัคร เลือกตั้งซ่อมสงขลา ชุมพร สิ้นสุดวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ยังไม่รู้ว่าจะมีประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐครั้งที่สี่หรือไม่  การประชุมสามครั้งที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่ากำลังมีปัญหาอย่างหนักเรื่องเอกภาพภายในพรรค  ยังไม่ต้องพูดถึงปัญหาการส่งผู้สมัครเลือกซ่อม ส.ส.กทม.เขตหลักสี่  เพราะจนป่านนี้ ก็ยังไม่มีการตัดสินใจจะส่งผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคพลังประชารัฐหรือไม่