
ทิศทางพัฒนา สายตาหมอพลเดช “ปฏิรูปเศรษฐกิจยุคโควิด”
สถานการณ์โควิด-19 ทำลายระบบเศรษฐกิจของทุกประเทศในโลกรวมทั้งประเทศไทย ธนาคารโลกและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประเมินความรุนแรงของผลกระทบสำหรับประเทศไทยว่าหนักยิ่งกว่าวิกฤติ “ต้มยำกุ้ง” ปี 2540 ติดตามได้จากเจาะประเด็นร้อน โดย พลเดช ปิ่นประทีป
สถานการณ์โควิด-19 ทำลายระบบเศรษฐกิจของทุกประเทศในโลกรวมทั้งประเทศไทย ธนาคารโลกและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประเมินความรุนแรงของผลกระทบสำหรับประเทศไทยว่าหนักยิ่งกว่าวิกฤติ "ต้มยำกุ้ง" ปี 2540
การติดตาม เสนอแนะและเร่งรัดการดำเนินงานของแผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ เต็มไปด้วยปัญหา อุปสรรคและความท้าทาย ทำให้ต้องมีการติดตามประเมินปัญหาผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิดและปรับปรุงมาตรการและแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของแผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจยังถือได้ว่าเป็นกรอบการพัฒนาที่มีคุณค่า หน่วยงานสามารถปรับประยุกต์ในสถานการณ์โควิดได้เป็นอย่างดี
เป้าหมายของแผนนี้ มี 3 ประการ ได้แก่
1)ยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
2)กระจายความเจริญและความเข้มแข็งของภาคสังคม
3)ปรับบทบาท โครงสร้าง กลไกสถาบันบริหารจัดการเศรษฐกิจ
ส่วนตัวชี้วัดเป้าหมาย มี 4 อย่าง คือ
1)GDP 2.5%
2)อันดับความสามารถแข่งขันเป็นที่ 25 ของโลก IMD top 25
3) ค่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค(Gini Coefficient)เท่ากับ 0.41
4)อันดับประสิทธิภาพภาครัฐเป็นที่ 2 ของอาเซียน IMD top 2
ซึ่งข้อมูลความก้าวหน้าจากรายงานของรัฐบาลในรอบ มกราคม-มีนาคม 2564 พบว่าใกล้เคียงเป้าหมาย
1)GDP 1.66(ปี2562)
2)อันดับการแข่งขันของประเทศเป็นที่ 29 (ปี 2563)
3)ระดับความเหลื่อมล้ำ วัดจากค่าสัมประสิทธิ์จีนี เท่ากับ 0.420 (ปี 2562)
4)อันดับประสิทธิภาพภาครัฐอยู่ที่ 23 ของโลก และเป็นที่ 2 ของอาเซียน (ปี 2563)
สำหรับแผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจที่ปรับปรุงใหม่ กำหนดให้มีประเด็นสำคัญที่มีผลกระทบสูง 5 เรื่องและกฎหมาย 7 ฉบับ ดังนี้
1.การสร้างเกษตรมูลค่าสูง มีตัวชี้วัดเป้าหมาย คือ 1) GDP เกษตรขยายตัว 3.8% 2)มูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูป- เกษตรชีวภาพ-เกษตรเทคโนโลยี เป็น 20% 3)รายได้เงินสดสุทธิทางเกษตรเพิ่ม 5%ต่อปี
2.การท่องเที่ยวคุณภาพสูง มีตัวชี้วัดเป้าหมาย คือ 1)ค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อวันเพิ่ม 10%ต่อปี 2)รายได้ท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่ม 10%ต่อปี 3)ลำดับการแข่งขันท่องเที่ยวสุขภาพ ปลอดภัยและยั่งยืนสิ่งแวดล้อมของWEFอยู่ในกลุ่ม Top 50
3.โอกาส SMEในอุตสาหกรรมเป้าหมาย มีตัวชี้วัดเป้าหมาย คือ 1)GDP-SME 42 % 2)อันดับการใช้เทคโนโลยี IMD อยู่ใน Top 36 3)มูลค่าการค้าอิเล็คทรอนิคSME เพิ่ม 1 เท่าตัว 4)Start Up เกิน 30 ล้าน เพิ่มขึ้น 20% ต่อปี
4.ศูนย์การค้าการลงทุนของภูมิภาค มีตัวชี้วัดเป้าหมาย คือ 1)อันดับความยากง่ายการประกอบธุรกิจ WB Top 20 2)จำนวนกิจการศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ เพิ่ม 20% ต่อปี 3)มูลค่าลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ Top 3 ของอาเซียน
5.การพัฒนาศักยภาพคน มีตัวชี้วัดเป้าหมาย คือ 1)คะแนนความสามารถพัฒนาทุนมนุษย์ WEF เพิ่ม 20%ต่อปี
6.การปรับปรุงกฎหมาย มีตัวชี้วัดเป้าหมายกฎหมาย 7 ฉบับ ได้แก่ 1)พรบ.คนเข้าเมือง 2522 2)พรบ.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 2560 3)พรบ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 2542 4)ร่างพรบ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ พ.ศ...5)ร่างพรบ.ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ...6)พรบ.ภาษีสรรพากร 2560 7)พรบ.การผังเมือง 2562
มีข้อเสนอแนะส่วนตัวจากผู้รายงานว่าควรเพิ่มตัวชี้วัดที่ประชาชนอยากรู้ เช่น
1) ฐานข้อมูลกลางของเกษตรแปลงใหญ่ทั่วประเทศ ศูนย์เรียนรู้สมาร์ทฟาร์มเมอร์ เกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ
2) สถิตินักท่องเที่ยวในประเทศและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศโดยเฉพาะท่องเที่ยวด้านสุขภาพ
3) ฐานข้อมูลกลางสินค้าและบริการSME
4)สถิติการนำเข้าสินค้าประเภทอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และสินค้าด้านความมั่นคง
5) โครงการOne Country One Platform(OCOP) ไปถึงไหน 6) ผลงานประจำปีของสำนักงานบูรณาการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ 7) เงินงบประมาณในรอบปี ที่ใช้เยียวยาและฟื้นฟูจากโควิด
.................................................................................
Key Message
รายงานปฏิรูปประเทศ โดย ส.ว.พลเดช ปิ่นประทีป
-ฐานข้อมูลกลางเกษตรแปลงใหญ่-ศูนย์เรียนรู้สมาร์ทฟาร์มเมอร์-เกษตรอินทรีย์
-สถิตินักท่องเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวสุขภาพชาวต่างประเทศ
-ฐานข้อมูลกลางธุรกิจSME
-สถิติการนำเข้าสินค้าประเภทอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค
-โครงการ OCOP – One Country One Platform
-ผลงานแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ การเยียวยาและฟื้นฟูจากโควิด