คอลัมนิสต์

ส่องสามสนามเลือกตั้งซ่อมส.ส. เวทีใดเเข่งเดือด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นี่คือศึกศักดิ์ศรีของพรรครัฐบาล-พรรคฝ่ายค้าน-พรรคน้องใหม่ที่ต้องเก็บแต้มและเช็กเรตติ้งขั้นต้นก่อนที่ไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ติดตามจากเจาะประเด็นร้อน โดย เมฆาในวายุ

 

กลางเดือนจนถึงปลายเดือนมกราคมปีหน้าจะมีการเลือกตั้งซ่อมส.ส. ทำให้หลายพรรคต้องเปิดยุทธศาสตร์ปักธงชนิดยอมกันไม่ได้  ทั้งการเตรียมเลือกตั้งซ่อมส.ส.สามเขต คือชุมพร เขต1หย่อนบัตรเลือกส.ส.แทน "ชุมพล จุลใส" ,สงขลา เขต 6 ลงคะแนนเลือกผู้แทนฯหลังไม่มี "ถาวร เสนเนียม" ( สองเขตนี้หย่อนบัตร 16 ม.ค.2565) กทม.เขต9ที่ต้องเลือกตั้งซ่อมแทน"สิระ เจนจาคะ" จากพปชร.นั้น(เขตนี้น่าจะหย่อนบัตรช่วงปลายเดือนม.ค.-ต้นเดือนก.พ.2565)  ศึกนี้คือศึกศักดิ์ศรีของพรรครัฐบาล-พรรคฝ่ายค้าน-พรรคน้องใหม่ที่ต้องเก็บแต้มและเช็กเรตติ้งขั้นต้นก่อนที่ไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ 

 

พื้นที่"ชุมพร"นั้นแน่นอนตอนนี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ประชันกับพรรค พปชร.ที่เพิ่งมีมติกลับลำเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ให้ส่งนายชวลิต อาจหาญ หรือทนายแดง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 ซึ่งในการเลือกตั้ง 24มี.ค.2562  ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 รองจากชุมพล จุลใส หรือ ลูกหมี ที่ครั้งนั้นสังกัดค่ายประชาธิปัตย์ แต่เมื่อถูกตัดสิทธิทางการเมือง ปชป.จึงส่ง อิสระพงษ์ มากอำไพ มาเป็นมวยแทน พร้อมเผชิญกับคู่แข่งขันจาก พรรคกล้าและก้าวไกล อีกด้วย  

 

เขตนี้มองแล้ว"อิสระพงษ์  มากอำไพ" มวยแทนอดีตส.ส.ลูกหมี จากปชป.น่าจะเบียดเข้าวิน แม้แกนนำปชป.อาจช่วยไม่เต็มสูบแต่เชื่อว่าตระกูลจุลใสไม่ปล่อยให้คนอื่นมาคว้าพุงปลาไปกินเป็นแน่แท้และอาจเป็นไปได้ที่การช่วยเหลือแบบใต้ดินจากพปชร.จะส่งไปให้ตระกูลจุลใสในคราวนี้เพื่อเคลียร์รันเวย์ในการย้ายขั้วคราวหน้าเพราะ อิสระพงษ์จะเป็นหนึ่งในทีมงาน"ลูกช้าง-ลูกหมี"ที่จะมาแตะมือพปชร.ตามสัญญาใจที่ให้ไว้กับพลเอกประวิตร

พื้นที่ชุมพร เขต 1 จึงเป็นอะไรที่มีความสลับซับซ้อนกันอยู่ระหว่างเครือข่ายเจ้าของพื้นที่เดิมที่ว่ากันว่าจะย้ายไปอยู่กับพลังประชารัฐ ในขณะที่พลังประชารัฐก็ยับยั้งใบลาออกของชวลิต อาจหาญ หรือ ทนายแดง ในตอนต้นพร้อมกับมาเปลี่ยนใจกระทันหันส่งลงชิงชัย

 

ส่วน"สงขลา"นั้น พรรคกล้า-พรรคสีฟ้า-พรรคสีส้มเวอร์ชั่นสอง รวมทั้งพปชร.ส่งคนลงแข่งขัน โดยตัวเต็งน่าจะอยู่ที่พลังประชารัฐประชันปชป. โดยพรรคสีฟ้าส่ง"สุภาพร กำเนิดผล" รองนายกอบจ.สงขลา ชนกับ "อนุกูล พฤกษาอนุศักดิ์" สวมเสื้อพรรคพปชร. แต่พรรคแกนนำเรือเหล็กเปลี่ยนผอ.เลือกตั้งซ่อมจากเดิมที่"ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า" เลขาธิการพรรครับเหมาดูแลการเลือกตั้งซ่อมมาหลายครั้ง แต่งวดนี้พ่อบ้านพปชร.ส่งไม้ให้"สุชาติ ชมกลิ่น" รมว.แรงงานและคีย์แมนพรรคคนละสายกับผู้กองคนดังไปรับผิดชอบ เพราะทราบดีว่าผู้กองคนดังใกล้ชิด"เดชอิศว์ ขาวทอง" ส.ส.สงขลา พรรคปชป.ที่ตอนนี้เป็นรองหัวหน้าพรรคคุมภาคใต้ไปแล้ว  คงไม่อยากปะทะกันเอง และบนเกมการเมืองภายในพปชร.ยามนี้ก็ยิ่งลึกกว่าลึกเพราะเสี่ยเฮ้งขึ้นตรงกับ"ลุงตู่" แต่พ่อบ้านพปชร.อยู่สาย"ลุงป้อม" ดังนั้นหาก"เสี่ยเฮ้ง"ปักธงไม่ได้(พปชร.มีส.ส.สงขลาสี่คน) ก็จะกลายเป็นตราบาปไป และเขตนี้น่าจะฟัดกันสนุกระหว่าง พปชร.-ปชป.และการวัดบารมีของเสี่ยเฮ้ง-ผู้กองคนดัง

 

ขณะที่"กทม."นั้น หลัง"สิระ" พ้นหน้าที่ส.ส.จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และส่อแววโดนตัดสิทธิทางการเมืองและมีคดีตามมาอีก ตอนนี้พบว่าค่ายพลังประชารัฐจะโยก"สรัลรัศมิ์  เจนจาคะ"มาเสียบแทน  อย่างไรก็ตามน่าจะประชันกับ"สุรชาติ เทียนทอง" อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย รวมทั้ง"พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ" จากปชป. เพราะสองคนนี้เคยแพ้สิระในงวดที่แล้ว และเมืองหลวงนั้นจะมีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในช่วงกลางปีหน้าด้วย  

 

สนามนี้คือดัชนีชี้วัดคะแนนนิยมในขั้นต้นของการเลือกตั้งส.ส.งวดหน้า ดังนั้นสามพรรคข้างต้นน่าจะมีชื่อว่าที่ผู้สมัครส.ส.ไม่พ้นสามคนนี้และรอดูว่าพรรคกล้า-พรรคก้าวไกล-พรรคไทยสร้างไทยจะส่งคนแข่งขันหรือไม่ (พรรคไทยสร้างไทยน่าจะหลีกในพื้นที่นี้เพราะสุรชาติเคยเป็นร่วมทำงานกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในช่วงที่คุณหญิงหน่อยเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย)

 

สนามเลือกตั้งซ่อมผู้แทนฯทั้งสามเขตนั้น หากให้ฟันธงแล้วพบว่าสงขลา-กทม.น่าจะสู้กันเดือด....ส่วนชุมพรนั้นชิลล์ๆกันไป
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ