
ส่องจังหวะไทยสร้างไทย "คุณหญิงหน่อย"ไปไกลแค่ไหน อะไรคือปัจจัยบ่งชี้
สิ่งสำคัญที่น่าพินิจคือการทำงานการเมืองนั้น "ทุน"ทั้งบนดินและใต้ดินคือปัจจัยสำคัญ แม้ดีกรีของ"คุณหญิงหน่อย"จะขายได้แบบติดท็อปไฟว์นักการเมืองที่คนไทยรู้จักก็ตาม แต่...ติดตามได้ที่เจาะประเด็นร้อน โดยเมฆาในวายุ
"คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย ควงแขนแกนนำพรรค เช่น "วัฒนา เมืองสุข โภคิน พลกุล ต่อพงษ์ ไชยสาสน์" ปล่อยขบวน "คาราวานสร้างไทย77จังหวัด" โดยใช้ฤกษ์วันที่ 10 ธันวาคม (วันรัฐธรรมนูญ) ที่ผ่านมา เปิดตัวในกทม.เป็นปฐมฤกษ์และเริ่มตระเวนทั่วไทย
กางปฏทินลงพื้นที่ ตั้งแต่นนทบุรี ตามด้วย นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 12-14 ธ.ค. เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนของคนไทยทั่วประเทศเพื่อผลิตนโยบายพรรค(ช่วยคนตัวเล็ก(เอสเอ็มอี) /ช่วยเกษตรกร(ชาวนา)/ สร้างนวัตกรรมใหม่หลากด้าน(คนรุ่นใหม่) /บำนาญประชาชนสามพันบาท /กองทุนคนตัวเล็ก /ลดรัฐราชการอำนาจนิยม)
"20 ชีวิต สมาชิกผู้แทนราษฎรทั้งสองระบบคือตัวเลขขั้นต้นที่เซียนการเมืองให้ราคาพรรคนี้กับการเลือกตั้งงวดหน้า"
เพราะการแยกตัวมาตั้งพรรคเองในครั้งนี้ "คุณหญิงหน่อย"บอกว่าจะสร้างพรรคเป็นสถาบันการเมืองและเป็นพรรคสุดท้ายที่จะสังกัด โดยรวบรวมสมาชิกพรรคที่เคยเป็นอดีตส.ส.( อาทิ น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตส.ส.กทม.) และอดีตส.ก.ในปีกของตัวเอง ( เช่น ประพนธ์ เนตรรังษี)และทาบทามคนการเมืองพรรคต่างๆ(ที่ยังว่างงานในตอนนี้ อาทิ สมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย อดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่)มาแตะมือและยังรวบรวมคนรุ่นใหม่ที่ไปแทคทีมสมัยพรรคเพื่อไทยให้มาร่วมสังกัดในคราวนี้ด้วย
การแยกตัวมาตั้งพรรคเองนั้น เป็นที่ทราบทางการเมืองว่า"คุณหญิงหน่อย"ยังมีสัมพันธ์ที่ดีกับนายใหญ่ดูไบ แต่กับคนอื่นๆในพรรคและสายจันทร์ส่องหล้านั้นคล้ายว่าสายสัมพันธ์ยังไม่ดีเท่าที่ควรและเมื่อแนวคิดไม่ลงตัว การร่วมงานก็ต้องยุติแล้วเริ่มเส้นทางใหม่
โดยพรรคไทยสร้างไทย เน้นจังหวัดที่มีอดีตส.ส.เป็นตัวยืน เช่น พงศกร อรรณพพร แห่งขอนแก่น (พงศกรยังมีเครือญาติเป็นส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทยในตอนนี้ ) ทองหล่อ พลโคตร แห่งมหาสารคาม/ อุดมเดช รัตนเสถียร แห่งนนทบุรี/ สาคร พรหมภักดี แห่งสกลนคร และแกนนำพรรคยังไปพื้นที่ต่างๆที่พอมีแววได้ลุ้นแต้ม และรอติดตามว่า ส.ส.ปัจจุบันที่ใกล้ชิด"คุณหญิงหน่อย" เช่นน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ/การุณ โหสกุล แห่งเพื่อไทย รวมทั้งพรรคอื่นๆจะย้ายสังกัดในช่วงท้ายรัฐบาลเรือเหล็กหรือไม่
ฐานคะแนนที่ไทยสร้างไทยหวังไว้นั้น มองแล้วคือคนรุ่นใหม่(ที่ไม่นิยมพรรคก้าวไกล ) นักธุรกิจรุ่นใหม่และชนชั้นกลางในเมือง(ที่ไม่ชอบพรรคขั้วรัฐบาลในตอนนี้และไม่ให้ใจกับพรรคเพื่อไทยเต็มร้อย) เกษตรกร (เขตที่อดีตส.ส.ต่างจังหวัดมีลุ้น)
รวมทั้งคนที่ชอบบทบาทของ"คุณหญิงหน่อย" หากสังเกตดีๆฐานเสียงที่"คุณหญิงหน่อย"หวังใจไว้นั้น คล้ายทับซ้อนกับพรรคกล้า และพรรคใหม่ๆที่กำลังก่อร่างสร้างตัวในช่วงนี้ และแชร์แต้มจากอดีตพรรคต้นสังกัด (การดีลคนการเมืองที่ยังว่างงานในตอนนี้มาร่วมสังกัด หากเจาะลึกๆจะพบความจริงว่า แท้จริงแล้วพรรคไทยสร้างไทยนั้น บางเขตหวังได้ส.ส./ บางเขตหวังคะแนนปาร์ตี้ลิสต์(เงื่อนไขนี้มีโอกาสกว่า) )
ส่วนสนามเมืองกรุงนั้น ผู้สมัครส.ก.หลายเขตคือสิ่งที่ไทยสร้างไทยส่งแข่งขัน นัยว่าหาคะแนนนิยมเบื้องต้นที่แท้จริงไว้เป็นสถิติ หากใครทะลุปักธงได้ถือว่ากำไรเด้งที่สอง
ส่วนผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.นั้นหากมองจังหวะตอนนี้ "คุณหญิงหน่อย" กำลังประเมินสถานการณ์ชนิดสิบแปดตลบ
มิแปลกที่การให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา จึงเป็นไปในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้
"ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เมื่อไหร่ หากมีความชัดเจน พรรคจะส่งใครชิง จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง หากจะสนับสนุนหรือทำอะไรต้องส่งนามในพรรคไทยสร้างไทยเท่านั้น เราต้องตรงไปตรงมากับประชาชน ถ้าจะส่งต้องส่งในนามพรรคไทยสร้างไทย"
คุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หรือไม่
เหนือสิ่งอื่นใด ที่ควรนำพินิจพิเคราะห์อย่างยิ่ง การทำงานการเมืองนั้น "ทุน"ทั้งบนดินและใต้ดินคือปัจจัยสำคัญ แม้ดีกรีของ"คุณหญิงหน่อย"จะขายได้แบบติดท็อปไฟว์นักการเมืองที่คนไทยรู้จักก็ตาม แต่ "โอกาสบนสนามการเมือง"คือสิ่งสำคัญที่ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการคิดหนักสำหรับทุนที่จะหนุนนำ
เนื่องจาก"ฐานคะแนนหลัก"ของคุณหญิงหน่อย "ทับซ้อน"กับพรรคเพื่อไทยอย่างเลี่ยงไม่ออก และยิ่งนายใหญ่แดนไกลส่งลูกสาวคนเล็ก"แพรทองธาร ชินวัตร"มาเป็นคีย์หลักสำหรับแคมเปญ "เพื่อไทยแลนด์สไลด์" ยิ่งเหนื่อยหนักสำหรับไทยสร้างไทย
เพราะทุนจะต่อยอดทางการเมืองได้หลากรูปแบบ (หลักๆคือการทาบทามคนการเมือง-คนหน้าใหม่มาร่วมพรรค รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายแคมเปญหาเสียงในแต่ละพื้นที่ทั้งบนดินและใต้ดิน)
ดังนั้น"ทุน"จึงเป็นปัจจัยหลักที่คุณหญิงหน่อยต้องแก้โจทย์ให้ได้(คนการเมืองมองว่าน่าจะแก้โจทย์ยากเพราะหากให้เลือกหนุนนั้น พุ่งเป้าไปที่สองพรรคใหญ่คือเพื่อไทย-พลังประชารัฐ น่าจะเวิร์คกว่า)หากจะเดินให้สะดวกบนเส้นทางการเมืองในยามหน้า