คอลัมนิสต์

มนต์เสื่อม "ชลน่าน ศรีแก้ว" ฟื้นกระแสทักษิณ ทวงแชมป์ภาคกลาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทวงแชมป์ภาคกลาง "ชลน่าน ศรีแก้ว" พา ส.ส.รุ่นใหม่ลุยท้องนาอยุธยา ปั้นนโยบายเกษตรชุดใหม่ ปลุกกระแสทักษิณ หวังโดนใจชาวนาเหมือนจำนำข้าว คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

เพื่อไทยลุยภาคกลาง “ชลน่าน ศรีแก้ว” ลงพื้นที่ซับน้ำตาชาวนาอยุธยา ปั้นนโยบายเกษตรชุดใหม่ หวังกระชากเรตติ้งเหมือนจำนำข้าว

 

เลือกตั้งครั้งที่แล้ว “ชลน่าน ศรีแก้ว” คงรู้ว่าเพื่อไทยเสียแชมป์ ส.ส.ภาคกลาง เนื่องจากกลุ่มบ้านใหญ่ย้ายไปสังกัดพรรคอื่น แถมประชานิยมทักษิณไม่ขลังเหมือนในอดีต

 

โจทย์ใหญ่ของ “ชลน่าน ศรีแก้ว” หากหวังเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ก็ต้องเอาชนะที่สนามภาคกลาง เพราะมีจำนวน ส.ส.สูสีกับภาคอีสาน

 

วันที่ 6 ธ.ค.2564 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยกคณะ ส.ส.รุ่นใหม่พร้อมด้วยผู้แทนเจ้าถิ่นอย่าง นพ ชีวานันท์ และจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ ต.ชายนา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังปัญหาความทุกข์ยากของพี่น้องชาวนาในพื้นที่

 

อย่างที่รู้กัน นับแต่ปี 2544 ยุคพรรคไทยรักไทย จนมาถึงปี 2554 พรรคเพื่อไทย สมรภูมิเลือกตั้งภาคกลาง พรรคการเมืองของทักษิณเป็นแชมป์มาตลอด เนื่องจากเกษตรกรในภาคกลางรวมถึงภาคตะวันตกและตะวันออก ต่างนิยมชมชอบอดีตนายกฯทักษิณ

หลังรัฐประหาร 2557 รัฐบาล คสช. ได้อัดฉีดประชานิยมสูตรใหม่ และขยายผลความล้มเหลวของนโยบายจำนำข้าว ฐานเสียงเกษตรกรของเพื่อไทยก็สั่นคลอน บวกกับกลุ่มการเมืองบ้านใหญ่ ได้ทิ้งทักษิณไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ,พรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติไทยพัฒนา จึงส่งผลให้เพื่อไทยเสียแชมป์ภาคกลางให้พลังประชารัฐ

 

โดยเฉพาะฐาน ส.ส.แถวที่ราบลุ่มเจ้าพระยา ป่าสัก ท่าจีน และแม่กลอง พลังประชารัฐได้เข้ามาแย่งชิงจากเพื่อไทยไปเกือบหมด

 

‘ฟื้นภาคกลาง’

ขุนพลภาคกลางเพื่อไทยไม่ได้เข้าสภาฯ “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ จึงต้องลงพื้นที่เอง พร้อมดึง ส.ส.หนุ่มสาวเข้าไปพบกับชาวนากรุงเก่า

 

พลิกแฟ้มเลือกตั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก(ไม่รวม กทม.) ปี 2554 มีเก้าอี้ ส.ส.จำนวน 127 ที่นั่ง และเพื่อไทย ได้เก้าอี้ ส.ส.เขตมากที่สุด 55 ที่นั่ง ขณะที่ปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ ได้ 38 ที่นั่ง จาก 121 ที่นั่ง ส่วนเพื่อไทย ได้ ส.ส.เพียง 18 ที่นั่ง

วิทยา บุรณศิริ อดีต ส.ส.อยุธยาหลายสมัย ก็สอบตก จึงทำให้สมรภูมินี้ขาดแม่ทัพในสภาฯ จึงเป็นภารกิจใหญ่ของชลน่าน ในวันข้างหน้า

 

ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่า ตระกูลสะสมทรัพย์ นครปฐม,ไกรวัตนุสสรณ์ สมุทรสาคร, เทียนทอง สระแก้ว และอดีต ส.ส.หลายคน ได้ทิ้งเพื่อไทยไปสังกัดพรรคอื่น ย่อมส่งผลให้จำนวน ส.ส.ลดหายไปโดยปริยาย

 

เหตุที่อดีต ส.ส.หลายสมัย กล้าสวมเสื้อพรรคอื่นลงสนาม เพราะประเมินแล้วสนามภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก กระแสนิยมทักษิณเบาบาง ต่างจากภาคอีสานและภาคเหนือ

 

‘บ้านใหญ่หนี’

การเลือกลงพื้นที่พบชาวนาใน อ.เสนา ของ “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นฐานเสียงเพื่อไทย 1 ใน 2 เขตที่เหลืออยู่ในอยุธยา

 

เลือกตั้ง ส.ส.อยุธยาครั้งที่แล้ว มี ส.ส. 4 คน พรรคเพื่อไทยได้ 2 คน และพรรคภูมิใจไทย ได้ 2 คน ซึ่งคนกรุงเก่ารู้สึกแปลกใจที่ สมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายก อบจ.อยุธยา พาลูกชายสุรศักดิ์ พันธุ์เจริญวรกุล ไปสังกัดภูมิใจไทย

 

ว่ากันว่า ซ้อสมทรงสนิทสนมกับ เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต ส.ส.อยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา จึงพาไปอยู่ค่ายเนวิน เพราะมีปัญหาทางใจกับวิทยา บุรณศิริ อดีต ส.ส.อยุธยา

 

เลือกตั้งหนหน้า อยุธยา มี ส.ส.เพิ่มเป็น 5 คน ยังไม่รู้ว่า เจ๊สมทรง จะพาลูกชายกลับเพื่อไทยหรือเปล่า หรือคนแดนไกลยังจะให้วิทยา เป็นแม่ทัพอีกหรือไม่ ช่วงนี้ยังไม่มีความชัดเจน

 

จนถึงวันนี้ พรรคเพื่อไทยยุค ชลน่าน ศรีแก้ว ก็ยังไม่ได้จัดวางตัวแม่ทัพภาคกลาง หรือค่ายคนแดนไกลจะรอ ส.ส.บ้านใหญ่บางกลุ่ม จากพลังประชารัฐไหลกลับเพื่อไทย หลังความขัดแย้งในพลังประชารัฐ นับวันยิ่งร้าวลึก ยากจะกลับมาสามัคคีกันได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ