คอลัมนิสต์

แยกกันไม่ได้ "ประวิตร" พึ่งประยุทธ์สู้ศึกเมืองหลวง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เก็บตกทัวร์คำชะโนด "ประวิตร" ประกบประยุทธ์ โชว์ปึ้กพี่น้อง 3 ป. นำทัพพลังประชารัฐ เตรียมพร้อมสู่สมรภูมิ กทม. และเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ทัวร์คำชะโนดยังไม่จบ “ประวิตร” ติดขบวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อุดรธานี หนีไม่พ้นการเมืองเรื่องพี่น้อง 3 ป.

 

ก่อนหน้านั้น “ประวิตร” เพิ่งย้ำสัมพันธ์พี่น้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ มา 40 ปีต่อหน้า ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ ไม่มีวันแยกจากกัน

 

“ประวิตร” รู้ดีไปอุดรฯ ไม่มีผลอะไรกับพลังประชารัฐ แต่ประมุขบ้านป่ารอยต่อฯ มองการณ์ไกลในสนาม กทม. ยังไงก็ต้องพึ่งพาน้องรัก ป.ประยุทธ์

 

ควันหลงตรวจราชการเมืองอุดรธานีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สื่อหลายสำนักยังนำคลิปกองเชียร์อดีตหมู่บ้านเสื้อแดง และคลิปสาวบ้านดุง มาเล่นกันสนุกสนาน

 

จริงๆแล้ว ผู้รับหน้าที่จัดการมวลชนเพื่อต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรี ก็คือ อานนท์ แสนน่าน อดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง ซึ่งตอนหลังได้มาทำงานให้กับแรมโบ้อีสาน-เสกสกล อัตถาวงศ์

ในมิติการเมือง สนามเลือกตั้งอุดรธานี พรรคเพื่อไทยยึดครองได้ทั้งเก้าอี้ ส.ส. และนายก อบจ. มาหลายสมัยแล้ว ยังยากที่จะมีพรรคอื่นมาต่อกรได้

 

ดังนั้น ภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ควงคู่กันไปเมืองอุดรฯ จึงส่งผลต่อการเมืองภายในพลังประชารัฐมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้มีแต่ข่าวความขัดแย้งของ ส.ส.แต่ละกลุ่มแต่ละซุ้ม

 

เหนืออื่นใด สัญญาณการเลือกตั้งท้องถิ่นกรุงเทพมหานครได้มีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ควรจะถึงวาระเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.)

 

‘กระแสตัวชี้ขาด’

สนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร “พล.อ.ประวิตร” แถลงชัดพลังประชารัฐจะไม่ส่งผู้ว่าฯ กทม. แต่จะส่ง สก.ทั้ง 50 เขต เพื่อปูทางสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ซึ่งการต่อสู้ในสนามเมืองหลวงเป็นเรื่องของกระแส มากกว่าฐานเสียงของตัวบุคคล

ในแง่การตลาดการเมือง ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังขายได้ในคนกรุงเทพฯกลุ่มหนึ่ง หากดูจากผลการสำรวจของสถาบันการศึกษาหลายแห่ง พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

 

ย้อนดูผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 พรรคพลังประชารัฐ ได้เกือบ 8 แสนคะแนน สูสีกับพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ 8 แสนคะแนน ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ 6 แสนคะแนน และพรรคประชาธิปัตย์ ได้กว่า 4 แสนคะแนน

 

โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เป็นการต่อสู้ 2 กระแสคือ กระแสความสงบจบที่ลุงตู่ กับกระแสพ่อของฟ้า จึงทำให้คะแนนของเพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ลดลงอย่างฮวบฮาบ เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งปี 2554

 

ยกตัวอย่างการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อ 3 มี.ค.2556 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พรรคประชาธิปัตย์ พลิกเอาชนะพงศพัศ พงษ์เจริญ พรรคเพื่อไทย ในสัปดาห์สุดท้าย เมื่อมีการปลุกกระแสต้านระบอบทักษิณ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น โพลทุกสำนักระบุตรงกันว่า คุณชายสุขุมพันธุ์แพ้พงศพัศ

 

‘ต้องพึ่งลุงตู่’

แม้จะมีการปล่อยข่าว “ประวิตร” มอบให้ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นแม่ทัพ กทม. แต่เสียงจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ครั้งล่าสุด ย้ำชัดว่า จะขอดูแลสนามเมืองหลวงเอง เพื่อลดความขัดแย้งภายในพรรค

 

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2564 ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานมอบนโยบายการทำงานของภาค กทม.แก่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ตอนหนึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมจะมาดู กทม.เอง ขอให้สบายใจได้ ขอให้รักกัน ไม่ทะเลาะกัน ขอให้อยู่ด้วยกัน”

 

พล.อ.ประวิตร ประกาศว่า 12 ส.ส.ที่เคยได้นั้น ถือว่าน้อยไป เลือกตั้งครั้งหน้าอยากได้เพิ่มอีก 12 คน ซึ่งจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสำเร็จในสนามกรุงเทพฯ กระแสภาพรวมของผู้นำและพรรคเป็นปัจจัยหลัก ส่วนฐานเสียงของ ส.ส.หรือผู้สมัคร ส.ส.แต่ละคนเป็นปัจจัยรอง

 

ลึกๆแล้ว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พยายามจะเข็น พล.อ.ประวิตร นำทัพเมืองหลวงเอง โดยไม่ต้องพึ่ง ป.ประยุทธ์ แต่ประมุขบ้านป่ารอยต่อฯ รับรู้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างธรรมนัส กับ ส.ส.กทม.บางกลุ่ม จึงกระโดดเข้ามาคุม กทม.เอง

 

ดังที่รู้กัน 12 ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ มากกว่าครึ่งนั้น ไม่ได้สังกัดกลุ่มธรรมนัส และมีความใกล้ชิดกลุ่ม 6 รัฐมนตรีที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์

 

“40 กว่าปีผมกับนายกฯ ดูแลกันมาตลอด ยืนยันเป็นหนึ่งเดียวไม่แตกแยก นายกฯ มีหน้าที่บริหารประเทศ ผมมีหน้าที่บริหารพรรค” คำพูดของ พล.อ.ประวิตร ต่อหน้า ส.ส.กทม.วันนั้น ส่งสัญญาณชัดเจนว่า เลือกตั้งสมัยหน้า พลังประชารัฐยังต้องพึ่งพากระแสลุงตู่ เหมือนปี 2562

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ