คอลัมนิสต์

จับอาการ “ปิยบุตร-พริษฐ์-พิธา” หลังโดนคว่ำร่างรธน.ฉบับประชาชน “แพ้ในชนะ”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ในความพ่ายแพ้ต่อเสียงโหวต.. อาจแฝงไว้ซึ่งชัยชนะ จับอาการ “ปิยบุตร-พริษฐ์-พิธา” หลังโดนคว่ำร่างรธน.ฉบับประชาชน “แพ้ในชนะ” เพราะนี่คือบทเริ่มต้นของการต่อสู้ และการเดินบนเส้นทางประชาธิปไตยในเวทีรัฐสภา

ถึงแม้ว่าร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. ที่เสนอโดยนายพริษฐ์  วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 135,257 คน จะถูกตีตกตั้งแต่วาระแรก จากผลการลงคะแนนเสียงของสมาชิกรัฐสภาเมื่อวานนี้(17 พ.ย.) ด้วยคะแนนเสียง 473 ต่อ 206 คะแนน โดยมี ส.ส.และส.ว. ไม่รับหลักการ 473 เสียง และรับหลักการ 206 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 723 เสียงและงดออกเสียง 6 เสียง  

 

จับอาการ “ปิยบุตร-พริษฐ์-พิธา” หลังโดนคว่ำร่างรธน.ฉบับประชาชน “แพ้ในชนะ”

 

แต่กับการที่ได้มีตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมอภิปรายในเวทีรัฐสภาเพื่อนำเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน ก็ถือเป็นมิติใหม่ทางการเมือง และเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับแต่ประเทศไทยได้มีการรัฐประหารเกิดขึ้นในปี 2549 และการรัฐประหารในปี 2557 “เจาะประเด็นร้อน” โดย อักษร 8 ทิศ เฝ้าสังเกตอากัปกิริยาที่เกิดขึ้นจากฟากฝั่งของผู้เสนอกฎหมายและพรรคการเมืองที่ร่วมสนับสนุน เห็นได้ว่านี่คือบทเริ่มต้นของการพิสูจน์ถึงแนวทางที่นำเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนว่าได้เดินมาถูกทางแล้วหรือไม่ หรือยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือต้องพยายามต่อไป
 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผลโหวตร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชนจะถูกโหวตคว่ำร่าง เป็นการแพ้เสียงโหวต  แต่นี่ก็นับเป็นชัยชนะก้าวแรกของภาคประชาชน ที่ลงชื่อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญกว่า 1.3 แสนคน หรืออาจจะเรียกว่านี่คือ “แพ้ในชนะ.. ร่างรธน.ประชาชน” เพราะถ้าหันไปจับอากัปกิริยาในบางช่วง บางตอนของบทสัมภาษณ์ หรือการแถลงข่าวของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า หรือแม้แต่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล น้ำเสียงที่ดูเหมือนยอมรับความพ่ายแพ้  นั้น แต่แฝงไปด้วยการอาการฮึดสู้ และพร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย 

 

“ต้องยอมรับว่าภารกิจยังไม่สำเร็จ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเราเชื่อว่าถ้าเรามีรัฐธรรมนูญที่มีกระบวนการและเนื้อหาที่ไม่ชอบธรรมเช่นนี้ จะไม่สามารถแก้วิกฤตทางการเมืองได้

 

ไม่อยากให้ติดกับดักที่ใช้ในการอภิปรายว่าร่างของเราเป็นร่างที่สุดโต่ง และขอยืนยันว่าร่างของเรามีเนื้อหาที่ไม่ได้สุดโต่ง เป็นอะไรที่ปกติมากในระบอบประชาธิปไตย และไม่อยากให้สังคมมองว่าการที่ร่างฉบับนี้ถูกปัดตกเป็นเพราะร่างของเราไกลหรือสุดโต่งเกินไป เหมือนอย่างที่สมาชิกรัฐสภาบางคนทำให้เข้าใจผิด” นายพริษฐ์ กล่าว 

 

จับอาการ “ปิยบุตร-พริษฐ์-พิธา” หลังโดนคว่ำร่างรธน.ฉบับประชาชน “แพ้ในชนะ”

“เราคาดหวังว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่มีข้อพิจารณาถึงความต้องการของประชาชนข้างนอกสภา และเราหวังว่าสมาชิกรัฐสภาจะเงี่ยหูฟังเสียงที่ก่นร้องอยู่ข้างนอกสภาดังๆ บ้าง แต่ผลการลงมติก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าสมาชิกรัฐสภาเสียงข้างมากยังไม่ยินยอมเปิดประตูให้การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนให้ผ่านในวาระที่ 1 

 

ดังนั้น ประชาชนที่ร่วมลงชื่อและติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่าเพิ่งสิ้นหวัง พวกเรายังมีลมหายใจ ยังมีความคิด ยังมีกำลังที่จะรณรงค์ต่อไป เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำได้ยาก แต่หากเราไม่เคลื่อนไหว ไม่รณรงค์ต่อไป พวกเขาก็จะอยู่กับรัฐธรรมนูญที่เขาออกแบบมาได้อย่างต่อเนื่องตลอดกาล 

 

จึงเป็นภารกิจของพวกเราประชาชน ผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญตัวจริงเสียงจริง จำเป็นต้องรณรงค์ผลักดันเรื่องนี้ต่อไปแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ล้มเหลว แม้ว่าจะล้มลงกี่ครั้งก็ตาม เราต้องลุกขึ้นมาใหม่แล้วต่อสู้ผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จจนได้” นายปิยบุตร ย้ำ

 

จับอาการ “ปิยบุตร-พริษฐ์-พิธา” หลังโดนคว่ำร่างรธน.ฉบับประชาชน “แพ้ในชนะ”  

 

"ประเด็นที่จะขอสื่อสารไปถึงประชาชนกว่า 1.3 แสนรายชื่อที่เข้าร่วมเสนอชื่อแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 16 พ.ย.64 กว่า 16 ชม. ไม่ถือว่าสูญเปล่า เมื่อวันหนึ่งหากเรามองมาจากอนาคต ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง ผมคิดว่าการอภิปรายเมื่อวานนี้เป็น Golden Moment ทำให้มีวาระที่เราสามารถถกแถลงอย่างเป็นทางการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

พรรคก้าวไกล พร้อมจะนำข้อเสนอของพี่น้องประชาชนไปเป็นนโยบายการเมืองของพรรคในการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นต่อไป เเละหวังว่าจะได้รับเเรงสนับสนุนจากประชาชนที่เชื่อเเละเห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้ามา เพื่อผลักดันแก้ไข ให้ความหวังของประชาชนให้เป็นจริงได้

 

ตราบใดที่มีลมหายใจ เราก็ยังมีความหวังที่จะต้องทำความฝันของพี่น้องประชาชนให้เป็นจริงในสักวัน เราต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อทำให้สังคมไทยใกล้กับการเมืองไทยมากขึ้น “  หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ 

 

จับอาการ “ปิยบุตร-พริษฐ์-พิธา” หลังโดนคว่ำร่างรธน.ฉบับประชาชน “แพ้ในชนะ”

 

ทั้งหมดคือความตั้งใจของกลุ่มผู้เสนอกฎหมาย และพรรคการเมืองที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ในบางประเด็น บางข้อกฎหมาย อาจจะยังไม่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย กับการเมืองไทย กับประชาธิปไตยแบบไทย ๆ.. ซึ่งต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ หล่อหลอม และ "แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง" เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ประชาชนคนไทย และสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยตลอดไป


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ