พลิกกลับ 360 องศา ภายหลังเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ หนุนแก้กม.อาญาม.112 แต่วันรุ่งขึ้น ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซั่ม กลับร่ายยาว กฎหมายนี้ดีอยู่แล้ว แต่คนปฏิบัติในกระบวนการกม.ต้องแก้ไข ขณะที่ปิยบุตรออกอาการเหวอ ติดตามได้จากเจาะประเด็นร้อน โดยเมฆาวายุ
จังหวะการเมืองทั้งในและนอกสภาของหลายฝ่ายตอนนี้ โดยเฉพาะขั้วตรงข้ามรัฐบาลได้ลงแรงพยายามอีกครั้งที่จะเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 แต่ดูทรงแล้ว "น่าจะปิดกล่อง...ในไม่ช้าไม่นาน"
เพราะ "พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา" หัวหน้ารัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลยืนยัน"ไม่แก้ไข" บวกกับ "โทนี่ วู้ดซั่ม" ก็มาเบรกเกมเสริฟ์ของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งหลายพรรคฝ่ายค้านในยามนี้ก็มิรับลูกเท่าใดนัก เพราะคำตอบดูอ้อมแอ้มยังไงพิกลอยู่...(คือไม่ยกเลิก แต่ให้แก้ไขนิยามบทลงโทษรวมทั้งการกล่าวหาจากผู้กล่าวหาให้ชัดเจน บวกกับดุลพินิจการสั่งฟ้องของพนักงานสอบสวนและหลักการปล่อยตัวชั่วคราวในการสู้คดี )
แปลความง่ายๆ"เรื่องนี้จบข่าวตั้งแต่ในมุ้ง..." เว้นแต่บางกลุ่มที่ยังต้องขับเคลื่อนเพื่อคะแนนนิยมของตัวเองในยามหน้า(มีเพียงกลุ่มแคร์ พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้าและกลุ่มมวลชนสามนิ้วที่โดนคดีความยังพยายามที่จะเสนอให้มีการสังคายนามาตรานี้ โดยอ้างบทลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ)และลองย้อนไปดูเหตุผลในการชักแม่น้ำทั้งห้าของมือกฎหมายขวัญใจกลุ่มสามนิ้วคือ "ปิยบุตร แสงกนกกุล" นั้น คล้ายว่าเอาสีข้างเข้าถูแบบข้างๆคูๆ ในการเสนอแก้ไขมาตราดังกล่าว
ขอถามว่าพฤติกรรมของมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวในห้วงที่ผ่านมา... ดำเนินการถูกทำนองคลองธรรมหรือไม่เพราะรัฐธรรมนูญของทุกชาติก็ยังบัญญัติการห้ามละเมิดต่อสถาบันหลักของประเทศตัวเองไว้แทบทั้งนั้น
อย่าลืมว่าทุกประเทศในโลกนั้น ต่างมีตัวบทกฎหมายบัญญัติไว้มิให้ประชาชนฝ่าฝืน เพราะสิทธิและหน้าที่ของบุคคลตามกฎหมายนั้นระบุไว้ชัดแล้ว ดังนั้นการอ้างเสรีภาพในการแสดงออกนั้น แปลว่าทุกอย่างย่อมมีขอบเขต
หลากวาระที่ผ่านมาของผู้สนับสนุนและผู้ชุมนุมกลุ่มสามนิ้วในการเรียกร้องนั้น ถามว่า ล้ำเส้นบ้างหรือไม่ และสำนึกในการกระทำบ้างหรือไม่...
สมมติว่าเกมแก้มาตรา112นี้ ขยับได้จริง ขั้นตอนต่อมาคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวดที่หนึ่งและหมวดที่สอง (ให้สอดรับกับการแก้ไขมาตรา 112และหมวดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง)ต้องมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา ต้องสอบถามหลากองค์กรที่เกี่ยวข้องและต้องทำประชามติ
แบบนี้ใช่ว่าฝ่ายที่รณรงค์จะสมหวังได้ง่ายดาย เพราะกุนซือของฝ่ายปั่นกระแสดังกล่าวก็น่าจะอ่านเกมออกว่า เกมนี้ไม่ง่ายเลย แต่หากต้องการปั่นกระแสหาคะแนนนิยมก็ต้องลุยในตอนนี้แล้วไปหาเหตุผลในวันหน้าชี้แจงหากสิ่งที่ปลุกเร้าไปนั้นล้มเหลวหรือลุล่วง
เว้นเสียแต่ว่ามวลชนบางรายที่โดนกล่อมประสาทหรืออ่านตำราประวัติศาสตร์แบบไม่รอบด้านจะหลงเป็นเหยื่อของการปลุกปั่นคราวนี้ และออกมาเปิดหน้าลุยไฟแบบไม่ยั้งคิดไม่ยั้งมือ
ตัวอย่างง่ายๆแกนนำกลุ่มสามนิ้วบางรายที่โดนกล่าวหาในมาตรานี้แล้วเสมือนยุติบทบาทชั่วคราว แต่บางรายยังขยับต่อและเพิ่มคดีขึ้นเรื่อยๆในการแสดงออกตามวาระต่างๆ จากนั้นก็ออกมาร้องเรียกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หากย้อนไปในห้วงเวลาที่ผ่านมา บุคคลที่โดนคดีความตามมาตรา 112 กระทำตนตามข้อกล่าวหาหรือไม่ (แนะนำให้ไปค้นคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์มาอ่านให้รอบคอบ)
และบางคนที่ถูกกล่าวหาจากมาตราดังกล่าว หากเคยได้รับการประกันตัวมาสู้คดี โดยที่มีเงื่อนไขผูกมัดในการปล่อยตัวชั่วคราว หากยังกระทำผิดซ้ำซาก แบบนี้ควรแล้วหรือที่จะให้ออกมาสู่อิสรภาพชั่วคราว
ลองเทียบกับชาติอื่นๆดูบ้างหากกระทำผิดในทำนองเยี่ยงนี้ว่าหลักการต่อสู้คดีหากถูกกล่าวหาและบทลงโทษเป็นเช่นใด ไม่ใช่ว่าจะดันทุรังทำนองว่าความต้องการของข้าพเจ้าถูกต้องเพียงฝ่ายเดียว ผิดจากนี้คือผิด...
หากหลักคิดแบบนี้...ยังคงอยู่ การเรียกร้องใดๆของกลุ่มสามนิ้วและแนวร่วมน่าจะขายได้เฉพาะแฟนคลับ และมิอาจโน้มน้าวใจคนส่วนใหญ่ให้คล้อยตามได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง